xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.กรธ.ชู รธน.ใหม่มีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง จ่อดูใส่ปฏิรูปอะไร ยังไม่คิดตั้ง คปป.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (แฟ้มภาพ)
ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เผย ประชุมที่ชะอำ 11 - 17 ม.ค. หวังทำร่างให้เสร็จ เตรียมแถลงรายมาตรา หากเสร็จเร็วค่อยดูบทเฉพาะกาลต่อ รับองค์กรอิสระยังไม่ได้ข้อยุติ ย้ำจุดเด่นมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง ไม่อยู่ใต้อาณัติพรรคการเมือง มีกลไกกำจัดโกง โทษแบนตลอดชีวิต มีมาตรฐานจริยธรรม กำลังพิจารณาใส่ปฏิรูปเรื่องไหน แย้มชงการศึกษา - ใช้กฎหมาย เมินใส่เรื่องตำรวจ จ่อถาม สปท. ให้หน่วยใดกำกับหรือไม่ แต่ยังไม่คิดตั้ง คปป. ขู่หากประชามติไม่ผ่านพวกบิดเบือนต้องรับผิดชอบ ส่อให้ตีความตามลายลักษณ์อักษร

วันนี้ (2 ม.ค.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการดำเนินการประชุมนอกสถานที่เพื่อร่างเนื้อหารัฐธรรมนูญในรายมาตรา ระหว่างวันที่ 11 - 17 ม.ค. ที่โรงแรม ดิ อิมพีเรียล เลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟคลับ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ว่า การประชุมดังกล่าวเพื่อจัดทำร่างให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 29 ม.ค. โดยข้อมูลเบื้องต้นขณะนี้มีจำนวนมาตราประมาณ 260 กว่ามาตรา แม้จะดูว่ามีจำนวนมาตรามาก แต่จะเขียนแต่ละมาตราให้สั้นกระชับ ซึ่งรูปแบบการพิจารณานั้นจะพิจารณาตั้งแต่มาตราที่ 1 เป็นต้นไปจนถึงมาตราสุดท้าย และก็จะแถลงเป็นรายมาตรา พร้อมทั้งอธิบายในสาระสำคัญของตัวร่างรัฐธรรมนูญด้วย โดยในช่วงเวลานี้ หากพิจารณาบทบัญญัติเสร็จสิ้นเร็ว ก็จะพิจารณาเกี่ยวกับบทเฉพาะกาลต่อ ที่จะเกี่ยวเนื่องกับการทำงานของกรรมการในองค์กรอิสระ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติว่าองค์กรใดต้องอยู่ต่อ สรรหากรรมการชุดใหม่ หรือยุติการทำหน้าที่

นายมีชัย กล่าวต่อว่า ตนขอย้ำถึงจุดเด่นของร่างรัฐธรรมนูญในเรื่องที่สำคัญ คือ การมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง ตั้งแต่การรับรู้และแสดงความเห็น การมีส่วนร่วมเลือกผู้บริหารประเทศ จนไปถึงสิทธิ์ในการสมัครเพื่อเลือกกันเองเป็นสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งจะใช้กระบวนการคัดเลือกทางอ้อม ไม่ต้องอยู่ใต้อาณัติพรรคการเมือง และกลไกกำจัดการทุจริตตั้งในหน้าที่และการเลือกตั้ง ที่มีการกำหนดโทษตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต รวมถึงมีมาตรฐานทางจริยธรรมไม่ให้ฝ่าฝืนการทุจริต ซึ่งกลไกจะกระจายอยู่ตามองค์กรอิสระต่าง ๆ อีกทั้งเรื่องระบบการเลือกตั้งแบบระบบจัดสรรปันส่วนผสมที่มีการวิจารณ์ว่าจะทำให้เกิดการซื้อเสียงรุนแรงจากการกาบัตรใบเดียวนั้น ส่วนตนยังมองไม่เห็นว่าจะทำให้ซื้อเสียงรุนแรงมากกว่าที่ผ่านมาตรงไหน เพราะมาตรการลงโทษผู้ทุจริตการซื้อเสียงที่รุนแรงนี้เอง

นายมีชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทาง กรธ. กำลังพิจารณาว่า ควรมีการปฏิรูปเรื่องใดบ้างจะอยู่ในรัฐธรรมนูญ โดยตอนนี้คิดได้ 2 เรื่องแล้ว ก็คือ เรื่องของการปฏิรูปการศึกษา และการปฏิรูปการบังคับใช้กฎหมาย เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนเรื่องอื่น ๆ กำลังทำหนังสือไปสอบถามความเห็นของทางสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) จะต้องมีองค์กรใดมากำกับหรือไม่ ซึ่งรวมถึงเรื่องยุทธศาสตร์ชาติด้วยว่าจะต้องบัญญัติไว้หรือไม่ รวมถึงต้องสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติด้วย ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนที่จะบัญญัติเรื่องใดไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ เพราะหากการมีกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปแล้ว อาจไม่จำเป็นต้องเขียนอะไรไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ก็ขอให้ประชาชนส่งความเห็นเข้ามาถึงเรื่องที่จำเป็นต้องมีการปฏิรูป เช่นเดียวกับเรื่องการปรองดองในร่างรัฐธรรมนูญว่าตอนนี้ยังต้องรอความเห็นของคณะอนุกรรมการใน กรธ. ที่พิจารณาเรื่องนี้

“ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดจัดตั้งคณะบุคคล ในลักษณะเดียวกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและปรองดองแห่งชาติ (คปป.) โดยเฉพาะเรื่องการสร้างความปรองดอง ที่อาจต้องมีกระบวนการ แต่มองว่าเรื่องของการปรองดองว่าไม่จำเป็นเสมอไปที่จะต้องไปเขียนลงในร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าหากเขียนแล้วทำให้เกิดการปรองดองขึ้นจริงคงเขียนไปแล้วในมาตราต้น ๆ ส่วนแนวทางการปฏิรูปตำรวจ ที่มีข้อเสนอแยกหน่วยงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นั้น ตนมองว่า ปัญหาที่แท้จริงต้องขจัดเรื่องการวิ่งเต้น เพื่อให้ตำรวจมีกำลังใจ เติบโตความรู้ความสามารถ ส่วนการปรับเรื่องอื่น ๆ ก็ไม่ยาก แต่เบื้องต้นแล้ว ยังไม่มีความคิดว่าจะเขียนเรื่องนี้ในรัฐธรรมนูญอย่างไรบ้าง” นายมีชัย กล่าว

นายมีชัย กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ก็อยากให้ทุกฝ่ายนึกถึงประเทศชาติ ซึ่งยืนยันว่า กรธ. แต่ละคนนั้นพยายามทำอย่างเต็มที่ ทำดีที่สุดแล้ว ถ้าประชาชนเข้าใจอย่างที่ กรธ. อธิบาย ร่างรัฐธรรมนูญก็น่าจะผ่านประชามติ ซึ่งพรรคการเมืองบางพรรคที่ออกมาบอกว่าไม่อยากให้ผ่านประชามติ ตนคิดว่า เขาอาจจะพูดด้วยอารมณ์ แต่เอาเข้าจริงเขาคงต้องเห็นแก่ประเทศชาติเป็นสำคัญ แต่ถ้าประชามติไม่ผ่านก็คงต้องไปร่างกันใหม่ ซึ่งใครจะรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายการทำประชามติ ตนคิดว่าก็คงต้องเป็นผู้ที่บิดเบือนทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในร่างรัฐธรรมนูญจนเป็นเหตุให้ไม่ผ่านประชามติ

