ประธาน สนช.เผย สนช.ร่วม สปท.ประชุมฟังคำแจงร่างรัฐธรรมนูญจาก กรธ.พุธนี้ ชมดึงสิทธิเสรีภาพประชาชนเป็นหน้าที่รัฐ รับยังสงสัยบัตรใบเดียวเลือก ส.ส.-เลือกตั้งวุฒิสภาทางอ้อม-เสนอชื่อนายกฯ และ ข้อวิพากษ์อำนาจองค์กรอิสระ ระบุอยากรู้เหมาะสมกับสังคมหรือไม่ ก่อนนัดประชุมอีกทีวันศุกร์ ให้สมาชิกวิจารณ์แล้วรวมความเห็นชงรายงานให้สภาฯ เห็นชอบหรือไม่ 12 ก.พ. ชี้ให้พิจารณากฎหมายลูกแค่ 2 เดือนงานหนัก จ่อย้ายถกในเกาะจะได้ไม่ไปไหน แนะคนคว่ำคิดดีๆ
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 12.25 น. นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงว่า ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ สนช.พร้อมด้วยสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) จะประชุมร่วมกันเพื่อรับฟังคำชี้แจงของ กรธ.ต่อร่างรัฐธรรมนูญอย่างละเอียด โดยจะเปิดโอกาสให้สมาชิกซักถามในประเด็นที่สงสัยได้ ทั้งนี้ สำหรับหลักการสำคัญในเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ กรธ.กำหนดให้เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องดูแลประชาชน ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะหากมีการละเมิดสิทธิจะถือเป็นความผิดของรัฐบาล จึงนำไปสู่การพิจารณาขององค์กรอิสระอื่นๆ ได้ ขณะที่การได้มาของรัฐสภา เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ใช้บัตรใบเดียวนั้น ก็ยังมีข้อสงสัยที่ สนช.ต้องการคำอธิบายจาก กรธ. รวมไปถึงที่มาการเลือกตั้งวุฒิสภาทางอ้อม 20 สาขา โดยให้สาขาอาชีพเลือกไขว้กันนั้น จะมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร เพราะ สนช.บางคนยังไม่เข้าใจว่า วิธีการนี้จะได้ตัวแทนของสาขาจริงๆ และจะทำมีการฮั้วกันเกิดขึ้นหรือไม่ ขณะที่ ประเด็นที่มานายกฯ ที่กำหนดให้พรรคการเมืองเสนอ 3 รายชื่อ รวมไปถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์อำนาจขององค์กรอิสระที่มีอำนาจมากเกินไปและไม่ยึดโยงกับประชาชนด้วย ซึ่งทั้งหมดจะเป็นประเด็นที่ กรธ.ต้องชี้แจงให้ชัดเจน
“ที่ผมออกมาพูดไม่ได้มาชื่นชมหรือมายกย่องเป็นพิเศษ แต่นายกรัฐมนตรีก็บอกอยู่เสมอว่าอยากให้ร่างรัฐธรรมนูญออกมาเป็นสากล และเหมาะสมกับบทบาทของประเทศไทย จึงอยากรู้ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับเป็นไปตามหลักสากล และเหมาะสมกับสังคมไทยหรือไม่” นายพรเพชรกล่าว
นายพรเพชรกล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อรับฟังคำชี้แจงจาก กรธ.ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์แล้ว ตนได้นัดประชุม สนช.ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้เพื่อให้สมาชิกได้แสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างละเอียด พร้อมเหตุผลประกอบ โดยคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะ และรวบรวมความเห็นต่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 เป็นประธาน จะทำการรวบรวมข้อคิดเห็นเป็นหมวดหมู่เพื่อให้ที่ประชุม สนช.ลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบต่อรายงานฉบับนี้ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ก่อนที่จะส่งให้ กรธ.ให้ทันในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ตามที่ กรธ.กำหนดต่อไป
นายพรเพชรกล่าวต่อว่า ส่วนการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนั้น ทาง กรธ.กำหนดว่าจะทำทั้งหมด 10 ฉบับในเวลา 8 เดือนแล้วส่งให้ สนช.พิจารณาภายใน 2 เดือนนั้น ถือว่าเป็นภาระหนักมาก เพราะการจัดกฎหมายแต่ละฉบับต้องพิจารณาอย่างรอบครอบ และใช้เวลา ดังนั้น ตามความเห็นของตน เพื่อให้ทันเวลาอาจจะให้สมาชิกไปพิจารณากันที่เกาะล้าน หรือเกาะช้าง เพื่อไม่ให้สมาชิกออกไปไหน จะได้มีเวลากันอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันระยะเวลา 2 เดือนทันแน่นอน ต้องทำให้ได้ ซึ่ง สนช.จะไม่ขอขยายเวลาในการพิจารณากฏหมายลูก เพราะ หากขยายเวลาอาจถูกโจมตีว่า เป็นการขยายเวลาเพิ่มให้ คสช.หรือไม่
เมื่อถามว่ามีทางออกไว้หรือไม่ หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ นายพรเพชรกล่าวว่า เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดมาตลอดว่ามีทางออก แต่ถ้าพูดตอนนี้ก็เหมือนชี้นำให้รัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ นายกฯ เคยบอกกับตนว่ามีทางออกในเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว เพราะนายกฯ ยืนยันว่า ถึงอย่างไรก็ต้องมีเลือกตั้งในปี 2560 แต่ถ้าถึงเวลากันจริงๆ นายกฯ คงต้องปรึกษา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฏหมายว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนที่นักการเมืองไม่เห็นด้วย และรณรงค์ให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ตนอยากให้นักการเมืองทำความเข้าใจว่า นี่เป็นเพียงร่างแรกเบื้องต้น จึงอยากให้รอดูจนถึงร่างสุดท้าย ถ้าคิดดีๆ อาจเปลี่ยนใจได้ เพราะตนเชื่อว่านายมีชัยจะต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับการให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญแก้วิกฤตของประเทศ นายพรเพชรกล่าวว่า ไม่มีใครการันตีการเกิดวิกฤตของประเทศได้ เพราะวิกฤตเกิดจากพฤติการของมนุษย์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ส่วนที่บทเฉพาะกาลกำหนดให้ สนช.ต้องอยู่ต่อจนมีการเปิดประชุมรัฐสภานัดแรกนั้น ตอนนี้ สนช.คงไม่กล้าพูดอะไรเกี่ยวกับตัวเอง เราต้องฟังเสียงคนอื่น