“สมคิด” นำทีมเศรษฐกิจ - เอสเอ็มอี 50 ราย ไปโรดโชว์ที่ประเทศอิหร่าน - โอมาน ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.- 3 ก.พ. นี้ เพื่อเพิ่มความร่วมมือทางการค้า พร้อมลงนาม ความตกลงทางการค้า ไทย - อิหร่าน และบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุข ไทย - โอมาน
วันนี้ (27 ม.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 31 ม.ค.- 3 ก.พ.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีจะนำทีมเศรษฐกิจ ประกอบด้วย รมว.กระทรวงพาณิชย์ รมว.อุตสาหกรรม รมว.คมนาคม และ รมว.ต่างประเทศ จะเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน และรัฐสุลต่านโอมาน อย่างเป็นทางการ พร้อมกับลงนามความร่วมมือด้านการค้าและสาธารณสุขหลังจากที่ร่างความตกลงความร่วมมือทั้ง 2 ฉบับ ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุม ครม. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับความตกลงแรกเป็น “ความตกลงทางการค้าระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน กับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย (Trade Agreement between the Government of the Islamic Republic of Iran and the Government of the Kingdom of Thailand)” ซึ่ง รมว.พาณิชย์ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย จะเป็นผู้ไปลงนามในร่างความตกลงดังกล่าวมีสาระสำคัญ
1. วัตถุประสงค์ : เพื่อส่งเสริม อำนวยความสะดวก และพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศ โดยให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของแต่ละประเทศ
2. ภาคีคู่สัญญาจะอำนวยความสะดวกทางการค้าในเรื่องต่าง ๆ ให้แก่กัน อาทิ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า การจัดตั้งสำนักงานการค้าหรือศูนย์เพื่อการค้าความร่วมมือระหว่างสภาหอการค้าและการแลกเปลี่ยนผู้แทนการค้า
3. ภาคีคู่สัญญาตกลงที่จะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee) ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ของทั้งสองประเทศ เพื่อติดตามและทบทวนการปฏิบัติตามความตกลงฯ และวิเคราะห์โอกาสและแนวทางในการขยายความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน
4. ร่างความตกลงฯ จะไม่จำกัดสิทธิของภาคีคู่สัญญาในการกำหนดมาตรการสั่งห้ามหรือตั้งข้อจำกัดใด ๆ เพื่อการปกป้องศีลธรรมอันดีของประชาชน การปกป้องชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ หรือพืช การปกป้องสาธารณะสมบัติของชาติ และ / หรือการป้องกันโรคและศัตรูพืชหรือสัตว์
5. การระงับข้อพิพาทจะกระทำผ่านการปรึกษาหารือและการเจรจากันระหว่างภาคีคู่สัญญา
สำหรับอีกฉบับหนึ่งจะมีการลงนามใน “บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขของราชอาณาจักรไทยและรัฐสุลต่านโอมานว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข” ซึ่งจะมีรมว.ต่างประเทศเป็นผู้ลงนาม มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือด้านสาธารณสุขในสาขาต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพขั้นปฐมภูมิ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ระเบียบเกี่ยวกับยา การพัฒนาการวิจัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข การเฝ้าระวังโรค การดูแลอนามัยช่องปาก การดูแลไตการแพทย์ฉุกเฉินและการจัดการภัยพิบัติ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น และแลกเปลี่ยนทางวิชาการระหว่างไทยกับโอมาน
2. สนับสนุนการแลกเปลี่ยนหลักสูตรการฝึกอบรม และการเยือนของผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งการดำเนินการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในสาขาความร่วมมือ
3. การจัดการด้านการเงินที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมความร่วมมือที่อยู่ภายใต้กรอบของบันทึกความเข้าใจนี้ จะพิจารณาร่วมกันโดยคู่ภาคีเป็นรายกรณี บนพื้นฐานความสามารถในการจัดหาเงินทุนและทรัพยากร
4. บันทึกความเข้าใจนี้จะไม่มีผลกระทบต่อข้อผูกพันที่เป็นผลมาจากข้อตกลงทวิภาคีต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงระหว่างสองประเทศ คู่ภาคีจะดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจนี้ที่สอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบที่บังคับใช้ในทั้งสองประเทศ และจะยุติข้อพิพาทจากการดำเนินการ หรือการตีความข้อกำหนดใด ๆ ของบันทึกความเข้าใจนี้อย่างฉันท์มิตรโดยการปรึกษาหารือผ่านช่องทางการทูต
มีรายงานว่า คณะโรดโชว์ จะมีผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) จำนวน 40 - 50 ราย ภาคธุรกิจกลุ่มก่อสร้าง, กลุ่มอาหาร, กลุ่มสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมถึงสมาคมธนาคารไทย สมาคมโลจิสติกส์ สมาคมประกันวินาศภัย เป็นต้น เดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศอิหร่าน เพื่อกระชับความสัมพันธ์และขยายการค้า การลงทุน