xs
xsm
sm
md
lg

งัด “กระดูก” ล่อ ปลุกลิ่วล้อพิทักษ์ “นายหญิง”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง


ป้อมพระสุเมรุ

                                                   

“นารีพิฆาต” อาละวาดต่อเนื่อง ตามคิวจนตรอกทางรอดคือ ต้องสู้หมดหน้าตัก สำหรับ “หนูปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่นาทีนี้ดิ้นรน ไม่ยอมตายง่ายๆ หลังออกมาเปิดหน้าสวนหมัดกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ในลักษณะฮึกเหิมเป็นหมูไม่กลัวปังตอในโรงเชือด

โดยเฉพาะคดีโครงการรับจำนำข้าว ไม่ว่าจะเป็นคดีอาญาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือคดีแพ่งในส่วนของการออกคำสั่งทางปกครองเพื่อยึดทรัพย์ชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นในโครงการหลายแสนล้านบาท ที่งวดเข้ามาทุกขณะ

“หนูปู” ออกมาแลกหมัดต่อหมัด พลางโหมกระแสไม่ได้รับความเป็นธรรมกันรายวัน รายสัปดาห์ เพราะไม่อยากปิดฉาก เป็นผู้แพ้ในสงครามเที่ยวนี้ ดิ้นสุดชีวิต ตะเกียกตะกายให้ห่างสถานะ “น.ญ.ยิ่งลักษณ์” หรือ “บุคคลล้มละลาย” ที่เป็นบั้นปลายสุดท้ายของคดีโครงการรับจำนำข้าวที่เห็นอยู่รอมร่อ
 
“เนติบริกร” วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะซือแป๋ประจำทำเนียบรัฐบาล หรือแม้แต่ “บิ๊กตู่” ถูก “หนูปู” โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงถึงโดยตรง ไม่มีเหนียมอาย เปิดหน้าให้เห็นว่า“ฉันก็สู้คนนะ ฉันก็สู้คน”

ขณะที่ช่วงนี้มีปรากฏการณ์แปลกๆ “พรรคเพื่อไทย” ก็ตีปี๊บเรื่องนี้กันเสียเป็นส่วนใหญ่ เกิดปรากฏการณ์เรียงหน้าออกมาพิทักษ์ “นายหญิง” กันอึกทึกครึกโครม จนเหมือนจะกลายเป็น “วาระแห่งชาติ” อย่างไรอย่างนั้น ทั้งที่ความเป็นจริงมีไม่กี่คนที่ออกมาพูดเรื่องข้าวรู้เรื่อง

ที่ผ่านมา ไม่ “ทนายหน้าหอ” นรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้มอบอำนาจจาก “หนูปู” ก็เป็น “โต้งไวท์ไล” กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง “เสี่ยนิวัฒน์” นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ “บุญทรง เตริยาภิรมย์” อดีตรมว.พาณิชย์ เรื่อยไปถึง “คู่กัดปลาบู่” ยรรยง พวงราช อดีต รมช.พาณิชย์ 

จะเน้นเอาเฉพาะพวกที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวสมัยเป็นรัฐบาลมาแก้ตัวแก้ต่างกันในที!

แต่ระยะหลังๆ ตาสี ตาสา ตาอิน ตานา ในพรรค พร้อมใจกันออกมาทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์ “นายหญิง” ทั้งที่อธิบายแบบรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง หรือบางคนมีสคริปต์ให้พูดตามที่ทีมงานร่างไว้ให้ เพียงแต่พรรคต้องการเปลี่ยนหน้า ไม่ให้การออกมาตอบโต้จำเจ น่าเบื่อ มีแต่คนหน้าเดิมๆ ที่เครดิตเริ่มเสื่อมไปแล้ว

นาทีนี้ทุกคนในพรรคเพื่อไทยพูดเรื่องข้าวได้หมด ขอแค่ให้ใจกล้าออกมาท้าชน ไม่ผวากับกระบองอาญาสิทธิ์ ที่คสช.ถืออยู่ และพร้อมจะถูกชวนไปรับประทานข้าว ชา กาแฟ ในค่ายทหาร

