ศบปพ.สั่งสำนักงานการบินพลเรือนฯ ระงับออกใบอนุญาตใหม่ให้นักบินพาณิชย์เอกทั้งหมด และให้ตรวจสอบคุณสมบัตินักบินที่มีอยู่ พร้อมตั้งอนุกรรมการตรวจปัญหาของ ICAO
พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (ผบ.ศบปพ.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.) พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะ ผบ.ศบปพ.ได้เป็นประธานในการประชุมติดตามความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องทางด้านการบินพลเรือนของคณะกรรมการ ศบปพ.ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ โดยมีผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยการประชุมครั้งนี้ได้มีการติดตามความก้าวหน้าของแผนการตรวจสอบเพื่อออกใบอนุญาตนักบินพาณิชย์เอกใหม่ (Re-ATPL) และแผนการตรวจสอบเพื่อออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (Re-AOC) โดยได้พิจารณาให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หยุดการออกใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ไว้ก่อนจนกว่าจะได้มีการปรับปรุงแก้ไขแผนการตรวจสอบเพื่อออกใบอนุญาตนักบินพาณิชย์เอกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้มีการดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัตินักบินพาณิชย์เอกใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ถูกต้องตามมาตรฐานสากลที่ทางองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) กำหนด ทั้งนี้ได้ขอให้ กพท.รีบดำเนินการจัดทำแผนการตรวจสอบดังกล่าวส่งให้ ศบปพ.พิจารณาโดยเร็วภายในสัปดาห์นี้ เพื่อที่จะนำเสนอขออนุมัติดำเนินการและงบประมาณจากคณะรัฐมนตรีให้ทันในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ พล.อ.อ.ตรีทศกล่าวต่อที่ประชุมว่า สำหรับ กพท.ซึ่งได้ให้คำมั่นต่อสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) ว่าจะเริ่มปฏิบัติงานได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 นั้น ขอให้ใช้วิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาสในการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนด รวมทั้งมีคุณภาพและประสิทธิภาพที่จะเข้ามาทำงานในองค์กรใหม่ให้มีความเป็นมาตรฐานสากลและเจริญก้าวหน้าซึ่งเป็นนโยบายที่ทางรัฐบาลสั่งการผ่านมาทาง ศบปพ.
สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาที่ตรวจพบโดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) นั้น ศบปพ.ได้ดำเนินการแบ่งกลุ่มงานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากกองทัพอากาศ และสำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (กพท.) เป็นหลัก รวมทั้งผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องออกเป็น 5 คณะอนุกรรมการ ได้แก่ 1. คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนด้านการปฏิบัติการบินของอากาศยาน 2. คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนด้านการออกใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่ในอากาศยานและการฝึกอบรม และด้านความสมควรเดินอากาศของอากาศยาน
3. คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนด้านสนามบินและเครื่องช่วยเดินอากาศภาคพื้น และด้านการบริการ การเดินอากาศ 4. คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนด้านกฎหมายและข้อบังคับการบินพลเรือน ด้านโครงสร้างการบินพลเรือน และด้านการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน และ 5. คณะอนุกรรมการ เพื่อศึกษาและเสนอแนะการปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน
ทั้งนี้ ทาง กพท.ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC Re-Certification) โดยการว่าจ้างองค์กรเชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่มีความน่าเชื่อถือในระดับสากลให้ส่งผู้ตรวจสอบ (Inspector) ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนมาร่วมดำเนินการกับผู้ตรวจสอบของไทย ซึ่งเป็นการดำเนินการตามที่ได้ทำความตกลงกับสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป(EASA) เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2558 ที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว โดย ศบปพ.จะได้มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมร่วมกันต่อไป ซึ่ง ผบ.ศบปพ.ได้ให้หลักการไว้ว่า ขอให้ดำเนินการจ้างผู้ตรวจสอบของต่างประเทศเท่าที่จำเป็นเฉพาะในส่วนที่คนของเรามีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ และจัดผู้ตรวจสอบของไทยที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ถูกต้อง เข้าทำงานร่วมกัน พร้อมทั้งให้เตรียมคนสำหรับรองรับงานดังกล่าวนี้ในอนาคตต่อไป เพื่อให้เราสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเองอย่างยั่งยืนและเป็นมาตรฐานสากล และเป็นการใช้งบประมาณของชาติอย่างคุ้มค่าอีกด้วย