รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เผยมุ่งหวังปี 59 ปีแห่งการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ ทำให้เห็นเป็นรูปธรรมเร็วที่สุด พร้อมส่งแผนให้ ครม.และ สนช.เดือนนี้ เน้นก่อนและหลังเลือกตั้ง ตามแบบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ชูแม่น้ำ 5 สายประสานงานเริ่มเป็นระบบ
วันนี้ (1 ม.ค. 59) ที่รัฐสภา นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงการทำงานตลอดระยะเวลาเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมาของ สปท.ว่า นับว่า สปท.ปฏิบัติหน้าที่ครบถ้วนเป็นไปตามโรดแมป 1+1+18 เดือนแรก “ยกร่าง สร้างกลไก” จัดทำข้อบังคับ สปท.และจัดตั้งกลไกทำงานคือระบบคณะกรรมาธิการเสร็จเรียบร้อย เดือนถัดมาทุกคณะกรรมาธิการจัดทำแผนปฏิรูปชุดแรกเสร็จภายใน 30 วันโดยต่อยอดจากพิมพ์เขียวปฏิรูปของ สปช. สรุปคือสอบผ่านโรดแมป 1+1 ตามแผนงาน ซึ่งช่วงโรดแมประยะที่ 3 หมายถึง 18 เดือนจากนี้เป็นช่วงนำเสนอรายงานปฏิรูป โดยสภา สปท.เปิดประชุม 3 วันรวด ระหว่าง 21-23 ธันวาคมพิจารณาให้ความเห็นชอบรายงานแผนและแนวทางการปฏิรูปของ 12 คณะกรรมาธิการเป็นที่เรียบร้อย และจะเริ่มประชุมเพื่อพิจารณาแผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศและร่างกฏหมายปฏิรูปเพื่อมีมติส่งคณะรัฐมนตรี โดยวิป สปท.กำหนดให้ประชุมสภาฯ ตั้งแต่สัปดาห์แรกของปี 2559 เรามุ่งหวังให้ ปี 2559 เป็นปีแห่งการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ
นายอลงกรณ์กล่าวต่อว่า สปท.วางแผนและกำหนดขั้นตอนการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศให้เห็นเป็นรูปธรรมเร็วที่สุดโดยจัดทำแผนปฏิบัติการปฏิรูปและร่างกฏหมายปฏิรูปส่งคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 เป็นต้นไปโดยแบ่งเป็นการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งและการปฏิรูปหลังเลือกตั้งในรูปของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ส่วนการเชื่อมโยงการทำงานนอก สปท. นายทินพันธุ์ นาคะตะ ประธาน ได้แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศของ สปท.เป็นกลไกหลักในการประสานกับแม่น้ำอีก 4 สายและทุกภาคส่วน
นายอลงกรณ์ยังกล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะกรรมการประสานรวม 3 ฝ่ายประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเพื่อเป็นฟันเฟืองประสานเขื่อมโยงแม่น้ำ 3 สายที่มีหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศมีนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีรองประธาน สนช.และ สปท.เป็นที่ปรึกษาและกรรมการโดยประชุมทุกสัปดาห์เริ่มประชุมครั้งแรกเมื่อ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา จะเห็นได้ชัดเจนว่าการจัดตั้งโครงสร้างการทำงานและการประสานงานในการปฏิรูปประเทศครั้งนี้ของแม่น้ำ 5 สายเป็นระบบอย่างมาก ทำให้ สปท.มั่นใจว่าผลงานจะออกมาเป็นรูปธรรมอย่างแน่นอน