หัวหน้าพรรคคนไทยโพสต์เฟซบุ๊กเตือน คสช.ซ้ำรอยรุ่นพี่ มีอำนาจไม่ใช้ มัวแต่สร้างสังคมมายาคติ สมคบกันหลอก ปชช. ห่วงปล่อยบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมจนเละ สับแหลกไร้กึ๋นแก้ลอตเตอรี่เกินราคา แถมหาประโยชน์ให้ “ยี่ปั๊ว” เพิ่มอีก
วันนี้ (25 ม.ค.) นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “เมื่อเวลาสุดท้ายมาถึง เมื่อถึงเวลา เมื่อเวลาที่มีสิ้นสุดลง คุณ...? ก็จะรู้ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณก็ทำผิดแบบที่พี่ๆคุณเคยทำนั่นแหละ สงสารประเทศไทย ที่บอบช้ำด้วย มายาคติ และจากผู้สร้างทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดขึ้นมาหลอนหลอกประชาชนผู้ด้อยความรู้ เป็นเวลาอันแสนยาวนาน จะโทษใครล่ะ นอกจากก้มหัว ก้มหน้า ยอมรับมันด้วยความเศร้าใจ”
โดยนายอุเทนได้ขยายความข้อความดังกล่าวว่า พยายามจะสะท้อนให้เห็นสภาพบ้านเมืองภายหลังจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ซึ่งผ่านมาเกือบ 2 ปีแล้วก็ยังไม่เห็นทิศทางการแก้ไขปัญหาในเรื่องใดที่จะประสบความสำเร็จ ทั้งการสร้างความปรองดอง หรือการปฏิรูป ที่รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้เป็นธงนำ รวมไปถึงปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศที่ตกต่ำ ซึ่งยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวในระยะเวลาอันใกล้นี้ ทั้งนี้เรื่องที่มีความเป็นห่วงมากที่สุด คือเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ที่วันนี้แม้ว่า คสช.จะมีอำนาจมาก แต่ก็ยังไม่สามารถขจัดการบิดเบือนกระบวนการทางยุติธรรม หรือทำให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมได้ หากปล่อยไว้อย่างนี้จะกลายเป็นจุดอ่อน กระทั่งเป็นจุดเสื่อมของประเทศ ล่าสุด พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็เปิดเผยเองว่า มีนิตยสาร ต่างประเทศจัดอันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลก โดยไทยอยู่ในอันดับที่ 21 จาก 60 ประเทศที่ดีที่สุดในโลกของปี 2559 โดยบเมื่อพิจารณารายละเอียดของคะแนนที่แบ่งออกเป็นหมวดย่อยต่างๆแล้ว ก็พบว่าส่วนใหญ่เป็นคะแนนที่เกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของประเทศ เช่น วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และทัศนียภาพ เป็นต้น สะท้อนให้เห็นว่า เราเป็นประเทศที่พรั่งพร้อมทุกอย่าง ซึ่งต่างชาติก็ยอมรับ แต่ที่ยังไม่พัฒนาก้าวหน้าได้ไกล ก็เพราะเรื่องกฎหมาย และความเป็นธรรมในสังคม รวมไปถึงวงจรอุบาทว์ที่มีใครบางคนพยายามสร้างมายาคติหลอกลวง และครอบงำประชาชนมาโดยตลอด
นายอุเทนกล่าวต่อว่า มีหลายกรณีที่สะท้อนถึงความหละหลวมของรัฐบาล คสช.ในหลายคำสั่งและการใช้กฎหมายจนทำให้เกิดการสับสน เกิดช่องทางการเอารัดเอาเปรียบ โดยเฉพาะในเรื่องการแก้ไขปัญหาจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่เกินราคา ที่คนใน คสช.พยายามโฆษณาว่าทำสำเร็จแล้ว ควบคุมราคาได้แล้ว แต่ความเป็นจริงก็ยังมีการจำหน่ายสลากเกินราคาอยู่ เช่น บริเวณแยกคอกวัว ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหลักของการจำหน่าย ก็พบว่ามีการนำสลากฯเลขเดียวกันจากต่างหมวดมาจัดชุด คือมีหวยชุด แล้วขายเกินจากราคาที่กำหนด ซึ่งต้องมีการทำกันอย่างเป็นขบวนการ เพราะสลากไม่สามารถเดินเองได้ นอกจากนี้วิธีการเพิ่มจำนวนสลากฯก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ กลายเป็นการเพิ่มช่องทางในการแสวงหาประโยชน์ให้กับผู้ค้ารายใหญ่หรือยี่ปั๊วมากกว่า
“หลายปัญหาของประเทศยังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งที่เป็นจังหวะและโอกาสที่ดี เพราะ คสช.มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่กลับทำไม่ได้ หรือไม่ได้ ไม่กล้าทำตอนนี้ ก็เป็นห่วงว่าพอถึงเวลา คสช.ที่หมดอำนาจลง คงหนีไม่พ้นจะถูกปรามาสว่าเสียของอย่างรุ่นพี่ๆ ทหารที่เคยทำการยึดอำนาจรัฐประหาร เช่นในอดีตที่ผ่านมา” นายอุเทนระบุ