“ประยุทธ์” ปราศรัยชี้ขับเคลื่อนงานต้องเชื่อมโยง ต้องภูมิใจในแผ่นดิน นำอดีตเป็นบทเรียนปรับให้ดีขึ้น เป็นประชารัฐอย่าให้ใครชักจูง ปชต.ต้องปรับให้เหมาะสังคมไทยดูแลทุกคน เกษตรต้องปรับพฤติกรรมปลูกพืช ย้ำวันนี้อย่าปลุกปั่น กฎหมายเป็นกฎหมาย หยวนไม่ได้ อย่าเชื่อคำบิดเบือน ลั่นทหารโกหกไม่ได้ อย่าเหมารวมทหารไม่ดี ย้อนใครจะประท้วงมาจะได้อธิบาย รับลูกอีสานเหมือนกันไม่ทำร้ายคนบ้านเดียวกัน
วันนี้ (12 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นปราศรัยบริเวณบ้านยางกระเดา ต.ท่าเมือง อ.ดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีประชาชนมารอต้อนรับกว่า 2,000 คน โดยได้กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้อย่าถือว่ามาต้อนรับตน แต่ให้ถือว่ามาแสดงความร่วมมือร่วมใจเพื่อเดินหน้าประเทศร่วมมือกันให้เป็นประชารัฐ วันนี้มีคนเข้ามาใกล้ๆ ตนเข้าใจว่าชื่นชอบ แต่ไม่ใช่ เขามาดูป้ายทะเบียนรถที่ตนนั่งมา ส่วนตัวไม่สนับสนุนให้เล่นหวย แต่เข้าใจว่าหวยเป็นความหวังของชาวบ้าน แต่สิ่งที่ตนและรัฐบาลทำคือความจริงว่าจะทำอย่างไรให้มีอาชีพและมีรายได้ที่พอเพียง ไม่หลงใหลในสิ่งสวยงาม หรือทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย วันนี้ดีใจที่เจอพี่น้องประชาชนในจุดที่กำลังจะขุดลอกเป็นพื้นที่เก็บน้ำให้ได้ปริมาณเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่รัฐบาลทำ อย่างไรก็ตาม ตนพูดแบบนี้มาตั้งแต่เดือน พ.ค. 57 ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว เวลาของรัฐบาลและ คสช.ก็เหลือน้อยลงทุกที ซึ่งเราไม่ต้องการจะฝืนวิถีทางของประชาชน แต่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในการขับเคลื่อนการทำงานต้องมีความเชื่อมโยงกันและกัน และต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกส่วน ทั้งรัฐบาลซึ่งอยู่ในระบบบน ข้าราชการต่างๆ ผู้ว้าราชการจังหวัด ที่ต้องขับเคลื่อนในระบบล่างหรือระดับปฏิบัติ และ คสช.ก็มาช่วยขับเคลื่อนให้ทุกอย่างเร็วขึ้น ไม่ได้ต้องการรังแกใคร วันนี้รัฐบาลรับทราบทุกปัญหา และพยายามหาทางแก้ไข ซึ่งสิ่งที่ตนต้องการคือความเข้าใจ และถ่ายทอดสิ่งที่เราคิด เพราะตอนนี้เรามีแต่ความหวังแต่ไม่มีวิธีการมันก็ไปไม่ได้ แก้ปัญหาไปก็เสียเวลาเปล่า เพราะปัญหามันทับซ้อนกันหมด ตนปฏิเสธประชาธิปไตยไม่ได้ แต่เราต้องเรียนรู้ว่าจะเป็นประชาธิปไตยอย่างไรในอนาคตและต้องเป็นประชารัฐ เชื่อมโยงการทำงานทั้งรัฐบาล ประชาชน ภาคเอกชนและเอ็นจีโอ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นสังคม เป็นพื้นที่แผ่นดินเดียวกัน เราต้องภูมิใจในผืนแผ่นดินที่เป็นอิสระจากอาณานิคม จึงต้องนำความภูมิใจตรงนี้มาสร้างความเข้มแข็งไม่ใช่ทำลายและต้องเอาประวัติศาสตร์มาเรียนรู้และเดินหน้าต่อไป เพราะหากมัวแต่สงสัยหรือจมอยู่ในประวัติศาสตร์ก็เดินหน้าไปไม่ได้ ต้องนำมาเป็นบทเรียน ซึ่งที่ผ่านมาคือความขัดแย้ง ถือเป็นประสบการณ์และวันนี้รัฐบาลเข้ามาเพื่อแก้ไขสิ่งเหล่านั้นและทำปัจจุบันให้ดีที่สุดจนกว่าจะถึงปี 60 และหลังปี 60 ก็คืออนาคตที่จะต้องทำเพื่อลูกหลานว่าจะอยู่อย่างไร จะยากจนแบบพ่อหรือปู่ย่าแบบนี้ต่อไปไม่ได้ วันนี้ต้องปรับทุกอย่างให้ดีขึ้น จะหวังกลับไปที่เก่าไม่ได้ เพราะที่ดำเนินการมาทั้งหมดเป็นภาระที่ต้องทำต่อทั้งสิ้น
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า โดยวันนี้เป็นการปฏิรูปแล้วในระยะที่ 1 ต้องใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด สร้างความเป็นประชารัฐให้ได้ เหมือนเนื้อเพลงชาติไทย และเพลงชาติไม่ได้ระบุว่ารวมเลือดเนื้อเป็นประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่านำมาปนกัน ประชาธิปไตยต้องเป็นสากล แต่ก็ต้องมีการปรับให้เหมาะกับสังคมไทยด้วย เหมือนการตัดเสื้อที่วัดตัวคนอื่นแล้วเอามาใส่กับตัวเรามันก็ไม่พอดี เสื้อตัวเดียวจะใส่กันทุกคนไม่ได้ การเป็นประชารัฐได้จะต้องมีความรู้และเรียนรู้ว่าจะอยู่อย่างไร ร่วมมือกันอย่างไรไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก อย่าให้ใครมาชักจูง และตนก็ไม่เคยชักจูงให้ใครมารัก มาชอบตน เพราะยิ่งเกลียดตน ตนก็ยิ่งรัก และคนที่เกลียดตนอาจเพราะไม่เข้าใจ เว้นแต่คนที่พยายามไม่เข้าใจ แต่ต้องมีกรอบกติกา และรัฐบาลพยายามทำเพื่อประชาชน ไม่บังคับใคร ยกเว้นคนที่ทำผิดกฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า วันนี้จะพึ่งพาเฉพาะเกษตรกรรมอย่างเดียวไม่ได้ เพราะสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง จึงต้องสร้างความเข้มแข็งภายในให้เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืช ไม่ใช่ว่ารัฐบาลห้ามไม่ให้ทำอะไรเลย ไม่มีอันจะกิน แต่ทุกคนมีหน้าที่ดูแลประเทศไทยร่วมกัน โดยรัฐบาลก็เหมือนพ่อ แม่ ที่ต้องหาเงินมาเลี้ยงลูก ซึ่งต้องดูแลคนทั้ง 70 ล้านคน ไม่ใช่ว่าไม่ใช่พวกแล้วไม่ดูแล เมื่ออาสามาเป็นรัฐบาลแล้วก็ต้องดูแลทั้ง 70 ล้านคนทั่วประเทศ ในส่วนเอ็นจีโอตนรู้ดีว่าพวกเขามีหน้าที่ แต่อย่าลืมว่าทุกคนต้องมีหน้าที่ดูแลประเทศด้วย จะเลือกทำอย่างหนึ่ง ไม่ทำอีกอย่าง หรือขัดขวาง ทำให้เกิดความขัดแย้งนั้นไม่ได้ และต้องไม่มีปัญหากับประชาคมโลก วันนี้ขออย่าให้มีการยุยงปลุกปั่น การลงพื้นที่วันนี้มีการยื่นหนังสื่อร้องเรียนจำนวนมาก ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ไม่ยาก แต่ก็แก้ไม่ได้ เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน จึงเดินหน้าต่อไม่ได้ เราต้องทำเรื่องที่ง่าย ทำเรื่องใหญ่ลดให้เล็กลง รวมถึงเรื่องการปรองดองที่จะต้องทำเรื่องง่ายก่อน จะแก้ไขทั้งหมดเลยไม่ได้ ทะเลาะกันเป็นสิบเรื่องจะให้เลิกกันไปไม่มีทาง แต่กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย อย่าใช้วิธีหยวน ยังไงก็ได้ อย่าให้ใครบิดเบือน
