รองนายกรัฐมนตรี ลงนามระเบียบของ สสส. ใหม่ 15 ฉบับ แก้ไขปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน หวังเบรกอนุมัติงบประมาณให้กับมูลนิธิหรือองค์กรที่มีบุคคลใน สสส. เข้าไปเกี่ยวข้องได้อีก คาดยกเลิกคำสั่งตรวจสอบการเบิกจ่ายงบประมาณของ สสส. ภายในสัปดาห์หน้า พร้อมประชุมบอร์ดพรุ่งนี้ พิจารณารายชื่อผู้เหมาะสมบอร์ดผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน
วันนี้ (18 ก.พ.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณายกเลิกคำสั่งที่ให้ระงับการจ่ายเงินแก่องค์กรภาคีมูลค่ากว่า 1.9 พันล้านบาท ว่า ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ตนได้ลงนามในระเบียบของ สสส. ฉบับใหม่ รวม 15 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนการขอทุนในโครงการต่าง ๆ และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้รายงานความคืบหน้าให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับทราบแล้ว
ทั้งนี้ ตามระเบียบ สสส. ฉบับใหม่กลุ่มดังกล่าว จะทำให้ สสส. ไม่สามารถอนุมัติงบประมาณให้กับมูลนิธิหรือองค์กรที่มีบุคคลใน สสส. เข้าไปเกี่ยวข้องได้อีก ซึ่งหลังจากนี้จะมีการออกกฎหมายเพื่อแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 เพื่อให้มีผลบังคับใช้เป็นการถาวรต่อไป
“หลังจากนี้ พล.อ.ชาตอุดม ติตถะสิริ ประธานคณะกรรมการติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) จะเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยกเลิกคำสั่งที่ให้ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เข้าไปตรวจสอบการเบิกจ่ายงบประมาณของ สสส. คาดว่า จะได้ข้อยุติภายในสัปดาห์หน้า ทำให้ สสส. สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามปกติ อันเป็นการปลดล็อกโครงการที่ถูกแช่แข็งอยู่กว่า 1.9 พันล้านบาท” พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าว
ส่วนการแก้ไขปัญหาการเรียกภาษีย้อนหลังกับมูลนิธิ หรือองค์กรที่ได้รับงบประมาณจาก สสส. นั้น พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ สสส. จะเข้าไปแก้ไขปัญหาเองในรายกรณี ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการสรรหาบอร์ด สสส. ผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน แทนผู้ที่ถูกปลดโดยคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 1/2559 พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า จะมีการประชุมบอร์ด สสส. ในวันที่ 19 ก.พ. นี้ เพื่อพิจารณารายชื่อผู้เหมาะสมเบื้องต้นคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบกลับมายัง สสส. แล้ว แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่าอดีตบอร์ด สสส. ผู้ทรงคุณวุฒิที่ถูกปลดทั้งหมดจะกลับมาสมัครได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร เพราะทั้ง 7 คน ไม่ได้สมัครเข้ารับการสรรหาแต่อย่างใด
