เกาะกระแส
00 ผ่านไปแล้ววำหรับวันใส่เสื้อแดงให้กำลังใจ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ผลก็เห็นๆกันอยู่ว่าเป็นอย่างไร ก็อย่างที่เห็นออกมาประเภทใส่กันเองให้กำลังใจกันเอง เล่นกันเฉพาะวงใน ส่วนพวกวงนอกเงียบกริบ ไม่ยอมโผล่ ภาพที่เห็นก็มีแต่ ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ และ"ลูกโอ๊ค"ที่พร้อมใจกันใส่ออกมาให้เห็น รวมถึงพวกที่เคยได้ดิบได้ดีเพราะคนในครอบครัวนี้ให้ ออกมาในแบบ"หรอมแหรม" ก็ว่ากันไปกับเสียงครวญที่ว่า"ปรองดองต้องใจเป็นธรรม"มันใช่อยู่แล้ว พูดอีกก็ถูกอีก อ้อหลังจากถอดเสื้อแดงไปซักแล้วก็รีบสั่งให้เด็กๆรวบรวมหลักฐาน พยานเอาไว้สู้คดีช่วยแก้ต่างให้น้องสาวตัวเองจะดีกว่า เพราะคดีอาญาโครงการรับจำนำข้าวเริ่มเดินหน้าเต็มตัวแล้ว ไม่มีทางปรองดองได้แล้ว นอกจากรอศาลชี้ชะตาเท่านั้น ซึ่งตามการคำนวณของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บอกว่าไม่น่าจะเกินปี 60 รวมไปถึงคดีอื่นๆด้วย
00 แม้ว่าเมื่อนับจากกระแสนัดใส่เสื้อแดงคราวนี้จะปลุกไม่ขึ้น หรือฝ่อไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังสรุปไม่ได้เต็มร้อย จะประมาทไม่ได้ ตราบใดที่ ทักษิณ ชินวัตร เครือข่าย และเงินของเขายังมีอยู่เต็มกระเป๋า และที่สำคัญฝ่ายอำนาจรัฐในเวลานี้คือ คสช.ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้คนพวกนี้ใช้ประโยชน์ นั่นคือ"เรื่องทุจริต พวกพ้องและใช้อำนาจข่มเหง" เรื่องแบบนี้ต้องไม่เกิดขึ้น และอย่าคิดแอบทำเป็นอันขาดเพราะคิดว่าชาวบ้านไม่รู้ หวังว่าคงได้เห็นพลังจากโลกโซเชียลฯกันมาแล้วว่ามันขนาดไหน !!
00 นี่ก็เรียกว่าเป็นการอาการดิ้นรนประเภท "ถ้ากูชั่วมึงก็เลว"อะไรประมาณนั้น กับคำพูดของ บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ที่กำลังโดนชนักคดีรับจำนำข้าวปักหลังแบบดิ้นไม่หลุดในเวลานี้โดยเฉพาะคดีอาญาจากกรณีขายข้าวแบบจีทูจีกำมะลอ ล่าสุดออกมาฟาดงวงฟาดงาว่าถ้าบอกว่าจีทูจีขายข้าวผิดก็ต้องนับเอาจีทูจีมันสำปะหลังที่มีมาตั้งแต่ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่อเนื่องมาจนถึงจีทูจีขายยางพาราในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย ก็ดีเหมือนกันเมื่อกล่าวหาตอบโต้มาก็ตรวจสอบกัน ให้กฎหมายจัดการให้เสมอหน้ากัน ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง แต่เชื่อว่าทุกอย่างมันย่อมมีคำอธิบาย ต้องเคลียร์ !!
00 ว่ากันว่ากรณีของ บุญทรง เตริยาภิรมย์ ภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ พร้อมทั้งอดีตข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ และกลุ่มเอกชนที่รวมหัวกันฮั้วกันถือว่าหนัก เสี่ยงเดินเข้าคุกสูงยิ่ง รวมไปถึงความเสี่ยงที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งตามมาอีก เรียกว่ากระชั้นเข้ามาทุกขณะ และที่ผ่านมาก็เริ่มพ่ายแพ้ตามรายทางมาเรื่อย ตั้งแต่ถูกถอดถอน ถูกตัดสิทธิ์การเมือง มาจนถึงคดี ที่ก่อนหน้านี้ รองนายกฯฝ่สยกฎหมาย วิษณุ เครืองาม แย้มว่าคำสั่งทางปกครองให้ชดใช้ค่าเสียหายมีแนวโน้มจะมาทางกลุ่มพวกนี้ก่อน
00 วกมาที่ รธน.ฉบับใหม่กันบ้าง แนวโน้มการนับคะแนนแบบ"ปันส่วน"ที่นำเสนอโดย มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยกร่างฯน่าจะถูกนำมาใช้ภายใต้ข้ออ้าง "ทุกเสียงมีความหมาย" และที่สำคัญภายใต้การนับคะแนนแบบนี้บรรดาพรรคขนาดกลางถึงเล็กจะแฮปปี้เพราะจะได้ สส.เฉลี่ยกันไป มีแต่พวกพรรคใหญ่เท่านั้นที่ไม่เอาด้วย เราจึงได้เห็นความเห็นแบบ"รวมการเฉพาะกิจ"ของ พรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ที่เห็นสอดคล้องกันอีกครั้งว่า แบบนี้ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน