หน.พรรคคนไทย แนะ “ประยุทธ์” ยอมรับความจริง ทำไม่ไหวต้องออกไปให้คนอื่นมาทำแทน ถ้าไม่อยากเสียของมากกว่านี้ ย้ำยังเชื่อในความตั้งใจ แต่รักชาติมากกว่า ผิดหวังมีพร้อมทั้งโอกาส-กำลัง แต่ไม่เห็นช่วย ปชช.ได้เลย ถามค่าครองชีพนิ่งทั้งที่น้ำมันลดฮวบ เกรงใจใครหรือเปล่า ยุโละทิ้งแม่น้ำ 5 สาย-องค์กรอิสระ ตั้งคนใหม่เท่าที่จำเป็น
วันนี้ (15 ก.พ.) นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวว่า ส่วนตัวยังมีความเชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่ก็มีความรักชาติมากกว่าที่จะรักในตัวหัวหน้า คสช. หลายสิ่งที่รัฐบาลและ คสช.ทำนอกจากไม่ส่งผลดีแล้วยังเป็นการทำร้ายบ้านเมืองและประชาชนอีกด้วย ทั้งที่มีความพร้อมในเรื่องสรรพกำลัง ตลอดจนการออกกฎหมายรองรับอำนาจของตนได้ทุกสิ่ง แต่กลับไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศ หรือบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านได้เลย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อย่างเรื่องปากท้องค่าครองชีพประชาชน ในขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงกว่า 65% ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศลดลง ต้นทุนการขนส่งภายในประเทศลดลงตามไปด้วย แต่ปล่อยให้สินค้าหรือบริการที่เคยขอขึ้นราคาโดยอ้างราคาน้ำมัน เอาเปรียบสังคมโดยการไม่ยอมลดราคาลงตามต้นทุนที่แท้จริง ทำให้ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ทั้งที่น้ำมันราคาน้ำมันลดลงมาก
นายอุเทนกล่าวต่อว่า นอกจากนี้รัฐบาลโดยกระทรวงพลังงานยังไม่มีความสามารถบริหารสถานการณ์ ที่เมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกตกต่ำอย่างหนัก ทั้งที่ควรที่จะกำหนดราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศให้เหมาะสม ไม่ควรปล่อยให้ราคาลดลงจนขาดการควบคุม ส่งผลให้เกิดการไม่ประหยัดเชื้อเพลิง ใช้กันอย่างฟุ่มเฟือย เห็นได้จากปริมาณรถที่เพิ่มขึ้น การจราจรที่ติดขัดจนผิดปกติ ทั้งนี้ การประหยัดพลังงานนอกเหนือจะเป็นผลดีในแง่ทรัพยากรธรรมชาติแล้วยังทำให้ภาครัฐลดการสูญเสียงบประมาณในการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศได้อีกด้วย ในทางกลับกันยังเป็นโอกาสในการกำหนดการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐผ่านภาษีสรรพสามิต หรือกองทุนพลังงานได้มากขึ้น เพื่อนำเงินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ทั้งการช่วยเหลือเกษตรกร หรือการแก้ปัญหาน้ำท่วมภัยแล้ง เป็นต้น แต่เมื่อรัฐปล่อยให้เป็นเช่นนี้ก็เท่ากับผู้ที่ได้ประโยชน์คือ เอกชนขนาดใหญ่ ผู้ประกอบการ และพ่อค้า ซ้ำยังแต่งตั้งคนของหลายๆบริษัทเอกชนเหล่านั้นมาเป็นที่ปรึกษาสร้างภาพใหญ่โต จนอาจกลายเป็นความเกรงใจที่ไม่สามารถออกมาตรการใดๆที่จะทำให้บริษัทเอกชนเหล่านั้นเสียประโยชน์ได้
“บ้านเมืองสูญเสียย่ำแย่มามากแล้ว เราไม่ต้องการให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติมากไปกว่านี้ ถ้าผมเป็นนายกฯ หรือถ้าผมเป็นหัวหน้า คสช. ผมจะลาออกจากทุกตำแหน่ง พร้อมยอมรับความจริงว่าทำไม่ได้ บอกเลยว่าไม่อยากให้เสียของ จึงขอลาออกให้คนอื่นมาทำมาบริหารบ้านเมืองบ้าง” นายอุเทนกล่าว
นายอุเทนกล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ เองก็ท้าทายบ่อยครั้งว่าใครเก่งให้เข้ามาบริหารแทนท่านเลย เพราะท่านไม่อยากเป็น ซึ่งก็มักถูกถามว่าใครบังคับท่าน เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช.เข้ามาแล้ว มีโอกาสแล้ว ก็ควรมุ่งมั่นทำอย่างเต็มที่ กลับไปใช้คนหน้าเดิมๆ จากฟากเดียวที่มีส่วนทำความเสียหายให้บ้านเมืองมาหลายครั้งทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะการที่หัวหน้า คสช.เองเป็นผู้ตั้งคนร่างรัฐธรรมนูญ ที่เมื่อร่างออกมาแล้วคนวิจารณ์ทั่วเมือง ดังจนถึงต่างชาติว่าเลวร้ายที่สุด ตรงนี้ คสช.ก็ทำเหมือนไม่รับรู้ และทำให้ถูกวิจารณ์ว่าต้องการดึงเกมเลือกตั้งให้ยาวออกไป ตนไม่อยากคิดแบบนั้น เพราะจากวันที่ คสช.เข้ามาทำรัฐประหารยึดอำนาจ ตนก็ชื่นชมท่านและคณะว่ามีความกล้าหาญ ห่วงใยบ้านเมือง แม้จะทำช้าไปกว่า 5-6 เดือน จนบ้านเมืองเสียหายมากเกินไป
“ผมเชื่อว่าประชาชนยังรักและฝากความหวังไว้ที่ท่าน อย่าทำให้พวกเราต้องผิดหวังซ้ำซากอีกเลย ท่านต้องรับฟัง ปฏิบัติงานด้วยความเด็ดขาด หยุดใช้คนหน้าเดิมทั้งหมด แต่งตั้งใหม่คนทำงานใหม่ ทั้งแม่น้ำ 5 สาย เอาเท่าที่จำเป็น ไม่ต้องตั้งคนเยอะมากเกิน ไม่ใช่เวลาที่จะมาตอบแทนใครแล้ว ส่วนไหนไม่มีประโยชน์หรือสร้างปัญหาอย่างองค์กรอิสระทั้งหลายก็ควรยุบทิ้ง ไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณ” นายอุเทนระบุ