เมื่อถามว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้นั้นมีกลไกอะไรที่จะไม่ให้ประชาชนลงมาเรียกร้องบนท้องถนนอีก นายมีชัย กล่าวว่า จะมีองค์กรที่ทำหน้าที่วินิจฉัยจนทำให้เรื่องที่เป็นปัญหาสิ้นสุด ซึ่งประชาชนจะไม่ต้องลงมาสู้บนท้องถนนแบบที่ผ่านมา ส่วนการชุมนุมบนท้องถนนที่ผ่านมา จะมองว่าเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญนั้น ตนคิดว่าคงไม่ใช่ทั้งหมด ในบางเรื่องผู้ที่มาชุมนุมบนท้องถนนนั้นอาจจะต้องการแสดงความเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลในเรื่องนั้นเรื่องนี้ก็เป็นได้ ซึ่งต้องดูเป็นเรื่อง ๆ ไป ทั้งนี้ ร่างรัฐธรรมนูญเมื่อออกมาแล้วจะบัญญัติชัดเจนเลยว่าสิทธิของตัวเองที่รับรองไว้จะต้องไม่ไปละเมิดสิทธิของคนอื่น

นายมีชัย ยังกล่าวถึงหลักการตีความร่างรัฐธรรมนูญ โดยยืนยันว่า การตีความเจตนาจะเป็นไปตามลายลักษณ์อักษร ไม่มีการตีความควบคู่บันทึกเจตนารมณ์ เหมือนที่เคยกำหนดในร่างรัฐธรรมนูญ โดยคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ชุดนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ โดยมองเจตนาว่าการร่างคราวที่แล้ว ต้องการให้การตีความในอนาคตเป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้ร่าง แต่การร่างโดย กรธ. มองว่า หากกำหนดไว้อาจเป็นอุปสรรคต่อการตีความเมื่อเวลาผ่านไปยาวนานแล้ว

ด้าน นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมก่อนการประชุม ว่า จะมีการเตรียมรวบรวมข้อมูลความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนไปพูดคุยกันต่อในการประชุมที่ จ.เพชรบุรี จะเป็นการทบทวนร่างรัฐธรรมนูญอีกครั้งเป็นรายมาตรา โดยจะแถลงให้สื่อมวลชนรับทราบรายวัน ซึ่งจะได้มีเสียงสะท้อนความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนกลับมา ยืนยันว่า กรธ. ร่างรัฐธรรมนูญโดยอิสระ มุ่งประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก และจะเริ่มทบทวนตามข้อคิดของเราด้วย เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดจากความสร้างสรรค์และเป็นนวัตกรรมใหม่

ทั้งนี้ นายอมร กล่าวต่อว่า โดยส่วนตัวคิดว่าที่ผ่านมารัฐธรรมนูญในประเทศไทยมีฉบับที่ร่างขึ้นเป็นรูปแบบใหม่จริง ๆ เพียง 2 - 3 ฉบับเท่านั้น เช่น รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ส่วนฉบับอื่นโดยส่วนใหญ่เป็นการนำรัฐธรรมนูญฉบับเก่าเป็นแบบอย่าง มาปัดฝุ่นปรับปรุงเป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่วนการร่างรัฐธรรมนูญของเรานั้นเป็นการร่างขึ้นใหม่จริง ๆ เชื่อว่า จะทำให้ได้รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด

สำหรับประเด็นที่ กรธ. จะพิจารณาต่อนั้น นายอมร กล่าวว่า มีประเด็นหลักการเรื่องการปฏิรูป ที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้ส่งเข้ามา ก็จะพิจารณาว่ามีเรื่องใดสำคัญเร่งด่วนที่ต้องทำก่อน และมีกรอบอะไรบ้าง เรื่องการปฏิรูปถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องการจาก สปท. ในส่วนประเด็นอื่น ๆ สปท. คิดอย่างไร ภาคส่วนต่าง ๆ คิดอย่างไร ก็ให้ส่งเข้ามาได้ตลอด ทาง กรธ. รอรับฟังทุกเรื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น