“สมคิด” พอใจผลการนำทีมเศรษฐกิจโรดโชว์ญี่ปุ่น หลังได้รับต้อนรับเป็นอย่างดีจากรัฐบาล และได้รับเกียรติหารือเต็มคณะกับญี่ปุ่น เผยญี่ปุ่นห่วงไทยไม่ได้เป็นสมาชิก TPP เตรียมตั้งคณะกรรมการร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาข้อดี-เสีย และเดินสายชี้แจงเกษตรกร ประชาชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ก่อนเข้าร่วมเจรจา
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือเต็มคณะระหว่างรัฐบาลไทยและญี่ปุ่น โดยมีนายโยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเป็นหัวหน้าคณะฝ่ายญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2558 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า การนำทีมเศรษฐกิจของไทยเดินทางมาญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะญี่ปุ่นได้แสดงออกให้เห็นว่าไทยมีความสำคัญกับญี่ปุ่น เพราะเป็นห่วงโซ่การผลิต (ซัปพลายเชน) ที่สำคัญของญี่ปุ่น และยังได้เปิดโอกาสให้มีการหารือเต็มคณะกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของญี่ปุ่นทุกคน รวมถึงนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการ ครม.ของญี่ปุ่นด้วย
ขณะที่การจัดงานคู่ขนานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชนของญี่ปุ่นก็ได้รับความสนใจเข้าร่วมรับฟังงานสัมมนาของไทย ที่จัดโดยสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อชี้แจงนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล และนโยบายส่งเสริมการลงทุนอย่างล้นหลาม ทั้งๆ ที่มาเลเซียจัดงานในลักษณะเดียวกันด้วย
“ได้ย้ำให้เห็นว่า ไทยและญี่ปุ่นต้องการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน และต้องการให้ญี่ปุ่นมาร่วมกันวางยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย เราพร้อมจะดูแลนักลงทุนญี่ปุ่นเป็นอย่างดี และยังได้ฝากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (เมติ) ของญี่ปุ่นไปว่า ขอให้คัดเลือกบริษัทที่เป็นเป้าหมายการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ ให้มาลงทุนในไทยแบบคลัสเตอร์ ไม่ใช่มาทีละบริษัท ซึ่งจะช่วยทำให้ความฝันของไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่เป็นจริงได้” นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ ตนและทีมเศรษฐกิจยังได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือกับนายซินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นด้วย ซึ่งได้มีการหารือและชี้แจงแนวนยาบายของไทย และขอให้สนับสนุนนักลงทุนญี่ปุ่นไปลงทุนในไทยต่อเนื่อง
นายสมคิดกล่าวอีกว่า ภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่น แสดงความเป็นห่วงกรณีที่ไทยยังไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ซึ่งได้ชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ประกาศแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วม TPP ซึ่งเป็นความตกลงที่มีมาตรฐานสูงมาก เพื่อยกระดับเศรษฐกิจของไทย ดังนั้น จึงอาจมีผลกระทบกับสังคมไทยหากเข้าร่วม แต่ก็ไม่ร่วมไม่ได้
“ผมจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการ โดยมีผู้แทนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ อุตสาหกรรม เกษตรและสหกรณ์ ต่างประเทศ สาธารณสุข วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการเข้าร่วม ข้อดีและข้อเสีย ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงให้มีผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ไปสร้างความเข้าใจกับผู้ที่อาจได้รับผลกระทบด้วย เช่น กระทรวงเกษตรฯ ไปสร้างความเข้าใจกับเกษตรกร เพราะอาจมีการเปิดเสรีสินค้าเกษตร” นายสมคิดกล่าว