รองนายกฯ เผย กก. สอบข้อเท็จจริงจำนำข้าวคลัง อาจยืดเวลาเพิ่ม เหตุพยานบางคนยังไม่ว่าง ผลสอบของ กก.พณ. ยังไม่ส่งถึงมือนายกฯ ย้ำ ไม่เร่งปัดแกล้ง แต่เอ้อระเเหยไม่ได้ รับกระบวนการยาวกว่าที่ผ่านมา ชี้ จีทูจีต้องดำเนินคดีเอกชนหลายราย แต่ฟ้องก่อน จนท. รัฐ เพราะอายุความหมด ก.พ. 59 ย้อนสื่อคนทำผิดไม่ใช่อาชญากรอย่าตอกย้ำทุกวัน
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการขยายเวลาสอบพยานเพิ่มเติมของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและกำหนดค่าความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว กระทรวงการคลัง ที่จะครบกำหนดวันที่ 30 ต.ค. ว่า คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯสามารถขอขยายเวลาได้อีกหากยังไม่เสร็จ ให้ตนเดาเชื่อว่าจะขอขยายเวลาต่อไปอีก เพราะก่อนนี้เดิมจะครบในวันที่ 30 ก.ย. แต่ผู้ถูกกล่าวหาขอระบุพยานจึงขยายให้เป็น 30 ต.ค. ขณะนี้ตนทราบว่าพยานเหล่านั้นได้มาแล้วบางคน แต่บางคนยังไม่ว่าง แจ้งมาว่าจะมาชี้แจงในเดือน พ.ย. จึงเห็นว่า น่าจะขยายเวลาต่อไปอีกเพื่อรอพยานเหล่านั้น ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทราบว่า ยังไม่มา ทั้งนี้ การขอขยายเวลาต้องขอกับ รมว.คลัง และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เนื่องจากทั้ง 2 คน เป็นคนลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ
นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับผลสอบของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯกระทรวงพาณิชย์ ที่ส่งมาก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้ส่งไปให้นายกฯ เนื่องจากได้มีการสอบถามความชัดเจนกลับไปยังกระทรวงพาณิชย์อีกครั้ง และขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งกลับมาแล้วในวันเดียวกันนี้ (29 ต.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังดูอยู่ แต่ตนยังไม่ได้ดูว่าคำนวณอย่างไร อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลังจะไม่รอส่งให้นายกฯพร้อมกัน และขอยืนยันว่า ไม่ได้เร่งรัดหรือกลั่นแกล้ง ซึ่งทั้งหมดที่ต้องเร่งทำอยู่เพราะมีเหตุผล 3 - 4 ข้อ คือ 1. กำหนดระยะเวลามีอายุความ 2 ปี จะต้องเร่งรัดเอ้อระเหยลอยชายไม่ได้ 2. กระบวนการที่สอบมาถึงวันนี้ยังมีเรื่องต้องทำอีกเยอะกว่าที่ผ่านมา ดังนั้น ต้องให้จบในกระบวนการสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วเพื่อให้ไปสู่กระบวนการของกระทรวงการคลังในการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง คือ ต้องมีการสอบอีกชั้น บวกการออกคำสั่งทางปกครอง ซึ่งกระบวนการยาวกว่าที่ผ่านมา 3. ในกระบวนการที่เหมือนจะเร่งรัดนั้นไม่มีการกลั่นแกล้ง เพียงแต่ต้องเดินอย่างนั้น ขณะเดียวกัน ได้กำชับในเรื่องให้ความเป็นธรรม ถึงได้มีการขยายเวลาเพื่อรับฟังพยาน และ 4. กรณีของกระทรวงพาณิชย์มีเหตุที่จะต้องฟ้องหรือดำเนินคดีกับเอกชน
รองนายกฯ กล่าวว่า กรณีของอดีตนายกฯไม่มีเรื่องที่จะดำเนินคดีกับเอกชน แต่กรณีขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ต้องดำเนินการคดีกับเอกชนหลายราย ซึ่งอายุความที่ต้องดำเนินการกับเอกชนนั้นสั้นกว่า คือ สั้นไปอีก 1 ปี ไม่เหมือนเจ้าหน้าที่รัฐ และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งสิ้น เพราะต้องรอฟังเจ้าหน้าที่ของรัฐที่รับผิดเสียก่อน จำเป็นต้องรู้ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐใครรับผิดเท่าไรแล้ว จึงไปคิดการรับผิดของเอกชน จึงต้องพยายามทำเรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐให้เสร็จโดยเร็วในขั้นตอนการสอบข้อเท็จจริง ดังนั้น จุดเริ่มต้นเดินมาเหมือนกัน กระทั่งมาถึงจุดหนึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐจะเลี้ยวซ้ายไปเข้ากระบวนการอีกยาว ส่วนเอกชนจะจบลงตรงนี้สามารถดำเนินการได้ แต่การดำเนินการต้องใน 1 ปี ไม่อย่างนั้นจะขาดอายุความ ซึ่งทั้งหมดคือ เหตุผลว่าทำไมต้องเร็ว โดยเอกชนต้องแล้วเสร็จในเดือนก.พ. 59 นี่คือ ปัญหา
เมื่อถามว่า กรณีตัวเลขค่าความเสียหายต้องดูจากค่าเช่าโกดังการเก็บรักษาที่เพิ่มมากขึ้นด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ในขณะนี้มันจบลงโดยไม่ได้บวกอนาคต ด้วยเหตุว่าต้องตัดลงตรงที่ใดที่หนึ่ง แต่พอถึงเวลาที่จะออกคำสั่งทางปกครองหรือฟ้อง ซึ่งแล้วแต่ว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากเอกชนจะต้องใช้วิธีฟ้อง เพราะใช้คำสั่งทางปกครองไม่ได้ เมื่อถึงเวลานั้นมันง่าย เพราะเรารู้สูตรแล้ว โดยคูณระยะเวลาเข้าไปจนถึงวันที่ออกคำสั่งทางปกครอง เมื่อถามย้ำว่า ก่อนหน้านี้ เคยระบุว่า จะเรียกค่าเสียหายได้ก่อนสิ้นปี 58 แต่เมื่อมีการสอบพยานเพิ่ม แสดงว่า การดำเนินการจะไม่ทันสิ้นปี 58 แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า บางรายมันได้ ย้ำอีกทีเรื่องนี้มันไม่ใช่เป็นการฟ้อง แต่เป็นการออกคำสั่งทางปกครอง สื่อถามพอแล้ว เพราะถ้าตนพูดไปทุกวัน มันไม่ดี คนทำความผิดไม่ใช่อาชญากร ไม่ควรมาตอกย้ำกันทุกวัน