xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ย้อนกลับ “เพื่อไทย” จี้ “อุดมเดช” ลาออก ถามจำนำข้าวเคยรับผิดชอบไหม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธข้อเสนอพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ รมช.กลาโหม ลาออก ส่วนเรื่องให้งบประมาณกลาง เป็นเรื่องของกระทรวงที่ขอขึ้นมา ให้โดยสุจริต ย้อนกลับโครงการรับจำนำข้าวเคยรับผิดชอบไหม ย้ำ ตนเองไม่ใช่ศัตรูของใคร ไม่ห่วงทำลายศรัทธารัฐบาล ไม่มีปัญหาถ้า สตง. ตรวจสอบ

วันนี้ (27 พ.ย.) ที่สำนักงบประมาณ เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และอดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) รับผิดชอบการทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ด้วยการลาออก ว่า ราชภักดิ์เป็นโครงการมีประโยชน์ต่อแผ่นดิน มีเจตนาดี แต่มีส่วนหนึ่งเอาไปหาประโยชน์ อย่าไปตกเป็นเครื่องมือเขา ซึ่งตนก็มีลงโทษ ทั้งทางวินัย ถอดยศ ยึดเครื่องราชฯ ส่วนทางอาญาก็ออกหมายจับ ทำตามกระบวนการทุกอย่าง กฎหมายก็เป็นแบบนี้ ไม่ใช่จะเลวไปทั้งหมด

เมื่อถามว่า ส่วนที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบว่า มีการเบิกจ่ายงบกลางไปใช้ในโครงการ นายกฯ กล่าวว่า หน้าที่ของรัฐบาล งบกลางที่ขอมามีหลายหน่วยงาน ซึ่งส่วนนั้นเป็นงบ กลาโหมที่ขอขึ้นมา เป็นโครงการของกองทัพบก ส่วนเขาจะไปใช้อะไรไปดูตรงโน้น ก็ตรวจสอบกันมา ถ้าเขามีการตรวจสอบการใช้งบ ตรวจบัญชีแล้วมันตรง มันก็โอเค แต่ไอ้ที่โกงกันไปก็ต้องไปหากันต่อ จะทำยังไงกับ 2 - 3 คน ที่มันหนี ๆ พูดกันอยู่ ไปหามาซิ มันก็คือส่วนหนึ่งเท่านั้น

เมื่อถามว่า มีการเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบ นายกฯ ย้อนถามด้วยน้ำเสียงที่ดุดันว่า “รับผิดชอบเรื่องอะไร ไหนตอบมาซิ ปัดโธ่ และรัฐบาลนั้นรับผิดชอบไหมโครงการจับนำข้าว ก็ถามกันแบบนี้ เขามีหน่วยงานไม่รู้เท่าไร มีรองนายกฯ รัฐมนตรี อธิบดี ผอ. หน่วยงาน ก็ไปไล่สอบมา รัฐบาลต้องรับผิดชอบในทางนโยบาย ซึ่งก็ได้ให้ไปแล้ว และผมให้ก็ด้วยความสุจริต ผมไม่ได้ทำผิดอะไร ผมให้ถูกตามระเบียบถูกตามงบประมาณหรือเปล่า ถ้าผมให้ถูกระเบียบต้องรับผิดชอบอะไร คนรับผิดชอบคือคนที่เบิกผมไป ซึ่งเขาก็ตรวจแล้วให้ไปไล่ดู อย่ามาโยงกันแบบนี้ มันคนละเรื่อง ไอ้จำนำข้าวใครรับผิดชอบถามซิ นายกฯ เหรอ มันไม่ใช่ ต้องคณะกรรมการนโยบายจำนำข้าวที่ต้องรับผิดชอบ ใครละเป็นประธาน ที่เขาต้องเรียกค่าละเมิดในฐานะเขาเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว กำกับดูแลไปซิ ถ้านายกฯ รับทั้งหมดมันใช่ แต่รับผิดชอบในเชิงนโยบาย ถ้ามันทำไปตามนโยบายที่ชอบทำถูกต้อง หรือจะมาบอกเป็นนโยบายของพรรค มันก็ไม่ใช่ แต่นี้เป็นโยบายรัฐบาลที่เจตนาโดยสุจริต เพราะฉะนั้นอย่าเอาไปพันกัน ผมพูดตามคำศัพท์ของผม ไม่ใช่ตามหลักวิชาการ หรือกฎหมาย อย่ามาจับผิด จับถูก คำถามว่าใครต้องรับผิดชอบอย่ามาถามผม”

เมื่อถามว่า ห่วงว่าฝ่ายตรงข้ามจะนำประเด็นเหล่านี้ มาเป็นตัวทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า คุณจะไปขยายความให้เขาทำไม ผมไปทำแล้วกี่หมื่นอย่าง ทำไปเป็นแสนอย่างแล้ว เรื่องตรงนี้ก็มาขยายกันอยู่ได้ ให้ไปสอบมันก็จบ ใครติดคุกก็ติดไปเถอะ ตนไม่ได้ไปช่วยเขา ถ้ายังขยายความแบบนี้ กระบวนการยุติธรรมก็เสียหาย ความเชื่อถือก็ไม่เป็นธรรม เลือกข้าง คดีอื่น ๆ เขาก็เข้ากันหมด มีบางคนที่ไม่ยอมเข้า จะผิดไม่ได้ ต้องถูกทั้งหมด แบบนี้จะอยู่ยังไง จะเอาแบบนี้เหรอ ตนยังไม่ได้เข้าข้างใครสักคนเลย ความรับผิดชอบก็พูดกันอยู่นั้น รัฐบาลจะไม่อยู่ไม่ได้ ก็ให้รู้กันไป ถ้าจะไม่อยู่ไม่ได้เรื่องแบบนี้ อะไรที่เป็นปัญหาเป็นอุปสรรคก็แก้ไป กฎหมายมีก็ทำไป วันนี้ประเทศติดไปสะทุกอย่าง มั่วแต่อยู่ในความขัดแย้ง ให้เข้าใจตนบ้างเข้ามาด้วยเพราะอะไร ไม่ได้เข้ามาเพื่อต่อสู้ปัญหาเก่า ๆ ไม่ได้มาต่อสู้กับเขา ให้กระบวนการยุติธรรมไปทำมา

