xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” เมิน “ชายหมู” รั้งขามีเยื่อใย ปชป. - “อรรถวิชช์” เผยเจ้าตัวสั่งหุบปาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมินเสียงพูดผู้ว่าฯ กทม. ไม่ไปไหน ระบุชัดเจนไปแล้วไม่ต้องพูดอะไรเพิ่ม ชี้ บอกจุดยืนออกไปคือการรับผิดชอบ ถึงเจ็บแต่ก็ไม่มีอะไรดีกว่านี้ “จุติ” แจงโพลขาลงแค่ไฟกะพริบรายทาง “ประยุทธ์” บอกแล้วเลือกตั้งอีกปีครึ่ง ด้านที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. เผยเจ้าตัวสั่งห้ามตอบโต้ มีหน้าที่ทำก็ทำ เร่งแก้บนทำนโยบายหาเสียงภายในสิ้นปีนี้

วันนี้ (26 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ม.ร.วสุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่า จะไม่ไปไหน และยังคงเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม แม้พรรคจะแถลงข่าวตัดขาดก็ตาม ว่า ในส่วนของพรรคชัดเจนไปแล้ว คงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเพิ่มเติม ส่วนผู้บริหาร กทม. ก็มีหน้าที่ในการบริหาร กทม. ต่อไป เพราะพรรคได้บอกความจริงกับประชาชนไปแล้ว และได้กราบขอโทษพี่น้องประชาชนไปแล้วว่า เรามีหน้าที่ตรวจสอบติดตามการบริหารงาน กทม. ตามข้อเท็จจริง เมื่อไม่สามารถทำได้เราก็ต้องบอกความจริงกับประชาชน และตอนนี้อยากให้เกิดความชัดเจนจะได้ไม่เกิดความสับสน ซึ่ง กทม. ก็บริหารงานไปความไม่โปร่งใสก็ทำให้ชัดเจน อะไรที่ยังไม่ตอบสนองประชาชนก็ทำให้ดี ถ้าทำได้ก็ถือเป็นความชอบของคณะผู้บริหาร กทม. พรรคก็คงจะปฏิบัติกับ กทม. เหมือนกับปฏิบัติกับท้องถิ่นอื่น หรือรัฐบาล ในการทำหน้าที่ติดตามดูแลว่าการบริหารงานตอบสนองกับประชาชนมีความโปร่งใสหรือไม่ แต่ไม่สามารถที่จะไปมีความสัมพันธ์ในลักษณะเหมือนอยู่ในสังกัดเดียวกัน และช่วยดูแลได้ ทั้งนี้ นโยบายของพรรคเกี่ยวกับ กทม. ก็ต้องมีแต่ไม่สามารถไปเชื่อมโยงกับทางผู้บริหาร กทม. ได้

ส่วนผู้บริหารคนอื่นจะตัดสินใจอย่างไรก็ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ตนก็ต้องบอกว่าพรรคก็ต้องปฏิบัติเหมือนกับท้องถิ่นอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดของพรรค ส่วนเรื่องการหาเสียงต่อไปก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะเราได้บอกความจริงกับประชาชนไปแล้วว่า เรามีความตั้งใจ เพราะเราคิดว่าการลงสมัครในนามของพรรคนั้น พรรคก็สามารถติดตามงานและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ แต่ครั้งนี้ทางผู้บริหาร กทม. ไม่ยอมรับกระบวนการตรงนี้ เราก็ต้องบอกให้ประชาชนทราบเพื่อความชัดเจน ดังนั้น พรรคจึงต้องยืนตรงนี้ ส่วนผู้บริหาร กทม. จะมีท่าทีอย่างไรก็เป็นสิทธิของท่าน ซึ่งทุกอย่างมีผลต่อการพิจารณาผู้สมัครของพรรคครั้งต่อไป

เมื่อถามถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนล่าสุดคะแนนความนิยมของพรรคในพื้นที่ กทม. ลดต่ำลงทุกด้าน จะกระทบกับคะแนนพรรคหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดถึงคะแนนของพรรค แต่คิดว่าที่พรรคได้กำหนดท่าทีออกไป ถือเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบที่เรามีต่อประชาชน และความรับผิดชอบคงไม่ได้สิ้นสุดตรงนี้ ก็ต้องว่ากันต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม ไม่เชื่อว่ามีใครในพรรคอยากให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ ซึ่งตนก็บอกว่าอย่างไรก็ต้องเจ็บ แต่คิดว่าไม่มีอะไรดีกว่าการบอกความจริงกับประชาชน

“ผมพูดตรง ๆ ส่วนตัวของผม เวลาไปพบปะผู้คน ประชาชนธรรมดา ตัวแทนสมาคมธุรกิจการค้าต่าง ๆ เมื่อเขามีข้อร้องเรียน ข้อกังขาเกี่ยวกับการบริหารงานของ กทม. และเขาสะท้อนมา และเคยคาดหวังว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคจะสามารถเข้าไปดูแลแก้ไขได้ วันนี้ผมก็ต้องบอกกับเขาตามความเป็นจริงว่าพรรคไม่สามารถทำได้ เพราะทางผู้บริหาร กทม. มีจุดยืนว่าเขาไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการการทำงานของพรรค” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลโพลชี้คะแนนความพึงพอใจของคนกรุงเทพฯต่อการทำงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ลดลง ว่า ถือป็นโพลที่สะท้อนความเป็นจริงที่ไม่มีกิจกรรมทางเมือง เพราะขณะนี้ไม่มีกิจกรรมทางการเมือง ไม่มีการนำเสนอนโยบาย ไม่มีการหาเสียง ทั้งนี้ ไม่กังวลว่าคะแนนนิยมที่ลดลงกับมีผลกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะผลโพลมีขึ้นมีลง อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ระบุเองว่า กว่าจะมีการเลือกตั้งก็อีกปีครึ่ง และตามหลักการโพลที่สำคัญที่สุด คือ โพลในวันเลือกตั้ง ผลโพลนี้เป็นเพียงแค่ไฟกะพริบรายทาง

ด้าน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ชี้แจงว่า ประเด็นสำคัญหนึ่งที่ต้องยอมรับ คือ ความขัดแย้ง ทำให้คะแนนนิยมของผู้ว่าฯ กทม. ลดลง ซึ่งสอดรับกับคะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ที่ลดลงเช่นเดียวกัน เมื่อเทียบกับความนิยมของพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับในคะแนนที่ลดลง ซึ่งจากนี้ต้องทำให้เพิ่มขึ้น โดยเติมเต็มในสิ่งที่ประชาชนยังไม่พึงพอใจ

“วันนี้ประเด็นสำคัญ คือ การตรวจสอบ ซึ่งทางผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งไปยังรองผู้ว่าฯ กทม. ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการที่เป็นหน่วยงานในการตรวจสอบ ให้ส่งข้อมูลให้ครบถ้วน ห้ามตอบโต้ มีหน้าที่ทำให้ทำ นอกจากนี้ ต้องเร่งเครื่องทำโครงการต่าง ๆ ที่เคยหาเสียงไว้ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2559 ไม่ว่าจะเป็นโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) ต้องติดตั้งให้ครบตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ หรือโครงการจัดซื้อยางพารานำมาทำถนน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ส่วนของพรรคยังต้องประสานกับพรรค หากประชาชนร้องผ่านตัวแทน ส.ส. ของพรรคเข้ามาก็ต้องให้ความช่วยเหลือเหมือนเดิม เพราะผู้ว่าฯ กทม. ยังคงเป็นรองหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคอยู่” นายอรรถวิชช์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น