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวว่า ปัญหาใหญ่ของบ้านเรา คือ การเมือง การเป็นประชาธิปไตย ซึ่งตนไม่ได้ปฏิเสธ และตนก็พยายามทำให้เป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ให้ได้ จะได้ไม่ต้องมาเจอพวกตนอีก และ ถึงแม้วันนี้อากาศจะร้อน แต่สิ่งที่ร้อนที่สุดคือร้อนใจว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ และไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร ผิดถูกต้องว่ากันตามกฎหมาย ทำผิดก็ต้องติดคุก เพราะกฎหมายเป็นความเท่าเทียมอย่างแท้จริงบนโลกใบนี้ แต่ความเท่าเทียมอื่นๆ ต้องมาจากผู้บริหารราชการแผ่นดินที่ต้องมีวิสัยทัศน์ที่ไปด้วยกันได้ ถ้าทุกคนฟังตนและคิดตามก็จะเข้าใจปัญหาของประเทศและทุกอย่างก็จะมีคำตอบทั้งสิ้น วันนี้ตนกำลังสร้างอนาคตและทำปัจจุบันให้ดีก่อน ขออย่าเอาอดีตมาตีกับสิ่งที่ทำใหม่ เพราะจะนำไปสู่จุดสุดท้ายคือไม่มีใครได้อะไรเลย ไม่อยากให้มีใครติดคุกอย่างกรณีที่มีการตัดสินให้จำคุก 13 ปี เพราะไปเยี่ยมศาลากลางจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งคนที่นำมาไม่เคยติดคุก มีแต่ประชาชน ถ้าไม่โดนวันนี้วันหน้าก็ต้องโดน ถ้าไม่มีกฎหมายประเทศนี้ก็ไม่มีความสุข ใครจะทำอะไรก็ลองดู จะทำได้หรือเปล่า วันนี้งบประมาณบูรณาการจังหวัดเพิ่มขึ้นทั้งหมด เพื่อให้ไปทำเรื่องใหม่ๆ ตามที่ตนพูด เพราะถ้าทำตามของเก่านั้นไปไม่ได้เพราะมันติดกับดักเดิมๆ
“วันนี้อย่าเชื่อใครที่พยายามบิดเบือน เพราะผมไม่เคยโกหก ทหารโกหกไม่ได้ ทหารคนที่ไม่ดีก็ไม่ดี คนละคน คนละเรื่อง อย่าเอามาเหมารวมว่าเลวทั้งหมด ผมยังไม่เคยเหมารวมว่าใครเลว อยู่ที่ทำผิดกฎหมายหรือไม่ วันนี้ต้องฟัง และคิดอย่างมีเหตุผลว่าจะเชื่อหรือไม่และต้องดูว่าจะมีส่วนร่วมอย่างไร ส่วนสื่อก็ขอร้องฟังได้ อ่านได้ แต่ต้องมีเหตุผล ยืนยันว่าประชาธิปไตยก็ต้องเป็นประชาธิปไตย มันก็เป็นไปตามโรดแมปอยู่แล้ว แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยที่ดูแลคนทั้งหมด ไม่ใช่ดูแลเฉพาะกลุ่มที่มาดูแล ท่านก็รู้อยู่ อย่าให้คนแบบนั้นกลับเข้ามาอีก ผมไม่พูดว่าใคร คนดีก็เยอะ ส่วนคนที่บอกว่าจะดูแลบ้านท่านอย่างเดียว คนนั้นมันใช้ไม่ได้ ต้องดูแลบ้านใกล้เรือนเคียงด้วย จึงจะเป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้อง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ทั้งนี้ ช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้จะมีใครประท้วงตนหรือไม่ ถ้าจะมาประท้วงก็มา ตนจะได้อธิบายให้เข้าใจเพราะตนทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว และตนก็เป็นลูกอีสาน เพราะเกิดที่โคราช ไม่ทำร้ายคนอีสานอยู่แล้ว มีแต่จะทำอย่างไรให้ดีขึ้นและคนประเทศด้วย