“การทำทุกอย่างมันต้องมีปัญหา เพราะเราเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะทหาร ตำรวจ หรือประชาชน ก็มีปัญหาทั้งนั้น ให้กลไกที่มีเขาทำไป ทำไมต้องมาแบ่งฝ่าย ผมไม่ใช่ฝ่ายใครทั้งนั้น ผมคือฝ่ายคน 70 กว่าล้านคน ยกเว้นไอ้คนไม่ดี ผมไม่ใช่ศัตรูใคร ไปเป็นศัตรูกฎหมายโน้น วันนี้ต้องการให้ตีกันอีก ต้องการให้มีผู้ชนะ ผู้แพ้กันหรืออย่างไร คนแพ้ทั้งหมดคือประเทศชาติ และประชาชน จะอยู่ไม่ได้แน่นอน เพราะฉะนั้น ถ้าทุกอย่างล้มไปก่อนปี 60 ก็ช่วยไม่ได้ ฉันก็พอแล้ว ก็ไปหาใครมาทำก็แล้วกัน ไม่ได้ต้องการสร้างคะแนนนิยมรัฐบาล หรือ คสช. สิ่งที่ทำอาจช้าบ้าง เร็วบ้าง แต่กลับเอาเรื่องแบบนี้มาขยายความ ทำเพื่ออะไร ผมก็ไม่รู้” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่าถ้า สตง. เข้ามาตรวจสอบ จะมีปัญหาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่เคยห้าม ก็ตรวจสอบของเขาไปตามระบบราชการ ใครจะตรวจสอบก็ตรวจสอบมา ซึ่งก่อนตรวจสอบจะทำเรื่องมาก่อน แล้วเราก็ทำเรื่องชี้แจงเขาไป แล้วตรวจสอบหลักฐาน ถ้ามันไม่มีอะไรเขาก็ไม่ตรวจสอบ ถ้าเจอคนผิดก็ลงโทษทางวินัย ไล่ออก ปลดออก ถ้าเป็นคดีอาญาก็ดำเนินการตามปกติว่ากันไป ไม่ว่าจะโครงการอะไร มูลค่าเท่าไรใช้กฎหมายเดียวกัน นี้คือ ความเท่าเทียมของกฎหมาย ไม่ใช่ว่าตนเป็น คสช. แล้วจะมาปกป้องทหาร เขามีความเข้มแข็งของเขาอยู่แล้ว มันคือคนส่วนน้อย ซึ่งผมสัมฤทธิ์มันก็ปรากฏอยู่ ถ้าเป็นการอ้างสถาบันหาผลประโยชน์รับไม่ได้ ท่านทรงพระเมตตาทุกคนอยู่แล้ว แต่ก็มาชอบทำกันแบบนี้ทำกฎหมายเสียหาย ทำให้สถาบันเสียหายไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบ นายกฯ กล่าวขึ้นทันทีที่ยังถามคำถามไม่จบว่า “พรรคอะไรไม่รู้ ผมไม่สนใจ” จากนั้น ย้อนถามผู้สื่อข่าว “พรรคอะไรนะ” เมื่อผู้สื่อข่าวตอบว่าพรรคเพื่อไทย นายกฯ กล่าวตอบอย่างเสียงดังว่า ผมไม่รู้จัก ไม่สนใจ ท่านต้องฟังผม ไม่ใช่เอาคำถามที่เขาพูดมาแล้วมาถาม ไปถามคนพูดว่าพูดมาทำไม ไปต่อสู้ให้ตนบ้าง นายกฯ ทำแบบนี้ ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ไปแก้เรื่องตนกับเขา ไม่ใช่เอาสิ่งที่เขาพูดมาโจมตีตน แล้วเอาตนไปโจมตีเขา สนุกกันนักหรือไง ไม่เข้าใจ พูดกันกี่ทีแล้ว ผมไม่สนใจ ก็เลือกตั้งเข้ามาแล้วกัน เลือกเขาใช่ไหม ก็เลือกมาซิ

เมื่อถามว่า คนที่ถูกออกหมายจับเป็นคนใกล้ชิด พล.อ.อุดมเดช นายกฯ กล่าวว่า ต้องแยกออกจากกัน คนใกล้ชิดทำผิดใช่ไหม ถ้าไม่งั้นต่อไปคนใกล้ชิดทำผิดก็ต้องลาออกไปให้หมด คนในกระทรวง ลูกน้องทำผิด แล้วต้องลาออกอย่างนั้นเหรอ เขามีกฎหมายอยู่ จะมาบอกเป็นความรับผิดชอบทางการเมืองเหรอ ก็เอาไปคิดกัน จะผิดจะถูกเขาคิดกันอยู่ มีวิจารณญาณของเขาเอง คนที่เคยอยู่การเมืองแล้วไม่รับผิดชอบ ทำไมไม่ไล่เขา เคยถามเขาแบบนี้หรือเปล่า พอถามแล้วตอบว่าไง ไปแล้วค่ะ.


กำลังโหลดความคิดเห็น