คำชี้แจงของบอร์ดนโยบาย ส.ส.ท. ตอบ 32 พนักงาน ที่ยังไม่เข้าใจ แต่คนไทยพีบีเอสกว่าพันเข้าใจ! แจงข้อครหา ผอ. ต้องมีประสบการณ์ตรงด้านสื่อ ระบุ ปัจจุบันสภาพภูมิทัศน์สื่อ เทคโนโลยีสื่อสาร เปลี่ยนแปลง - ก้าวหน้า ทำให้มีผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจและมีความเชี่ยวชาญเกิดขึ้นมากมาย ยัน “ไม่จำเป็น” ที่จะต้องทำงานสังกัดองค์กรสื่อสารมวลชน หรือมีประสบการณ์ด้านสื่อสารมวลชนโดยตรง และบอร์ดทุกคน ตระหนักถึงความโปร่งใสในกระบวนการสรรหา รับมีการปรับคุณสมบัติด้าน “การศึกษา - ประสบการณ์ในการบริหารองค์การขนาดใหญ่” ด้านรายการเปิดบ้านไทยพีบีเอส เปิดหน้าคุยกับ “หมอกฤษดา” เตรียมทำงาน 1 ก.พ .นี้
วันนี้ (29 ม.ค.) มีรายงานว่า เว็บไซต์นักข่าวพลเมือง ไทยพีบีเอส http://www.citizenthaipbs.net/node/7743 ระบุว่า เมื่อเวลา 15.00 น. ตัวแทนพนักงานไทยพีบีเอสส่วนหนึ่ง ได้รวมตัวกันยื่นเอกสารต่อคณะกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) เพื่อทวงถามความคืบหน้า หลังการยื่นหนังสือเปิดผนึกเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา ตั้งคำถามต่อกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ผอ.ส.ส.ท.) หรือ ผอ.ไทยพีบีเอส คนใหม่
ในรายละเอียดของหนังสือ โดยตัวแทนพนักงานตั้งข้อสังเกตว่า ผอ.ไทยพีบีเอสคนใหม่ อาจมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตาม พ.ร.บ. องค์กรกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 มาตรา 32 (3) ที่ระบุว่า ผอ.ไทยพีบีเอสคนใหม่ ต้องมีคุณสมบัติ “มีความรู้ความเข้าใจ และมีความเชี่ยวชาญ หรือมีประสบการณ์ในกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ หรือการสื่อสารมวลชน”
การยื่นหนังสื่อครั้งนี้ยืนยันคำถามเดิม พร้อมยื่นรายชื่อพนักงานที่รวบรวมได้เพิ่มเติม อีกทั้งมีการยื่นข้อเสนอให้มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ดังนี้
1. ให้ชี้แจงหลักเกณฑ์และเหตุผลต่อสาธารณะถึงการพิจารณาคุณสมบัติ ผอ.ไทยพีบีเอสคนใหม่ ว่า ตรงตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะฯ อย่างไร โดยไม่ใช่การอธิบายขั้นตอนกลไกการพิจารณาเพียงอย่างเดียว แต่มุ่งเน้นการตีความคุณสมบัติ ผอ.ไทยพีบีเอส ซึ่งเชื่อมโยงถึงอนาคตขององค์การฯ
2. เพื่อสร้างบรรยากาศและบรรทัดฐานของ “สื่อเพื่อสาธารณะ เที่ยงตรง โปร่งใส สังคมเป็นธรรม” ตามปรัชญาขององค์การฯ ขอให้เปิด Town Hall เพื่อตอบข้อสงสัยดังกล่าวต่อประชาคมไทยพีบีเอสภายในวันศุกร์ที่ 5 ก.พ. 2559 โดยเปิดเผยข้อมูล พร้อมแสดงเอกสารที่เกี่ยวข้องในกระบวนการสรรหา ทั้งจากคณะกรรมการนโยบาย และคณะกรรมการสรรหา ผอ.ไทยพีบีเอส
“การชี้แจงและอธิบายต่อสาธารณะเป็นหนทางของอารยชนที่พึงกระทำเมื่อเกิดบรรยากาศแห่งความสงสัยคลางแคลง เราหวังอย่างยิ่งว่าประธานกรรมการนโยบาย กรรมการนโยบาย และคณะกรรมการสรรหา ผอ.ส.ส.ท. จะไม่นิ่งเฉยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น” เอกสารของพนักงานไทยพีบีเอส ระบุ
เว็บไซต์นักข่าวพลเมือง ไทยพีบีเอส ยังระบุว่า ด้านคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. มีตัวแทน คือ รุ่งมณี เมฆโสภณ กรรมการนโยบายด้านกิจการสื่อสารมวลชน และ สมพันธ์ เตชะอธิก กรรมการนโยบายด้านส่งเสริมประชาธิปไตย มารับหนังสือจากพนักงาน พร้อมมอบเอกสารคำชี้แจงของกรรมการนโยบาย เรื่อง “การสรรหาผู้เข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ส.ส.ท.” ซึ่งเผยแพร่ต่อสาธารณะให้กับพนักงาน
รายละเอียดคำชี้แจงมี ดังนี้
คำชี้แจงของคณะกรรมการนโยบาย
เรื่อง การสรรหาผู้เข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ส.ส.ท.
สืบเนื่องจากการที่พนักงาน ส.ส.ท. จำนวน 32 คนได้ลงชื่อในจดหมายเปิดผนึก ลงวันที่ 26 มกราคม 2559 ขอให้คณะกรรมการนโยบายชี้แจงเรื่องกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ต่อสาธารณะ หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายมีมติเลือกผู้อำนวยการ ส.ส.ท. คนใหม่ไปเมื่อวันที่ 14 มกราคม ศกนี้ นั้น
คณะกรรมการนโยบายขอขอบคุณพนักงานที่มีความห่วงใยองค์การและขอชี้แจงดังนี้
ประเด็นเรื่องคุณสมบัติของผู้อำนวยการ ส.ส.ท. นั้น มาตรา 32 (3) ของพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ.2551 ระบุว่า “มีความรู้ความเข้าใจและมีความเชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์ในกิจการวิทยุกระจายเสียงกิจการวิทยุโทรทัศน์หรือการสื่อสารมวลชน” นั้น คุณสมบัติดังกล่าวผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ที่ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกด้านกฎหมายสื่อสารมวลชน ทั้งภาควิชาการและวิชาชีพ รวมทั้งภาคประชาสังคม รวมถึงได้หารือเพิ่มเติมประเด็นนี้กับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย มีข้อสรุปว่า คุณสมบัติของผู้ที่ได้รับเลือกเป็นผู้อำนวยการ ส.ส.ท. คนใหม่ มิได้ขัดกับมาตรา 32 (3) ของพระราชบัญญัติ ส.ส.ท. พ.ศ. 2551
กรณีที่มีความเข้าใจโดยทั่วไปว่า ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ต้องมีประสบการณ์ตรงด้านสื่อนั้น เนื่องจากปัจจุบันสภาพภูมิทัศน์สื่อมีการเปลี่ยนแปลงและเทคโนโลยีทางการสื่อสารก้าวหน้าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้มีผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจและมีความเชี่ยวชาญเกิดขึ้นมากมาย โดยไม่จำเป็นที่จะต้องทำงานสังกัดองค์กรสื่อสารมวลชนหรือมีประสบการณ์ด้านสื่อสารมวลชนโดยตรง
คณะกรรมการนโยบายขอเรียนให้ทราบทั่วกันว่า คณะกรรมการนโยบายชุดนี้ตระหนักถึงความโปร่งใสในกระบวนการสรรหาผู้เข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ส.ส.ท. มาตั้งแต่ต้น จะเห็นได้ว่าคณะกรรมการสรรหาผู้เข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ชุดนี้ ไม่มีคณะกรรมการนโยบายร่วมอยู่ เพื่อความโปร่งใสและหลีกเลี่ยงข้อครหาที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้คณะกรรมการนโยบายยังได้ปรับคุณสมบัติอื่นๆ ในการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เช่น คุณสมบัติทางการศึกษาและประสบการณ์ในการบริหารองค์การขนาดใหญ่ อีกทั้งได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารไปปรับแก้คุณสมบัติของพนักงานให้สอดคล้องกับแนวทางข้างต้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติด้วย
คณะกรรมการนโยบายขอขอบคุณและยินดีอย่างยิ่งที่พนักงานและสาธารณะชนส่วนหนึ่ง ให้ความสนใจต่อกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ครั้งนี้ ส.ส.ท. เป็นองค์การสาธารณะที่มีเจตจำนงที่จะให้ประชาคมทั้งภายในและภายนอกมีส่วนร่วมในการผลักดันสื่อสาธารณะแห่งนี้ เพื่อสร้างคุณค่าและประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมอย่างแท้จริง
คณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.
