ศึกรัสเซีย-ยูเครนปะทุ ปูตินสั่งระงับเขตการค้าเสรี-เคียฟโวยโดนขโมยแท่นขุดเจาะน้ำมัน

รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซียเมื่อวันพุธ(16ธ.ค.) สั่งรัฐบาลระงับเขตการค้าเสรีกับยูเครนนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นปี ดำเนินการตามที่เคยขู่ตอบโต้เคียฟที่หันไปแสวงหาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหภาพยุโรป ขณะที่อีกด้านหนึ่งความตึงเครียดระหว่างสองชาติกระพือขึ้นอีกระลอก ด้วย ยูเครน กล่าวหามอสโกขโมยแท่นขุดเจาะน้ำมัน 2 แห่งในไครเมีย หลังแท่นขุดเจาะเหล่านั้นถูกเคลื่อนย้ายไปยังน่านน้ำของรัสเซีย

รัสเซีย ซึ่งผนวกแหลมไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเมื่อปีที่แล้ว และถูกเคียฟกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่มอสโกในความขัดแย้งนองเลือดทางภาคตะวันอกของประเทศ คัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อแผนจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีอียู-ยูเครน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียบอกเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาว่า บางทีมอสโกอาจจำเป็นต้องลงโทษการนำเข้าจากยูเครนและกำหนดมาตรการไม่ให้สิทธิพิเศษทางการค้า หากว่าเคียฟยังเดินหน้าแผนข้อตกลงการค้าเสรีกับอียูในวันที่ 1 มกราคมตามเดิม

การตัดสินใจระงับความตกลงการค้าเสรีกับยูเครนที่ลงนามเมื่อปี 2011 ปรากฎอยู่ในประกาศกฤษฎีกา ซึ่งอ้างว่ากรณีแวดล้อมที่ไม่ปกติกำลังส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของรัสเซีย อย่างไรก็ตามในกฤษฎีกานี้ไม่ได้พาดพิงถึงระยะเวลาที่ข้อตกลงการค้าเสรีถูกระงับ

ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้มาจากยูเครน แม้ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เคยบอกว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนจุดยืนต่อข้อตกลงการค้าเสรีกับอียูและมันจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม โดยไม่สนว่ารัสเซียจะมีความเคลื่อนไหวใดๆออกมา

รัสเซียบอกว่าข้อตกลงยูเครน-อียู อาจนำมาซึ่งการไหลบ่าของสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรปทั่วแนวชายแดนของพวกเขาและก่อความเสียหายแก่การส่งออกจากรัสเซียไปยังยูเครน ที่ไม่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน

นอกเหนือจากประเด็นข้อตกลงการค้าเสรีแล้ว ยูเครนและรัสเซียยังมีเรื่องกระทบกระทั่งซ้ำเติมอีกในวันพุธ(16ธ.ค.) ด้วยเคียฟกล่าวหามอสโก ขโมยแท่นขุดเจาะน้ำมัน 2 แห่งของพวกเขา หลังจากบริษัทคอร์โนมอร์นาฟโตก๊าซ ซึ่งมีสำนักงานในไครเมีย เคลื่อนย้ายแท่นจุดเจาะดังกล่าวจากนอกชายฝั่งแหลมไครเมียเข้าไปยังน่านน้ำของรัสเซีย

รัสเซียผนวกไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเมื่อปีที่แล้ว และการสูญเสียสินทรัพย์ทางพลังงานอันมีค่าในแหลมแห่งนี้ สร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสแก่ยูเครนที่ต้องเผชิญกับภาวะเงินสดขาดมือย่างรุนแรง และได้ก่อข้อพิพาททางพลังงานระหว่างสองประเทศ

ในวันจันทร์(14ธ.ค.) คอร์โนมอร์นาฟโตก๊าซ บอกว่าทางบริษัทได้เคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมัน 2 แห่ง มูลค่า 357 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าไปยังน่านน้ำของรัสเซีย โดยอ้างสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ยุ่งยากซับซ้อนและความเสี่ยงที่จะสูญเสียสินทรัพย์สำคัญ

ในขณะที่ยูเครน ซึ่งสูญเสียการควบคุมแท่นขุดเจาะน้ำมันหลายแห่งไปก่อนหน้านี้ตามหลังรัสเซียผนวกไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน ประณามการเคลื่อนย้ายดังกล่าวว่าเป็นการปล้นสะดมขนานใหญ่

"กระทรวงการต่างประเทศยูเครน ขอแสดงความขุ่นเคืองอย่างยิ่งในความเกี่ยวข้องกับการกระทำของรัสเซียที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นอีกครั้งที่มีเป้าหมายละเมิดอำนาจอธิปไตยของยูเครน" กระทรวงการต่างประเทศยูเครนระบุในถ้อยแถลง