รองนายกฯ ระบุร่างรัฐธรรมนูญใหม่ใช้ได้ เพื่อเทียบกับฉบับก่อนๆ ไม่ห่วงนักการเมืองขู่คว่ำ เชื่อผ่านประชามติแน่ แนะทำเป็นฉบับย่อให้ประชาชนอ่านเข้าใจง่าย แจกจ่ายชาวบ้าน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญว่า ได้เห็นร่างฯ แล้ว แต่ยังไม่เห็นบทเฉพาะกาล ส่วนที่ฝ่ายการเมืองออกมาข่มขู่จะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนั้น เขาขู่มานานแล้ว ไม่เป็นไร อยากพูดอะไรก็พูดไป และเชื่อว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) คงได้ยิน อะไรที่เป็นประเด็นสำคัญที่เขาตั้งใจไว้คงไม่แก่ แต่บางเรื่องที่มีการทำการสำรวจความคิดเห็นแล้วประชาชนเห็นด้วย เช่น การให้พรรคการเมืองเสนอชื่อนายกฯ ก็ทำให้เขามั่นใจขึ้นว่ามาถูกทาง ส่วนที่ประชาชนไม่เห็นด้วย กรธ.ก็คงจะเอาไปประกอบการพิจารณา
ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้ดีเบทกันระหว่างนักการเมืองกับ กรธ.ถึงข้อดีและข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายวิษณุกล่าวว่า ความจริงการเปิดโอกาสให้แสดงความเห็น เป็นเรื่องดี แต่จะดีเบตหรือไม่ ไม่แน่ใจ ต้องถาม กรธ.ว่าพร้อมหรือไม่ บางทีไม่ต้องถึงดีเบต แค่พูดประเด็นเดียวกัน ไม่ต้องถึงขั้นมาโต้เวทีกัน ที่สำคัญประชาชนควรได้อ่านเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญก่อนจะได้รู้ว่าถ้อยคำจริงๆ เป็นอย่างไร
“เนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เมื่อเทียบกับฉบับก่อนๆ มาถือว่าใช้ได้ทีเดียว จะบอกว่าเลวทั้งหมดเหมือนที่พูดกันมาคงไม่ใช่ ความถูกใจหรือไม่ถูกใจมีได้ เป็นบางประเด็น ถูกใจประเด็นนี้แต่ไม่ถูกใจประเด็นโน้นก็ได้ เหมือนสื่อที่ติ แต่ไม่ชม แค่ไม่พูดถึงก็ถือว่าดีเท่าไหร่แล้ว ถือเป็นเรื่องปกติ เช่นเดียวกับเรื่องรัฐธรรมนูญซึ่งประเด็นที่แต่ละพรรคออกมาวิจารณ์นั้นเนื้อหาก็ใกล้เคียงกัน กรธ.ก็คงต้องคิดให้หนักว่าจะทำอย่างไร แต่ถือว่าเป็นเสียงทักท้วงของประชากรกลุ่มหนึ่งในประชาคมของประเทศที่มีทั้งนักการเมืองและนักวิชาการ เพราะเขาติดตามตลอดจึงเห็นประเด็นชัด แต่ประชาชนไม่ได้รับรู้ข้อมูลทั้งหมด จึงอาจถูกชักนำให้คล้อยตาม เมื่อถึงเวลาลงประชามติ ก็ต้องมาพูดกันทั้งหมด และทำฉบับย่อให้ประชาชนเข้าใจในทุกมาตรา หากถึงวันทำประชามติผมเชื่อว่าจะผ่านประชามติ แต่ไม่ขอพูดถึงเหตุผล เพราะเดี๋ยวจะมีคนมาค้านและทำลายเหตุผลเหล่านั้น”
ส่วนการรณรงค์ให้คว่ำหรือให้ผ่านร่างรัฐธรรมนูญก่อนทำประชามติจะสามารถทำได้หรือไม่นั้น นายวิษณุกล่าวว่า วันนี้อาจจะทำยาก แต่เชื่อว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องผ่อนคลายลงในการเปิดโอกาสให้คนรับฟัง ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ไม่ต้องการให้ประชาชนรับทราบแต่เพียงข้อดี เพราะวันหนึ่งความจริงก็คือความจริง ถ้ามันไม่ใช่ก็จะลำบาก จึงต้องพูดทั้งสองทางแล้วชั่งน้ำหนัก แต่สำหรับตนไม่ขอพูดว่ารับไว้ก่อนแล้วแก้ทีหลัง ไม่กล้าพูดแล้ว แต่เท่าที่ดูนั้นดีเกินครึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ถึงเวลาที่จะมาพูดคุยการแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวเพื่อรองรับการทำประชามติหรือยัง รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังคิดกันอยู่ หากคืบหน้าจะบอก ไม่อยากบอกตรงนี้เดี๋ยวจะเสียเหลี่ยม ทั้งนี้ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่านโรดแมปที่นายกฯ กำหนดไว้จะมีการเลือกตั้งปี 2560 ก็ยังเหมือนเดิม
