xs
xsm
sm
md
lg

“อลงกรณ์” แนะ รธน.ส่วนแรกยึดสากล เฉพาะกิจใส่ในเฉพาะกาล เชิญคู่ขัดแย้งถก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อลงกรณ์ พลบุตร  รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (แฟ้มภาพ)
“เสี่ยจ้อน” เผยเป็นเรื่องท้าทายมากของ กรธ. ที่ปรับร่าง รธน.ตอบสนองทุกภาคส่วน โดยเฉพาะปมมาตรการไม่ให้ชาติเผชิญวิกฤตของ ครม. ชี้เป็นข้อกังวลทุกฝ่าย ไม่ได้หวังสืบทอดอำนาจ ชงข้อเสนอแนะ รธน.ส่วนแรกยึด ปชต.สากล เรื่องเฉพาะกิจให้บัญญัติในบทเฉพาะกาล ระบุขั้นตอนให้ชัด เชิญการเมืองคู่ขัดแย้งร่วมหารือเพื่อปรองดอง ยกตัวอย่างตามพม่า

วันนี้ (21 ก.พ.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศคนที่ 1 กล่าวว่า ขณะนี้กรธ.กำลังปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญหลังจากรับฟังข้อเสนอจากทุกภาคส่วนรวมทั้งแม่น้ำ 3 สาย (ครม.-สปท.-สนช.) เพื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 29 มีนาคมนี้ก่อนถึงวันลงประชามติ 31 ก.ค.ตามโรดแมปสู่การเลือกตั้งในปีหน้าเป็นเรื่องท้าทายอย่างมากของ กรธ.ว่าจะปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญอย่างไรในการตอบสนองข้อเสนอของภาคส่วนต่างๆโดยเฉพาะความเห็นที่ ครม.ส่งให้ กรธ. 16 ข้อมีโจทย์ใหญ่คือจะมีมาตรการอะไรไม่ให้ประเทศเผชิญวิกฤติการณ์ดังเช่นที่เกิดขึ้นก่อนการรัฐประหาร 22 พ.ค.ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางอยู่ในตอนนี้

รองประธาน สปท.คนที่ 1 กล่าวว่า ข้อห่วงใยของ ครม.ตรงกับความกังวลของคนส่วนใหญ่ที่ไม่แน่ใจว่าหลังเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองขยายบานปลายกลายเป็นวิกฤตของประเทศตลอดเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมาจนประเทศไทยเกือบเป็นรัฐที่ล้มเหลวและท้ายที่สุดจบลงด้วยการรัฐประหารถึง 2 ครั้ง ดังนั้นจึงขอเสนอต่อ กรธ.ดังนี้ 1. ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญส่วนแรกที่ใช้บังคับเป็นการถาวรให้ยึดแนวทางประชาธิปไตยที่เป็นหลักสากลเช่น นายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส., ส.ว.มาจากการเลือกตั้งโดยตรง, วางระบบถ่วงดุลและตรวจสอบบนฐานอำนาจอธิปไตย 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหารฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการเป็นหลัก, กำหนดสิทธิเสรีภาพและหน้าที่ของปวงชนชาวไทยให้ชัดเจนเป็นมาตรฐานสากลและการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่าให้ยากจนเกินควร เป็นต้น

2. ส่วนเรื่องเฉพาะกิจในระยะเปลี่ยนผ่านให้บัญญัติในบทเฉพาะกาล เช่น ที่มานายกฯ ที่มา ส.ว. มาตรการและกลไกป้องกันวิกฤตมิให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ก่อน 22 พ.ค. 2557 โดยเขียนระยะเวลาและขั้นตอนกระบวนการให้ชัดเจน โดย กรธ.ควรเชิญตัวแทนพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองโดยเฉพาะคู่ขัดแย้งมาหารือเฉพาะประเด็นสำคัญในระยะเปลี่ยนผ่านเพื่อประกอบการพิจารณาปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญในบทเฉพาะกิจเฉพาะกาล การแก้ไขปัญหาความแตกแยกขัดแย้งทางการเมืองเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ปรองดองไม่สามารถใช้อำนาจใดๆ แม้แต่รัฐธรรมนูญบังคับให้เกิดขึ้นได้ ดังเช่นการรัฐประหารปี 2549 และรัฐธรรมนูญปี 2550 เว้นแต่จะให้ฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะคู่ขัดแย้งมีส่วนในการช่วยคิดช่วยทำและตระหนักถึงปัญหานี้ที่ต้องรับผิดชอบอนาคตของประเทศร่วมกัน ตัวอย่างการเปลี่ยนผ่านอำนาจในประเทศพม่าเป็นตัวอย่างที่ดีที่เห็นเป็นประจักษ์ และใกล้ตัวที่สุด

“ข้อกังวลของ ครม.ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะเป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจมองข้ามหรือละเลยไม่ใส่ใจและไม่ใช่เป็นข้อห่วงใยของ ครม.แต่ฝ่ายเดียวหากเป็นข้อกังวลของทุกฝ่ายและไม่ใช่ประเด็นที่จะมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจแต่อย่างใด ผมคิดว่าเป็นโจทย์ใหญ่ของประเทศและของทุกคน เคยถามนักการเมืองพรรคใหญ่ว่ามั่นใจแค่ไหนว่าเลือกตั้งแล้วจะไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงหรือวิกฤตอีก ปรากฏว่าไม่มีใครมั่นใจแม้แต่ฝ่ายเดียว ดังนั้นต้องช่วยกันออกแบบมาตรการเพื่อป้องกันหรือแก้ไข มิใช่ปล่อยให้ไปตายเอาดาบหน้า สูญเสียชีวิตเลือดเนื้อ บ้านเมืองแตกแยก และประชาธิปไตยไปไม่รอด”


กำลังโหลดความคิดเห็น