นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "เมื่อเวลาสุดท้ายมาถึง เมื่อถึงเวลา เมื่อเวลาที่มีสิ้นสุดลง คุณ...? ก็จะรู้ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณก็ทำผิดแบบที่พี่ๆ คุณเคยทำนั่นแหละ สงสารประเทศไทย ที่บอบช้ำด้วย มายาคติ และจากผู้สร้างทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดขึ้นมาหลอนหลอกประชาชน ผู้ด้อยความรู้ เป็นเวลาอันแสนยาวนาน จะโทษใครล่ะ นอกจากก้มหัว ก้มหน้า ยอมรับมันด้วยความเศร้าใจ”
โดยนายอุเทน ได้ขยายความ ข้อความดังกล่าวว่า พยายามจะสะท้อนให้เห็นสภาพบ้านเมือง ภายหลังจากการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 ซึ่งผ่านมาเกือบ 2 ปีแล้วก็ยังไม่เห็นทิศทางการแก้ไขปัญหาในเรื่องใดที่จะประสบความสำเร็จ ทั้งการสร้างความปรองดอง หรือ การปฏิรูป ที่รัฐบาล และคสช. ใช้เป็นธงนำ รวมไปถึงปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศที่ตกต่ำ ซึ่งยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวในระยะเวลาอันใกล้นี้
ทั้งนี้ เรื่องที่มีความเป็นห่วงมากที่สุด คือ เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ที่วันนี้แม้ว่าคสช. จะมีอำนาจมาก แต่ก็ยังไม่สามารถขจัดการบิดเบือน กระบวนการทางยุติธรรม หรือทำให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมได้ หากปล่อยไว้อย่างนี้ จะกลายเป็นจุดอ่อน กระทั่งเป็นจุดเสื่อมของประเทศ
ล่าสุด พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็เปิดเผยเองว่า มีนิตยสารต่างประเทศ จัดอันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลก โดยไทยอยู่ในอันดับที่ 21 จาก 60 ประเทศที่ดีที่สุดในโลกของปี 2559 โดยเมื่อพิจารณารายละเอียดของคะแนนที่แบ่งออกเป็นหมวดย่อยต่างๆ แล้ว ก็พบว่า ส่วนใหญ่เป็นคะแนนที่เกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของประเทศ เช่น วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และทัศนียภาพ เป็นต้น สะท้อนให้เห็นว่า เราเป็นประเทศที่พรั่งพร้อมทุกอย่าง ซึ่งต่างชาติก็ยอมรับ แต่ที่ยังไม่พัฒนาก้าวหน้าได้ไกล ก็เพราะเรื่องกฎหมาย และความเป็นธรรมในสังคม รวมไปถึงวงจรอุบาทว์ ที่มีใครบางคนพยายามสร้างมายาคติหลอกลวง และครอบงำประชาชนมาโดยตลอด
นายอุเทน กล่าวว่า มีหลายกรณีที่สะท้อนถึงความหละหลวม ของรัฐบาล คสช. ในหลายคำสั่ง และการใช้กฎหมาย จนทำให้เกิดการสับสน เกิดข่องทางการเอารัดเอาเปรียบ โดยเฉพาะในเรื่องการแก้ไขปัญหาจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ที่คนในคสช.พยายามโฆษณาว่า ทำสำเร็จแล้ว ควบคุมราคาได้แล้ว แต่ความเป็นจริง ก็ยังมีการจำหน่ายสลากฯ เกินราคาอยู่ เช่น บริเวณแยกคอกวัว ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหลักของการจำหน่าย ก็พบว่ามีการนำสลากฯ เลขเดียวกันจากต่างหมวดมาจัดชุด คือ มีหวยชุด แล้วขายเกินจากราคาที่กำหนด ซึ่งต้องมีการทำกันอย่างเป็นขบวนการ เพราะสลากไม่สามารถเดินเองได้ นอกจากนี้วิธีการเพิ่มจำนวนสลากฯ ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ กลายเป็นการเพิ่มช่องทางในการแสวงหาประโยชน์ให้กับผู้ค้ารายใหญ่หรือยี่ปั๊วมากกว่า
"หลายปัญหาของประเทศยังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งที่เป็นจังหวะและโอกาสที่ดี เพราะ คสช. มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่กลับทำไม่ได้ หรือไม่ได้ ไม่กล้าทำตอนนี้ ก็เป็นห่วงว่า พอถึงเวลา คสช.ที่หมดอำนาจลง คงหนีไม่พ้นจะถูกปรามาสว่าเสียของอย่างรุ่นพี่ๆทหารที่เคยทำการยึดอำนาจรัฐประหาร เช่นในอดีตที่ผ่านมา" นายอุเทน ระบุ
โดยนายอุเทน ได้ขยายความ ข้อความดังกล่าวว่า พยายามจะสะท้อนให้เห็นสภาพบ้านเมือง ภายหลังจากการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 ซึ่งผ่านมาเกือบ 2 ปีแล้วก็ยังไม่เห็นทิศทางการแก้ไขปัญหาในเรื่องใดที่จะประสบความสำเร็จ ทั้งการสร้างความปรองดอง หรือ การปฏิรูป ที่รัฐบาล และคสช. ใช้เป็นธงนำ รวมไปถึงปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศที่ตกต่ำ ซึ่งยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวในระยะเวลาอันใกล้นี้
ทั้งนี้ เรื่องที่มีความเป็นห่วงมากที่สุด คือ เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ที่วันนี้แม้ว่าคสช. จะมีอำนาจมาก แต่ก็ยังไม่สามารถขจัดการบิดเบือน กระบวนการทางยุติธรรม หรือทำให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมได้ หากปล่อยไว้อย่างนี้ จะกลายเป็นจุดอ่อน กระทั่งเป็นจุดเสื่อมของประเทศ
ล่าสุด พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็เปิดเผยเองว่า มีนิตยสารต่างประเทศ จัดอันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลก โดยไทยอยู่ในอันดับที่ 21 จาก 60 ประเทศที่ดีที่สุดในโลกของปี 2559 โดยเมื่อพิจารณารายละเอียดของคะแนนที่แบ่งออกเป็นหมวดย่อยต่างๆ แล้ว ก็พบว่า ส่วนใหญ่เป็นคะแนนที่เกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของประเทศ เช่น วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และทัศนียภาพ เป็นต้น สะท้อนให้เห็นว่า เราเป็นประเทศที่พรั่งพร้อมทุกอย่าง ซึ่งต่างชาติก็ยอมรับ แต่ที่ยังไม่พัฒนาก้าวหน้าได้ไกล ก็เพราะเรื่องกฎหมาย และความเป็นธรรมในสังคม รวมไปถึงวงจรอุบาทว์ ที่มีใครบางคนพยายามสร้างมายาคติหลอกลวง และครอบงำประชาชนมาโดยตลอด
นายอุเทน กล่าวว่า มีหลายกรณีที่สะท้อนถึงความหละหลวม ของรัฐบาล คสช. ในหลายคำสั่ง และการใช้กฎหมาย จนทำให้เกิดการสับสน เกิดข่องทางการเอารัดเอาเปรียบ โดยเฉพาะในเรื่องการแก้ไขปัญหาจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ที่คนในคสช.พยายามโฆษณาว่า ทำสำเร็จแล้ว ควบคุมราคาได้แล้ว แต่ความเป็นจริง ก็ยังมีการจำหน่ายสลากฯ เกินราคาอยู่ เช่น บริเวณแยกคอกวัว ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหลักของการจำหน่าย ก็พบว่ามีการนำสลากฯ เลขเดียวกันจากต่างหมวดมาจัดชุด คือ มีหวยชุด แล้วขายเกินจากราคาที่กำหนด ซึ่งต้องมีการทำกันอย่างเป็นขบวนการ เพราะสลากไม่สามารถเดินเองได้ นอกจากนี้วิธีการเพิ่มจำนวนสลากฯ ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ กลายเป็นการเพิ่มช่องทางในการแสวงหาประโยชน์ให้กับผู้ค้ารายใหญ่หรือยี่ปั๊วมากกว่า
"หลายปัญหาของประเทศยังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งที่เป็นจังหวะและโอกาสที่ดี เพราะ คสช. มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่กลับทำไม่ได้ หรือไม่ได้ ไม่กล้าทำตอนนี้ ก็เป็นห่วงว่า พอถึงเวลา คสช.ที่หมดอำนาจลง คงหนีไม่พ้นจะถูกปรามาสว่าเสียของอย่างรุ่นพี่ๆทหารที่เคยทำการยึดอำนาจรัฐประหาร เช่นในอดีตที่ผ่านมา" นายอุเทน ระบุ