29 มกราคม 2559
เว็ปไซต์นักข่าวพลเมือง ไทยพีบีเอส รายงานอีกว่า หลังการยื่นหนังสือและพูดคุยชี้แจง พนักงานไทยพีบบีเอสได้ยืนยันเรื่องข้อเสนอการเปิด Town Hall หรือการประชุมเพื่อให้คณะกรรมการนโยบายได้พูดคุยตอบข้อสงสัยต่อประชาคมไทยพีบีเอสอย่างเป็นทางการ และเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะเพื่อความสง่างามในการเข้ามาทำหน้าที่ของ ผอ.ไทยพีบีเอสคนใหม่ อีกทั้งในฐานะที่เป็นองค์กรสื่อสาธารณะที่ทำงานโดยใช้เงินภาษีของประชาชน จำเป็นต้องมีความโปร่งใส่และน่าเชื่อถือได้ ซึ่งตัวแทนคณะกรรมการนโยบายให้คำตอบว่าให้ไปอ่านเอกสารคำชี้แจงที่ได้ให้ไปซึ่งได้พยายามตอบอย่างเป็นหมู่คณะและรัดกุมที่สุด หากยังมีข้อสงสัยหรือคำถามก็ยินดีที่จะตอบ ขณะเดียวกันก็จะรับเอาข้อสังเกตและข้อเสนอต่างๆ ไปบอกกับกรรมการนโยบายท่านอื่นๆ ด้วย
เว็ปไซต์ดังกล่าว ยังอ้างว่า นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ ระบุว่า หน้าที่ของตนจบแล้วเมื่อได้เสนอรายชื่อผู้สมัครที่มีคุณสมบัติถูกต้องและมีความเหมาะสม จำนวน 5 คน ให้คณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. คัดเลือกให้เหลือ 1 คน เพื่อเป็น ผอ.ส.ส.ท.คนใหม่ หากมีข้อสงสัยใดๆ ควรจะให้คณะกรรมการนโยบายเป็นผู้ตอบคำถาม ตนจะตอบคำถามก็ต่อเมื่อคณะกรรมการนโยบายมีข้อสงสัยทางกฎหมาย และทำหนังสือถามมาเท่านั้น นอกจากนี้ ส่วนตัวก็ยังไม่เห็นจดหมายเปิดผนึกของพนักงานไทยพีบีเอสกลุ่มดังกล่าว หากตอบไปเกรงว่าจะทำให้เป็นกระแสที่แตกประเด็นออกไปอีก “หน้าที่ของผมจบแล้ว คงจะไม่ตอบอะไรอีก ยกเว้นบอร์ดไทยพีบีเอสถามมาเรื่องข้อกฎหมาย ก็คงจะตอบไปทางบอร์ดไทยพีบีเอสเท่านั้น” เดชอุดมกล่าว
มีรายงานว่า ขณะที่เว็ปไซต์ Thai PBS ออนไลน์ ไม่มีการนำเสนอ ข้อมูลการชี้แจงของ ฝ่ายบริหารในวันนี้ แต่กลับมีการเผยแพร่ บทสัมภาณ์ของ ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. คนใหม่ ในรายการเปิดบ้าน Thai PBS ที่จะออกอากาศวันที่ 29 ม.ค. 2559 http://program.thaipbs.or.th/watch/HBUPBb
“เปิดบ้านไทยพีบีเอสวันนี้ พูดคุยกับคุณกฤษดา เรืองอารีรัชต์ ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. คนใหม่ กับความตั้งใจที่อยากเข้ามาพัฒนา "สื่อสาธารณะ".