xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” จี้ทูตมะกันอย่าด่วนสรุป ม.112 ชี้ “ปู” ถูกตัดสิทธิการเมืองไม่มีอะไรใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
“อภิสิทธิ์” มองลดอันดับการบินไทยบ่งชี้ไม่ได้โยงการเมืองหรือไม่ แต่ต้องมุ่งแก้ไข ชี้ทูตมะกันวิจารณ์ ม.112 คนละประเด็น เสียดายรับตำแหน่งควรรู้เรื่องละเอียดอ่อน ขออย่าด่วนสรุปเสี่ยงเป็นเหยื่อการเมือง รับ ศก.คงไม่ดีง่ายๆ ต้องรับความจริงเอี่ยว ปชต. แต่ไม่ใช่เพราะ คสช.ทั้งหมด ย้อนปกติ “แม้ว” ทำตัวเป็นตัวแทน ปชต. ชี้ “ปู” ถูกตัดสิทธิการเมืองตาม รธน.ไม่มีอะไรใหม่ จี้ กรธ.เขียนให้ชัด

วันนี้ (3 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ FAA ประกาศลดอันดับความปลอดภัย หรือมาตรฐานด้านการบินของประเทศไทย ว่าไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ แต่สิ่งที่เราทำได้คือต้องเดินหน้าปรับปรุงแก้ไขในเรื่องมาตรฐานเกี่ยวกับการบินให้เกิดความเชื่อมั่นขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ ICAO และบางประเทศที่เราไม่สามารถเปิดเที่ยวบินเพิ่มไปได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ทูตสหรัฐฯ มีการพูดถึงมาตรา 112 ขณะที่มีกระแสข่าวมีการล็อบบี้อยู่นอกประเทศไทย ทำให้คิดได้ว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงเป็นคนละประเด็นกับเรื่องนี้ ซึ่งตนรู้สึกเสียดาย เพราะตอนที่นายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ มารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยใหม่ๆ ก็ดูทุกอย่างเหมือนกับจะราบรื่น ดีขึ้นจากสภาพความรู้สึกที่มันเคยมีปัญหาในบางส่วนกันมาก่อน ตนมองว่าบังเอิญประเด็นเกิดขึ้นในวันที่ไปสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ตนจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะจะต้องถูกถามหรือวนเวียนมาเรื่องนี้ ซึ่งคำตอบหรือการนำเสนอของทูตสหรัฐฯ ก็ไม่แปลกเพราะในกรอบความคิดของทางตะวันตกก็ยังมีการพูดแบบนี้อยู่มาก เพียงแต่เสียดายเพราะบุคคลที่มาดำรงตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตก็น่าจะต้องทราบดีอยู่แล้วว่าเรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน และการพูดในเชิงนามธรรม หรือการนำข้อเท็จจริงบางจุดมายกขึ้นมา เช่น จำนวนคดีเพิ่มขึ้น หรือเรื่องโทษหนัก ไม่ได้สะท้อนให้เห็นว่ามีการติดตามศึกษาเกี่ยวกับปัญหาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะจะต้องมาทำงานในการกระชับหรือเชื่อมความสัมพันธ์ให้มันดี แต่ไปหยิบเอาประเด็นที่เป็นประเด็นขัดแย้งขึ้นมา จึงหวังว่าจะมีการไปทบทวนและศึกษาดูให้ดี อย่าด่วนสรุปอะไรแบบที่พูดออกมาเพราะมีความละเอียดอ่อน และสุ่มเสี่ยงต่อการเป็นเหยื่อในการทำประเด็นเรื่องนี้ให้เป็นประเด็นทางการเมือง

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีคลิปนายทักษิณ ชินวัตร ที่วิจารณ์เศรษฐกิจไทยแย่ลงไปอีกเนื่องจากไม่มีนักธุรกิจมาลงทุนเพราะไม่เป็นประชาธิปไตยว่า ตนคิดว่าเศรษฐกิจคงไม่ดีขึ้นง่ายๆ จากปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงบางเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาธิปไตยโดยตรง เช่น การทำข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป ไม่สามารถทำได้หากไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ส่วนการตัดสินใจการลงทุนก็อาจจะมีบางเรื่องเกี่ยวพันกับปัญหานโยบายแบบนี้ เพราะนักลงทุนต่างชาติเห็นว่าภาวะการเมืองที่เกิดกับประเทศไทยเป็นภาวะชั่วคราว หรือช่วงเปลี่ยนผ่าน ขณะที่นักลงทุนชอบความแน่นอน คือมีกติกาประชาธิปไตย มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เข้าใจได้

“สถานะตอนนี้ก็มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ไม่ใช่ คสช.จะเป็นสาเหตุทั้งหมดที่ทำให้เศรษฐกิจแย่ แต่ก็มีหลายประเทศที่ต่างประเทศก็ยังสนใจไปลงทุนทั้งที่มาตรฐานประชาธิปไตยก็เหนือกว่าไทยเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นมันก็แล้วแต่มุมมอง บางเรื่องต้องยอมรับความจริงตรงไปตรงมา รัฐบาลจะไปปฏิเสธบอกไม่มีผลเลยมันก็ไม่จริง เช่นข้อตกลงการค้าเสรีทำกับใครนั้นยาก”

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่นายทักษิณจะพยายามทำตัวเป็นตัวแทนของประชาธิปไตย ส่วนพฤติกรรมจริงเป็นอย่างไรก็ไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์กันในที่นี้ ส่วนกรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กำหนดคุณสมบัติ ลักษณะผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่สามารถลงตั้ง ส.ส.ได้ในสมัยหน้านั้น เท่าที่ตนดูไม่มีอะไรใหม่ในอดีต รัฐธรรมนูญได้การกำหนดลักษณะต้องห้ามเกี่ยวกับบุคคลซึ่งถูกตัดสินในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง จำคุก ถูกปลดออกจากราชการ ถูกถอดถอน หรือว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริต จะถูกตัดสิทธิหรือจะมีลักษณะต้องห้ามอยู่แล้ว

“บังเอิญเรื่องใหม่ คือ ระหว่างที่ทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีการถอดถอนคุณยิ่งลักษณ์ในยุค สนช. ซึ่งโดยหลักแล้วบุคคลที่ถูกถอดถอนจะถูกห้ามไม่ให้เข้ามาสู่การเมืองตามระยะเวลาที่ถูกเพิกถอนสิทธิหรือไม่นั้น เป็นหลักเดิมอยู่แล้ว กรธ.ก็ต้องเขียนไปตามหลัก มิเช่นนั้นก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ อีกทั้งรัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดกรอบเอาไว้ชัดเจนว่าต้องมีมาตรการห้ามบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือการทุจริตการเลือกตั้งเข้ามาสู่การเมือง จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับ กรธ.ด้วย” นายอภิสิทธิ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น