เมืองไทย 360 องศา
อาจจะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรนักสำหรับความเคลื่อนไหวภายในพรรคเพื่อไทยในช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะเรื่องการผลักดัน หรือที่เรียกให้ถูกต้อง ก็คือ “เชิด” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคคนใหม่ เพราะที่ผ่านมาเธอก็พยายามแสดงท่าทางออกมาให้เห็นเด่นชัดมาตั้งนานแล้ว หลังจากที่ “ทายาทคนเก่ง” อย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังติด “บ่วงกรรม” หนักหน่วงจนก้าวขาไม่ออกอยู่ในเวลานี้ ทำให้จำเป็นต้องปล่อยมือแล้วเปลี่ยนเป็นคนอื่น
สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องเลือกคนที่ไว้ใจได้ที่สุด รวมไปถึงคนที่ทำตัวเองให้ไว้ใจได้ที่สุด ซึ่งนาทีนี้น่าจะชัดเจนว่าต้องเป็นเธอคนนั้น ส่วนจะสร้างความไม่พอใจกับกลุ่มอื่น หรือบุคคลอื่นในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดยเฉพาะกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตขุนพลเฒ่าฝั่งธนฯที่ก่อนหน้านี้ “ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ” กันมาแล้วจะว่าอย่างไร แต่ก็อย่างว่าแหละในเมื่อตามสภาพความจริงทุกคนที่เข้ามาแบบไม่ลงทุนทางการเมือง เข้ามาเกาะขาเพื่อหาโอกาสหาตำแหน่งทางการเมืองอะไรก็เกิดขึ้นได้ นับประสาอะไรกับคู่นี้ เพราะหากย้อนกลับไปในยุคที่ สมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ จูบปากญาติดีกับ วีระ (กานต์) มุสิกพงศ์ ก็ยังเกิดขึ้นมาแล้วเลย ดังนั้น เมื่อเคลียร์กันเรื่องบทบาท ผลตอบแทนลงตัวมันก็ไม่มีปัญหาอีกนั่นแหละ
ตามรายงานข่าวระบุว่า เป็นการรวมตัวกันของอดีต ส.ส. และอดีตผู้สมัคร ส.ส. ในเขตกรุงเทพมหานครในความรับผิดชอบของ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งปรากฏว่ามีคนเข้าร่วมสังสรรค์เนื่องในโอกาสวันตรุษจีนครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ที่บ้านพักย่านลาดปลาเค้า โดยไฮไลต์สำคัญยังอยู่ที่การวิดีโอคอลของ ทักษิณ ชินวัตร สายตรงเข้ามายังโทรศัพท์ของเธอ
ตามรายงานอ้างว่า ทักษิณ ชินวัตร กล่าวชื่นชม สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ว่าเป็นหัวหน้าทีม กทม. ที่เก่ง มีความสามารถ ขณะเดียวกัน ก็ได้กล่าวโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติอย่างรุนแรง ในทำนองว่าเป็นผู้นำที่ “บ้าอำนาจ” ขาดสติ ไร้วุฒิภาวะ สารพัด และโจมตีร่างรัฐธรรมนูญฉบับ มีชัย ฤชุพันธุ์ ว่า เป็นการเขียนรัฐธรรมนูญทำให้บ้านเมืองถอยหลังคลอง ล้าหลังไปถึง 20 ปี โจมตีการให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญมากเกินไป
ในตอนท้ายได้ส่งสัญญาณให้บรรดาเครือข่ายเตรียมพร้อม สำหรับการเลือกตั้งพร้อมเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยมีโอกาสสูงมากที่จะกลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง
สำหรับท่าทีดังกล่าวของ ทักษิณ ชินวัตร แม้ว่าไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะหากใครที่ติดตามแบบรู้ทันมานานก็ต้องบอกว่าออกมารูปนี้อยู่แล้ว ทั้งในเรื่องของหุ่นเชิดคนใหม่ในพรรคเพื่อไทยที่มีแนวโน้มสูงว่าน่าจะเป็น สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และที่ผ่านมา เธอก็พยายามแสดงบทบาทให้เห็นแบบนั้นมานานแล้ว ซึ่งรวมไปถึงพยายามแสดงออกให้เห็นในทำนองว่าสามารถประสานงานกับฝ่าย “สีเขียว” ในระดับบิ๊ก ๆ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เป็น “กลุ่มอำนาจใหม่” อยู่ในเวลานี้
ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา แม้ว่า ทักษิณ ชินวัตร จะยังไม่เคยแสดงท่าทีต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ชัดเจนออกมามากนัก แต่หากมั่นใจว่า เป็นการให้สัญญาณผ่านทางเครือข่ายทั้งในพรรคเพื่อไทย และพวกแกนนำเสื้อแดงทุกระดับที่ประกาศคว่ำร่างดังกล่าวในชั้นการลงประชามติที่ตามโรดแมปจะเกิดขึ้นในราวเดือนเมษายนปีนี้ เพราะทุกอย่างมาจากต้นตอเดียวกัน การที่เขาออกโรงแบบนี้มันก็เป็นการประกาศ"เดินหน้าชนเต็มตัว”
อย่างที่รับรู้กันอยู่แล้วว่าเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีผลกระทบโดยตรงต่อ ทักษิณ ชินวัตร มีผลต่อเครือญาติของเขาในแบบเดียวกัน นั่นคือ ถูกห้ามลงสนามการเมืองตลอดชีวิต ขณะเดียวกันยังต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด เรียกว่ากระดิกกระเดี้ยแทบไม่ได้เลย อีกทั้งในสนามเลือกตั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการเลือกตั้งใหม่ การนับคะแนนใหม่ โอกาสที่พรรคเพื่อไทย หรือพรรคใหญ่แบบพรรคเดียวเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลแบบมีอำนาจเบ็ดเสร็จเหมือนเมื่อก่อนนั้นทำได้ยากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย และที่สำคัญหากผ่านการลงประชามติมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ ในอนาคตหากคิดที่จะแก้ไขก็แทบจะ “มืดมนนนทกาล” เลยทีเดียว
ดังนั้น ถ้าพิจารณากันตามเงื่อนไขเวลาที่เร่งรัดเข้ามา มันก็ต้องเข้าใจว่าสำหรับ ทักษิณ ชินวัตร ที่มีเดิมพันข้างหน้าค่อนข้างสูงลิ่วก็ต้องรีบออกตัวตั้งแต่ตอนนี้ และที่สำคัญไม่มีทางเลือกที่จะต้องชน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เต็มตัว เพราะรับรู้แล้วว่านี่แหละคืออุปสรรคขวางกั้นเป็นกระดูกชิ้นโต แต่ขณะเดียวกัน จากความเคลื่อนไหวดังกล่าวข้างต้นมันก็เริ่มเห็นชัดมากขึ้นว่าเขาได้ “หุ่นเชิด” ตัวใหม่แล้วก็ได้ แม้ว่าอาจยังไม่ใช่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่สำหรับ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คงยิ้มแก้มปริกันไปแล้ว!!
