xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ประกันความเสี่ยงจัดหนัก ห้าม “แม้ว-ปู” ขยับตั้งแต่ต้นปี!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา 

จากความเคลื่อนไหวบางอย่างของฝ่ายรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ต้นปีใหม่ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องน่าจับตาและไม่ธรรมดา โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวที่จัดการกับฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย ซึ่งถือว่า “เข้มข้น” ขึ้นทุกที ชนิดที่เรียกว่า “ปล่อยเอาไว้ไม่ได้”

เป็นความเคลื่อนไหวจากฝ่ายรัฐบาลที่ดูเหมือนกับว่ามีความเข้มข้นกับ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายมากขึ้นเรื่อยๆ มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว นับตั้งแต่เข้าสกัดกั้นเครือข่ายที่มาในคราบนักศึกษาที่เคลื่อนไหวก่อกวนด้วยการยกขบวนนั่งรถไฟมาแสดงสัญลักษณ์ตรวจสอบปมทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ โดยคราวนั้นมีการบุกเข้ารวบตัวกันอย่างฉับพลัน เหมือนกับก่อนหน้านั้นไม่นานที่ “สองเกลอ” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ จตุพร พรหมพันธุ์ เคยทำมาแล้วแต่ก็ถูกจับกุมพาหายตัวไปแล้วปล่อยตัวออกมาในยามเที่ยงคืนทำเอาใจหายใจคว่ำกันมาแล้ว

สัญญาณการ “เอาจริง” ดังกล่าวเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นหลังจากที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ออกมายืนยันเมื่อวันจันทร์ที่ 4 มกราคมที่ผ่านมาว่าจะไม่ยอมให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเพิ่มจำนวนพยานอีก 18 ปากจากการถูกกล่าวหาในคดีแพ่งกรณีเกิดความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากเห็นว่าเป็นการประวิงเวลาให้คดียืดเยื้อออกไปแบบไม่มีกำหนด

รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายยังเห็นว่า หากอนุญาตให้เพิ่มจำนวนพยานอีกก็จะทำให้คดีล่าช้าออกไปเกินเดือนเมษายน อย่างไรก็ดียังอนุญาตให้ชี้แจงเข้ามาด้วยเอกสารแทนได้

อีกกรณีหนึ่งก็คือ การที่ฝ่ายทหารได้ห้าม ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นรถแห่ไปรอบตัวเมืองขอนแก่นพร้อมทั้งยึดปฏิทินปีใหม่ที่มีรูปของทักษิณ ชินวัตร และตัวเธอ โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นการเคลื่อนไหวที่มีนัยทางการเมือง ซึ่งการแจกปฏิทินดังกล่าวยังเกิดขึ้นในจังหวัดร้อยเอ็ดอีกด้วยซึ่งก็โดนฝ่ายทหารและผู้ว่าราชการจังหวัดที่นั่นสั่งห้ามเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ดี พล.ต.สถาภรณ์ ใบพลูทอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 27 ระบุว่าได้เรียกนายฉลาด ขามช่วง อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย มาพบเพื่อสอบถามกรณีที่ให้หัวคะแนนนำปฏิทินดังกล่าวไปแจกจ่ายในที่ประชุมกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ที่อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด ปรากฏว่าเป็นความจริง จึงได้สั่งห้าม เพราะบุคคลที่เป็นภาพในปฏิทินนั้นมีสถานะเป็นนักโทษ ทำผิดกฎหมายหนีคดี และเป็นจำเลยในคดี มีความผิด หากจะแจกก็สามารถทำได้ แต่ต้องดำเนินการกันเองโดยที่ไม่ต้องใช้สถานที่ราชการ หรือใช้เจ้าหน้าที่เป็นคนดำเนินการให้

