โฆษก คสช. คนใหม่ประเดิมงานแรก แจงเรียกตัว “ไอ้ตู่” มารายงานตัววานนี้ รับปากว่าจะร่วมมือ แฉหลังออกจากกรมทหารไปกินข้าวบนเรือสำราญ แล้วมาด่า “มีชัย” ร่างรัฐธรรมนูญหลังขดหลังแข็ง แนะสื่อฟังคนที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เปรียบเสมือนคนทำนา แล้วถูกคนอยู่เถียงนาด่าต้นข้าวไม่ตรง เผยคู่หูดูโอ “ตู่ - เต้น” คุยกันรู้เรื่อง เคยอยู่บ้านเอเอฟด้วยกัน แค่ต้องการที่ยืนทางการเมือง ขอเบา ๆ ลงหน่อย แนะศึกษารัฐธรรมนูญก่อนเอาแต่ด่า
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่กองบัญชาการทหารบก พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองผู้บัญชาการทหารมณฑลทหารบกที่ 11 (รอง ผบ.มทบ.11) ในฐานะรองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานรักษาความสงบ สำนักงานเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (รอง ศปชส.คสช.) กล่าวถึงการเชิญตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มาพูดคุยที่กองทัพภาคที่ 1 ว่า นายจตุพร ออกมาพูดในลักษณะชักชวนโน้มน้าวให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) มองว่า อาจจะนำไปสู่ความไม่เรียบร้อย จึงได้เชิญตัวมาพูดคุยทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือ ซึ่งนายจตุพรได้รับปาก และตอบรับกับทางราชการว่าจะให้ความร่วมมือในการปฏิรูปประเทศชาติ ทั้งนี้ กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญได้ทำเสร็จแล้ว และได้นำออกมาให้กับทุกภาคส่วนได้ศึกษาในรายละเอียดทั้ง 270 มาตรา กำลังดำเนินกรรมวิธีของการรับฟังความคิดเห็น และยังมีช่วงระยะเวลาอยู่ในการตรวจดูปรับแก้ไข
ทีมโฆษก คสช. กล่าวอีกว่า ขณะนี้เราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ปกติ กำลังร่วมมือร่วมใจก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียน และกำลังทำหลายอย่างเพื่อให้มั่นคงและยั่งยืน สร้างความเจริญให้กับประเทศชาติ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนในชาติมากที่สุด ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจคนบางคน หรือบางกลุ่ม ที่รู้สึกว่าอาจจะเสียผลประโยชน์ ตนเชื่อว่าประชาชนทุกภาคส่วนเริ่มศึกษาในรายละเอียดว่าน่าใช้ น่าสนับสนุน หรือเห็นควรแก้ไข หากเราพิจารณาแล้วจะเห็นว่ารัฐธรรมนูญจะเป็นสากลเหมือนทุก ๆ ประเทศ และมีความเป็นเอกลักษณ์ในการแก้ปัญหาของประเทศชาติบ้านเมืองในเวลานี้ กรุณาให้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะให้สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ ไม่ใช่ออกมาแล้วโจมตี
“เปรียบเสมือนเราทำนา กำลังปลูกข้าวเพื่อเลี้ยงอาหารให้กับประชาชน เพื่อกินในอนาคต เรากำลังเตรียมพื้นดิน ทำที่ทำทางต่าง ๆ แต่ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ยังนั่งอยู่บนเถียงนาในร่ม สูบบุหรี่ แล้วมาชี้ว่า ดำนาไม่ตรง ต้นข้าวไม่ตรง แต่ไม่ได้มองว่าผลผลิตที่ออกมา มันเป็นอย่างไร เราต้องมองไปในอนาคต” พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าว
พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวต่อว่า หลังจากจบการพูดคุยแล้ว ในช่วงบ่าย ก็ได้เดินทางกลับออกไป หลังจากนั้นนายจตุพร ได้ไปทำกิจกรรมต่อ ลงเรือไปทานข้าวทานอาหารกันต่อในช่วงเย็น ทานข้าวดื่มด่ำกันอย่างอิ่มหนำสำราญกันอยู่ในเรือ โดยจบภารกิจของทางนายจตุพร ในเวลา 2 - 3 ทุ่ม ก็ต้องถามว่า ในขณะ นั้น นายมีชัย พร้อมคณะกำลังทำงานกันอยู่ ปรับร่างรัฐธรรมนูญ รับฟังข้อคิดเห็นต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้อยากให้สื่อมวลชนชี้ให้เห็นว่า การทำงานของแต่ละกลุ่มแต่ละฝ่ายแตกต่างกัน เราควรฟังคนที่ทำคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ไม่ใช่ว่าฝ่ายหนึ่งนั่งเรือสำราญ และไปโจมตีว่าไม่ดีไม่งาม มองอีกฝ่ายหนึ่งกำลังนั่งทำงาน เราควรให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์
พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวต่อว่า พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการ คสช. ได้สั่งการให้ กกล.รส. ในทุกภาค ในการลงไปดูแลประชาชนในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะลงไปช่วยเหลือเรื่องภัยแล้ง ภัยหนาว ให้ทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องความรูปเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วย ให้เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้องดีงามและเป็นประโยชน์ ในขณะเดียวกันก็จะได้เชิญคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญมาให้ความรู้ต่อผู้ที่จะลงไปปฏิบัติงาน โดยได้เชิญชวนออกมาใช้สิทธิ์ ออกมามาลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญนี้ให้มากที่สุด ไม่ได้ให้ชี้นำว่ารับหรือไม่รับ เพียงให้ลงไปทำความเข้าใจในเรื่องของประโยชน์ของร่างรัฐธรรมนูญในการวางอนาคตของประเทศชาติอย่างไร
เมื่อถามว่า เรามีมาตรการในการเชิญมาพูดคุยอย่างนี้อย่างเดียว หรือมีการยกระดับมาตรการหรือไม่ พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน เราไม่ต้องการความรุนแรง ไม่ต้องการที่จะทำให้เกิดปัญหาเพิ่มเติมใหม่ เราเชื่อว่า ประชาชนคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็น นายจตุพร หรือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่ม นปช. หรือใครก็ตามเราพูดกันรู้เรื่อง แต่บทบาทและหน้าที่ของแต่ละคนก็ทำกันไป เมื่อเขาจะทำหน้าที่ในฐานะนักการเมือง เราขอร้องว่าในเวลานี้เราขอให้เราได้ทำงาน ตอบสนองความต้องการของประชาชนก่อน โดยส่วนตัวแล้วทั้ง 2 คน เป็นคนที่พูดรู้เรื่อง เราเคยคุยกัน โดยเฉพาะเราเคยอยู่ร่วมกันอยู่หลายวัน ในช่วงเดือน พ.ค. 2557 ที่ผ่านมา เคยรับปากกันว่าขอให้เบาลงในเรื่องของการเมืองในช่วงนั้น
“ผมเข้าใจว่า นายจตุพร ก็ต้องการบทบาท และที่ยืนทางการเมือง เขาก็ทำหน้าที่ของเขา แต่ว่าในเวลานี้เราทำหน้าที่ของเราเพื่อพี่น้องประชาชน เราก็ต้องขอความร่วมมือว่าให้เบา ๆ ลงหน่อย อย่าสร้างกระแส อย่าปลุกมวลชนออกมา หรืออย่าทำความเข้าใจที่ผิด เราก็ทำความเข้าใจกับเค้าแบบนี้ พูดกันแบบดี ๆ เราให้เกียรติ ในฐานะที่เป็นพี่น้องประชาชนเหมือนกัน วัยเดียวกัน พูดกันรู้เรื่อง เขาเป็นระดับแกนนำ เป็นประธาน นปช. เราก็ให้เกียรติ และเชื่อว่าเขาก็จะรู้เรื่อง สิ่งที่อยากจะสื่อไปถึงนายจตุพร คือ ให้ศึกษาในรัฐธรรมนูญมาก ๆ อย่าเพิ่งมาติว่าไม่ดีทั้งเล่ม ข้อดีมันต้องมีมาก แต่ข้อที่ไม่ถูกใจก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา คงไม่ถูกใจทุกคนทุกกลุ่มอาชีพ แต่เชื่อได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีฉบับหนึ่งของประเทศที่กำลังจะเกิดขึ้น อยากเชิญชวนให้ทุกคนได้ศึกษาและอ่านดู” พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ทางพรรคการเมืองที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ทาง คสช. มองอย่างไร พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ทางคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้เก็บ และรับฟังข้อมูลเหล่านี้ เอาไปประมวลและประชุมเพื่อแก้ไข ทำในสิ่งที่เชื่อว่าเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน ทุกสาขาอาชีพ มีความเป็นสากลเหมือนนานาอารยะประเทศ และมีความเป็นเอกลักษณะของประเทศไทย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ พล.ต.ปิยพงศ์ หรือ เสธ.เล็ก ได้รับการแต่งตั้งจากผู้บัญชาการทหารบก เป็นทีมงานโฆษก คสช. เคยดำรงตำแหน่งกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 รอ.) เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 23 (ตท.23) รุ่นเดียวกับ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด หรือ ไก่อู โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ หรือ เสธ.ต้อง โฆษกกระทรวงกลาโหม