เลยได้เห็นหน้าแปลกๆ ออกมา แว้ดๆ เสียงดังเจี้ยวจ๊าว เถียงเรื่องข้าวกับ คสช. และรัฐบาลทุกวัน ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ส่วนตัวและของพรรค พูดเรื่องข้าวเรื่องเดียวกันทั้งหมด อย่างล่าสุดก็ในราย “เสี่ยไก่” วัฒนา เมืองสุข อดีตมือประสานสิบทิศของพรรค ลูกศิษย์ “อ.วิษณุ” ในรั้วมหาวิทยาลัย ที่กล้าออกมาล้างครู

ตามสัญญาณที่หลุดรอดออกมา งานนี้ที่ลิ่วล้อในพรรคใจกล้า เพราะได้ยาดีจาก “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ “นายหญิง” อัดแคมเปญ “ใครสู้มีรางวัล” ได้รับการปูนบำเหน็จอย่างงามแน่ หากพรรคเพื่อไทยชนะ และได้กลับมามีอำนาจ มุกถนัดมุกเดิมในการเลี้ยงคนของ “นายใหญ่” ที่ใช้มาแต่ไหนแต่ไร
 
หลายคนเลยได้ออกมาโชว์ลวดลาย ปีนเกลียวใส่ “บิ๊กตู่” แบบไม่กลัวถูกเขกกะโหลก !

แต่ก็เหมือนรัฐบาล คสช.จะทันเหลี่ยมนี้ รีบสั่งให้ "วิษณุ" ออกมานั่งแถลงอธิบายก่อนกำหนด ชิงดักคอ ร่ายยาวไปร่วมเกือบสองชั่วโมง แย่งซีน แย่งพื้นที่สื่อไปได้ ทำเอากระแสของอีกฝั่งบางๆ ไปได้ไม่น้อย แม้ภายหลัง "หนูปู" จะรีบกระแทกเฟซบุ๊กกระซวกใส่ "เนติบริกร" แบบทันควัน แต่ก็ได้แค่ติดปลายข่าว ไม่หวือหวา

โดยรวมแล้ววิธีให้ลิ่วล้อเรียงเบอร์ออกมาสาวหมัดถี่ เน้นปริมาณมันก็เลยยังไม่เข้าเนื้อเข้าหนังคสช.เท่าไร

ว่ากันว่า พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนแผนไปพลิกแผ่นดินหามือกฎหมายชั้นเซียนที่พอจะต่อกรกับ “วิษณุ” มือกฎหมายชั้นอ๋องของรัฐบาล คสช. เพื่อมาหักล้างในประเด็นโครงการรับจำนำข้าว หลังทีมงานในพรรคชื่อชั้นไม่ถึง บางคนหมดเครดิตไปนานแล้ว ทีมทนายก๊วน “พิชิต ชื่นบาน” อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ แทบไม่ต้องพูดถึง สถิติติดบัญชีดำตกภาษาไทยสะกดคำว่า “ชนะ” ไม่เป็น

ขณะที่นักกฎหมายผู้หลักผู้ใหญ่ภายในพรรค แม้อดีตที่ผ่านมาจะมีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็น “ชูศักดิ์ ศิรินิล” หรือ “โภคิน พลกุล” แต่ปัจจุบันพอผันตัวมาเป็นนักการเมือง ความคิดความเห็นถูกมองว่า เอียงกระเร่ไปหมดแล้ว

เรียกว่า อยู่ในภาวะขาดแคลนก็ไม่เกินความจริงนัก เพราะทรัพยากรบุคคลด้านกฎหมายภายในพรรคเพื่อไทย เป็นปัญหามาตลอดในช่วงหลังๆ เถียงฝั่งตรงข้ามไม่เคยขึ้น หนักไปทาง “ศรีธนญชัย” เสียเป็นส่วนใหญ่ หรือไม่ก็เป็นประเภท “สาระช่างมัน เอามันไว้ก่อน”