คำชี้แจงของผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 27 จังหวัดร้อยเอ็ดดังกล่าวข้างต้นถือว่าฟังขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด เพราะหากพูดกันให้ตรงๆ ก็คือ ทักษิณ ชินวัตร เวลานี้มีสถานะไม่ต่างจาก “โจร” เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายถูกฟ้องหลายคดี แต่หลบหนีทั้งคำพิพากษาและหลบหนีหมายจับหลายคดีจนล่าสุดถูกเพิกถอนหนังสือเดินทาง รวมทั้งถูกถอดยศถูกริบเครื่องราชฯ ขณะที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ถูกฟ้องเป็นจำเลยในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจากโครงการรับจำนำข้าว และกำลังจะถูกดำเนินคดีทางแพ่งเกี่ยวกับความเสียหายที่มีมูลค่าหลายแสนล้านบาท ดังนั้นคนที่มีสถานะแบบนี้ก็ไม่สมควรให้มีการเคลื่อนไหวแบบนี้ ไม่สมควรให้การยกย่องบิดเบือน

อย่างไรก็ดี หากพิจารณากันทั้งสองมุมแบบที่ต้องเข้าใจโดยเริ่มจากฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร ก่อนเริ่มได้รับสัญญาณชัดเจนแล้วว่าในปี 59 ต้องโดน “จัดหนัก” แน่ โดยเฉพาะเรื่องคดีต่างๆ ที่ค้างคาอยู่ในศาลจะต้องงวดเข้ามา และที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติยืนยันว่าทุกคดีจะต้องจบภายในปีนี้ และจะไม่มีรายการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นอันขาด มันก็ยิ่งทำให้ต้อง “ดิ้นรน” และออกแรงขย่มให้หนักมือขึ้น อย่างน้อยเพื่อหวังลุ้นให้เกิดการต่อรองกันขึ้น แต่ตามรูปการณ์แล้วต้องบอกว่ายากมาก เพราะกระแสสังคมยิ่งกดดันเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะเดียวกัน เมื่อหันมามองในมุมของฝ่ายอำนาจรัฐ คือ ฝ่ายรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในปีนี้เชื่อว่าต้องเร่งมือคุมเข้ม เพราะรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามว่าต้องเร่งเกมป่วน ดังนั้นก็ต้องเด็ดขาดตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเหมือนกับการบล็อกสกัดไม่ให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคลื่อนไหวในทำนองปลุกระดมมวลชนได้ง่ายดาย ทำนองสกัดไม่ให้ขยับตั้งแต่ต้นปี เพราะถ้าปล่อยโอนอ่อนมันก็มีสิทธิ์พังได้เหมือนกัน ดังนั้นเชื่อว่าจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ไม่ให้คลาดสายตาเป็นอันขาด!!
คสช.ตัดเกมปลุกแดงป่วนล็อกเฉียบขาด ตู่-เต้น ส่อคุกยาว !!
คสช.ตัดเกมปลุกแดงป่วนล็อกเฉียบขาด ตู่-เต้น ส่อคุกยาว !!
เมื่อพิจารณาจากปรากฏการณ์ดังกล่าว เมื่อ “เงื่อนไข” ให้ดำเนินการก็ต้องรีบลงมือ เพียงแต่ว่าเวลานี้มันคงยังไม่เหมาะ สังคมยังไม่มีอารมณ์ร่วมเพียงพอ อีกทั้งรู้ทันว่าคนที่เคลื่อนไหวมีวาระซ่อนเร้น “พาคนเข้าคุก” อีก เชื่อว่า ยัง “จุดไม่ติด” แต่ถึงอย่างไรยังประมาทไม่ได้ และที่สำคัญอย่าพลาดแบบนี้อีกเป็นอันขาด ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งหากหันมาพิจารณาเส้นทางข้างหน้าของ “สองเกลอ” จตุพร พรหมพันธุ์ กับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คราวนี้คง “โดนจัดหนัก” ตามกฎหมายพิเศษเป็นแน่ ไม่ต่างจากการ “เชือดโชว์” ทั้งคุกยาว และให้จับตาการสั่งระงับธุรกรรมทางการเงินตามมาให้ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น