xs
xsm
sm
md
lg

หญิงออสเตรเลียโร่ร้อง สนช. ลูกชายถูกรุมสาหัสในผับดังสมุย แถมถูกบีบให้โกหกศาลจบคดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หญิงชาวออสเตรเลียร้องเรียนต่อรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ระบุบุตรชายวัย 20 ปี ถูกเด็กอเมริกันทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะหึงหวงที่คบหาหญิงลูกครึ่งญี่ปุ่น-นิวซีแลนด์ ระบุหลายหน่วยงานไม่ได้รับความช่วยเหลือ อีกทั้งถูกตั้งข้อหามึนเมา และถูกข่มขู่ให้โกหกศาลเพื่อจบคดี อ้างคดีนี้ไม่มีความสำคัญและควรให้ความสำคัญต่อการศึกษาของเยาวชนมากกว่า

วันนี้ (30 พ.ย.) ที่อาคารรัฐสภา ได้เกิดความวุ่นวายเล็กน้อย เมื่อนางแอนนี แฮนเส็น บาร์เทล (Annie Hansen-Bartel) ชาวออสเตรเสีย นำป้ายข้อความนั่งพื้นบริเวณประตูทางเข้าอาคารรัฐสภา 1 เรียกร้องความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนประจำรัฐสภา และนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 โดยชูป้าย #justiceforjack เรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ลูกชายชื่อนายแจ็ก อายุ 20 ปี จากเหตุทำร้ายร่างกายที่ผับแมงโก้ทรี ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2557 หรือ 18 เดือนที่ผ่านมา

โดยรองประธาน สนช.คนที่ 1 ได้ให้เจ้าหน้าที่เชิญนางแอนนีไปยังห้องรับเรื่องราวร้องทุกข์ อาคารรัฐสภา 2 เพื่อสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จากคำบอกเล่าของนางแอนนี เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ทำงานในไทยมากว่า 15 ปี เธอเล่าว่า ลูกชายของเธอถูกทำร้ายจากเด็กอเมริกัน 2 คน ชื่อไรอัน แวง และ เรย์มอนด์ แชง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เชื่อว่าสาเหตุมาจากความหึงหวงที่นายแจ็กอยู่กับหญิงลูกครึ่งญี่ปุ่น-นิวซีแลนด์ ชื่อทิฟฟานี มาร์นีโค เทอร์เนอร์ ซึ่งทิฟฟานีเคยมีความสันพันธ์กับไรอัน แวง มาก่อน

นางแอนนีกล่าวว่า ขณะที่เธอดำเนินการฟ้องร้องและขึ้นศาล เธอพยายามขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ เช่น องค์การตำรวจสากล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือเท่าที่ควร นอกจากนี้อัยการในชั้นศาลที่เกาะสมุยได้กลับคำให้การ และตั้งข้อหาว่านายแจ็กมีอาการมึนเมา ทั้งที่ไม่มีหลักฐานใดๆ แม้ว่านางแอนนีจะมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านก็ตาม เธอเชื่อว่าเกิดจากการทุจริตขึ้นเนื่องจากครอบครัวผู้กระทำผิดชาวอเมริกันมีอิทธิพลและร่ำรวยกว่า

ทั้งนี้ สำหรับในวันพรุ่งนี้ นายแจ็กลูกชายของเธอจะขึ้นศาลที่เกาะสมุยในเวลา 09.00 น. ซึ่งทางศาลจะนำคดีของทั้งสองฝ่ายมาพิจารณาพร้อมกัน ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เธอได้รับจดหมายว่าเธอไม่จำเป็นต้องไปขึ้นศาลอีก เนื่องจากคดีนี้ไม่มีความสำคัญและควรให้ความสำคัญกับการศึกษาของเยาวชนมากกว่า และถูกข่มขู่ให้เธอโกหกศาลและกลับคำให้การ เพื่อให้คดีจบไป




กำลังโหลดความคิดเห็น