มีรายงานเหมือนกันว่า ควานหากันไม่ได้ ล่าสุดต้องไปขุดเอานักวิชาการที่ระหกระเหินอยู่ต่างแดนอย่าง “วีรพัฒน์ ปริยวงศ์” นักกฎหมายอิสระที่หนีคำสั่ง คสช.ไปอยู่อังกฤษตั้งแต่รัฐประหารใหม่ๆ กลับมาปัดฝุ่น ให้แสดงความเห็นเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว โดยเป็นในแง่มุมของข้อกฎหมายล้วนๆ

หวังอาศัยตำแหน่งลอยๆ ของ “วีรพัฒน์” ที่วันนี้ได้รับการแต่งตั้งโก้ๆ ให้เป็น “นักวิชาการอาคันตุกะ ณ มหาวิทยาลัย ลอนดอน (SOAS)” มาสร้างน้ำหนักในการถกเถียง ทั้งที่ความเป็นจริงสถานะของ “วีรพัฒน์” วันนี้ในแวดวงกฎหมายไร้น้ำหนักหมดเครดิต เพราะก่อนจะหนี เลือกข้าง ให้ความเห็นสนับสนุนพรรคเพื่อไทยทุกกระเบียดนิ้ว จนถูกขนานนามว่า เป็น “นักวิชาการเสื้อแดง”
 
ดูท่าแล้วก็คงจะหวือหวาไปสักพัก ในการหักล้างในมิติใหม่ๆ ของพรรคเพื่อไทย แต่สุดท้ายคง “ชกลม” เหมือนเดิม เพราะชื่อชั้นวัดกันปอนด์ต่อปอนด์ระหว่าง “วิษณุ” และ “วีรพัฒน์”ภาษามวยเรียกกระดูกคนละเบอร์

คงต้องรอดูว่า ต่อจากนี้ พรรคเพื่อไทย จะไปหาพวกซือแป๋กฎหมายคนไหนมาช่วยกู้สถานการณ์ในเรื่องของข้อกฎหมายที่หมายมั่นปั้นมือจะให้ไปควบคู่กับเกมมวลชนที่กำลังพยายามปั่นกระแสกันอยู่ขณะนี้ เพื่อให้การต่อสู้ดูมีน้ำหนัก ไม่ใช่เป็นมิติ “ดรามา” อย่างเดียว

ที่ผ่านมาอาจมีการมองกันว่า “หนูปู” ทั้งสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี และการกลับมาเป็นปุถุชนธรรมดา ไม่น่าจะดุดันเข้มขรึมอะไร ท่องตามใบสั่ง แต่ว่ากันว่า ตั้งแต่คดีโครงการรับจำนำข้าวจ่อคอหอยเข้ามา บางเรื่อง “หนูปู” ก็เป็นคนแอกชั่นออกมาสู้เอง เพราะเรื่องคุกเรื่องตะรางมันไม่เข้าใครออกใคร ไม่มีใครที่ไหนอยากเข้าไปกินข้าวแดง ในห้องสี่เหลี่ยมมีลูกกรง

แต่จะปากกล้าขาสั่นกันแบบนี้จนวินาทีสุดท้ายหรือไม่ ยังเป็นอะไรที่น่าสนใจ เพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่า “หนูปู” ไม่ใช่ “อองซาน ซูจี” ที่จะยืนหยัดสู้แม้จะถูกกักบริเวณเพื่อรักษาจุดยืน
 
เพียงแต่ช่วงนี้ยังพอมีความหวังว่า อาจจะพลิกเกมกลับมาชนะได้ ซึ่งที่สุดแล้วถ้าจวนตัว ก็เผ่นแน่บจับเครื่องบินออกทาง จ.เชียงราย ที่มีการเล็งเป็นทางหนีทีไล่ไว้แล้ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น