รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงผลงาน 1 ปี ซัดสื่อมวลชน-โซเชียลมีเดียเขี่ยไฟทำชาติส่อไม่สงบ ขอเวลาให้ คสช.ทำงาน จวกพวกถามมีทหารไว้ทำไมใช้สมองไหน ระบุตำรวจกำลังปฏิรูประยะแรก ไม่ใช่เอะอะปรับโครงสร้าง บอกไม่นิ่งนอนใจดูแลอธิปไตย อ้างต้องใช้ยุทโธปกรณ์ดูแลสกัดสิ่งผิดกฎหมาย โอ่ไฟใต้ลดเกือบ 50% หวังปีหน้าสงบ เผยพยายามดึงไทยกลับสู่เทียร์ 2 ส่วนไอยูยูถ้าสำเร็จจะเบาใจขึ้น ส่งคนแจง ICAO-FFA แล้ว รับมีชื่อผู้มีอิทธิพลเพียบ
วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงผลงานด้านความมั่นคงในรอบ 1 ปีว่า คสช.เข้ามาเพราะเกิดปัญหาความแตกแยก มีการใช้อาวุธสงคราม เผาบ้านเผาเมือง เยอะแยะไปหมดในช่วงที่ผ่านมา นายกฯ จึงใช้ความเด็ดขาดในการเข้ามาเพื่อยุติศึกต่างๆ ดังจะเห็นว่าวันนี้สงบ การสงบไม่ได้เกิดจากทหาร ตำรวจ ข้าราชการ แต่ประชาชนต้องมีส่วนร่วม แต่วันนี้ก็ยังมีโซเชียลมีเดีย หรือคำถามจากทางผู้สื่อข่าว ทำให้มันเกิดเป็นประเด็นที่จะทำไม่ให้เกิดความสงบ เหมือนที่นายกฯ บอกว่ากำลังตั้งไข่อยู่แต่มาเตะตัดขาแล้ว มันก็ไปไม่รอด ตนถึงบอกให้อยู่เฉยๆ ตอนนี้เป็นเวลาของ คสช.และรัฐบาลที่จะทำงานเพื่ออนาคตอีก 5 ปี 10 ปี 15 ปี 20 ปี ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ก็กำลังมองไปข้างหน้า อยากที่จะให้กระทรวงกลาโหมเป็นอย่างไรในอนาคต อยากที่จะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นอย่างไร สร้างความเข้มแข็งให้แก่ประชาชนได้อย่างไร จะมีความเชื่อมั่นใน สตช.ได้อย่างไร
“บางคนถามว่าทหารมีไว้ทำไม โอ้โห ตั้งคำถามแบบนี้เสียหาย ทีโรงงานตัวเองมีคนเฝ้า มีภารโรง มียาม อุตลุดไปหมดเพราะกลัวคนขโมย แล้วประเทศจะไม่ให้มีทหารหรือ ผมไม่เข้าใจคนถามว่าใช้สมองไหนถาม ตำรวจเองขณะนี้เขาก็กำลังปฏิรูป อยู่ในระยะที่ 1 เขากำลังดูว่าจะทำงานเชื่อมโยงกับทางศาล อัยการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัดได้อย่างไร เขากำลังปฏิรูปอยู่ ไม่ใช่เอะอะก็จะปรับโครงสร้าง มันไม่ใช่ แต่จะทำอย่างไรให้ตำรวจเขามีประสิทธิภาพ มีความเข้มแข็ง มียุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม ในการที่จะดูแลประชาชน หรือสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตำรวจกำลังทำอยู่ ไม่ได้อยู่เฉยๆ กำลังปฏิรูปในขั้นที่ 1 เพื่อจะส่งต่อให้รัฐบาลต่อไป” พล.อ.ประวิตรกล่าว
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า สำหรับบริเวณแนวชายแดน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการที่จะดูแลรักษาอธิปไตย รวมทั้งให้ประชาชนแต่ละประเทศไปมาหาสู่ซึ่งกันและกันได้ ขณะเดียวกัน ก็มีการตั้งกองกำลังในพื้นที่ทั้งหมด ทั้งตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อที่จะป้องกันปัญหายาเสพติด การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ที่จะต้องใช้ยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ ในการที่จะดูแล ขณะที่ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ปีที่แล้วเรามีนโยบายต่างๆ ที่จะทำให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมซึ่งพบว่าปัญหาต่างๆ ลดลงถึงเกือบ 50% โดยตนได้ให้แนวทางแก่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ว่า ปี 2559 ถ้าเป็นไปได้ คนที่ไม่เข้าใจรัฐบาล ไม่เข้าใจในประวัติศาสตร์ ไม่เข้าใจในเรื่องศาสนา ถ้าจะกลับสามารถกลับเข้ามาได้ โดยเราสามารถที่จะทำให้ในปี 2559 อาจยุติในเรื่องของการสู้รบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนคิดว่ามีความเป็นไปได้ ทางทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ศาล และหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่เขาจะร่วมมือกันเพื่อทำให้ได้
รองนายกฯและรมว.กลาโหม กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (ไอยูยู) ที่ไทยได้รับใบเหลือง และเรื่องการค้ามนุษย์ที่เราถูกลดระดับเป็นเทียร์ 3 กำลังจะทำกลับมาให้อยู่เทียร์ 2 เราพยายามทำอย่างเต็มที่ จะดำเนินการทุกอย่างให้เป็นที่เขาต้องการ ซึ่งตนค่อนข้างมีความมั่นใจว่าในส่วนไอยูยูจะขยับให้ดีขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องไอยูยูเขาจะเดินทางมาประเทศไทยในช่วงวันที่ 20-21 ม.ค. 59 ถ้าเราประสบความสำเร็จ จะเบาใจขึ้นอีกเยอะ ส่วนกรณีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่ไทยถูกปักธงแดง อันตรายมาก ซึ่งเราได้จัดคณะทำงานในการเดินทางไปชี้แจง ส่วนที่สำนักงานบริหารองค์กรการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FFA) ลดชั้นไทยลงมา ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานอื่นๆ ได้ส่งคนไปชี้แจง เขาค่อนข้างจะเข้าใจแล้วว่าเราทำอะไรบ้าง
รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราดำเนินการอีกเรื่อง คือ เรื่องผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ นายกฯ ให้เวลา 6 เดือน ซึ่งมีการร่วมมือกันหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และ สตช.ที่จะต้องร่วมกันในเรื่องการหาข่าวเป็นเวลา 2 เดือน ขณะนี้ครบแล้ว เราได้รายชื่อเยอะมาก มาอยู่ที่ตนแล้วในการที่จะสกรีนคนทั้งหมด โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไป ดังนั้นใครมีรายชื่อหรือไม่มีรายชื่อตนไม่รู้ ดูแล้วกันเพราะเขาจะลงไปดูว่าอันไหนจริงไม่จริง ใช้เวลา 2 เดือน ถ้าเสร็จแล้วตนจะเริ่มทำงาน โดยการดำเนินการสามขา คือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และ สตช. ที่จะลงไปในทุกพื้นที่ ต้องขออนุมัตินายกฯ ก่อน อาจจะปั่นป่วนทั้งประเทศ ฉะนั้น ฝากไว้เลยว่าใครที่ดำเนินการในสิ่งที่สร้างความไม่เรียบร้อยให้เกิดในแผ่นดินนี้จงเลิกเสียเถอะ
