“ยิ่งลักษณ์” โพสต์ภาพไม่พ้นข้าว ภูมิใจขันโตกอาหารภาคเหนือ ส่วน “ลูกโอ๊ค” ครวญ! หนักแค่ไหนเราจะผ่านมันไปด้วยกัน เพจ “โต้ง” อ้างต่อไปจะมีนายกฯ ที่ไหนยินดีปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ด้านแกนนำแดงวอน “วิษณุ” ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วน “หมอวรงค์” อัดดรามาการเมือง ย้ำรัฐอย่าเบื่อชี้แจงความจริงที่ถูกต้องเพราะจะเป็นแนวทางเอาชนะทฤษฎีบิดเบือน
วันนี้ (18 พ.ย.) มีรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กทีมงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี “Yingluck Shinawatra” ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพระบุว่า “พอดีมางานกับญาติ เดินมาเห็น “ขันโตก” เลยอดพูดถึงไม่ได้ว่าขันโตกเป็นอาหารทางภาคเหนือ เป็นเอกลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านของทางเหนือที่สืบทอดกันมานานค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำอาหารทั้งคาว หวานที่จัดปรุงรสแบบทางเหนือมาวางตกแต่งในขันโตกด้วยแล้ว ยิ่งสร้างเสน่ห์ และทำให้เกิดความรู้สึกภูมิใจค่ะ”
ด้านนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร ได้โพสต์รูปภาพที่ถ่ายคู่กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Oak Panthongtae Shinawatra” ว่า “ถูกกระทำ ถึงแม้จะหนักแค่ไหน ผู้หญิงคนนี้ก็ยังคงมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความจริงใจเสมอ แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกันครับ อาปู”
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ โพสต์รูปภาพที่ระบุข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “Kittiratt Na-Ranong (กิตติรัตน์ ณ ระนอง)” ระบุว่า “หากนายกฯ ยิ่งลักษณ์ถูกดำเนินการด้วยอำนาจของฝ่ายบริหารแบบนี้ ต่อไปจะมีนายกฯ ที่ไหนยินดีปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านกระบวนการมาแล้วอย่างถูกต้อง เพื่อดูแลประชาชนที่มีรายได้น้อย”
อีกด้าน นายชินวัฒน์ หาบุญพาด อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง โพสต์รูปภาพพร้อมระบุข้อความลงเฟซบุ๊กชื่อ “ชินวัฒน์ หาบุญพาด” ว่าวันนี้โลกทั้งโลกกำลังหวั่นวิตกกับผู้ก่อการร้ายไอซิสทั้งในยุโรปและอเมริกาต้องผนึกกำลังกันเพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย สถานการณ์อย่างนี้ไม่มีอะไรดีเท่าความสามัคคีกัน ถ้าแตกแยกเมื่อใดความวิบัติจะเกิดขึ้นในทันที หลายประเทศเขากำลังร่วมมือร่วมใจแม้จะต่างเผ่าพันธุ์กัน แต่ประเทศไทยยังไล่ล่ากันเองอยู่ นักกฎหมาย (เนติบริกร) อย่างนายวิษณุ เครืองาม ยังพยายามหาช่องทาง หาช่องโหว่ของกฎหมาย มาจัดการ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายวิษณุทำตัวเป็นผู้รู้กฎหมายเพียงคนเดียวในโลกนี้ แม้จะมีนักกฎหมายคนอื่นออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างอื่นก็ไม่ฟัง ยังออกมาให้ข่าวรายวันว่าจะต้องเอาผิดให้ได้ แม้ศาลจะยังไม่ชี้ขาดก็ตาม คล้ายๆ ว่าจะต้องเอาผิดล่วงหน้า ถ้ารอศาลคงไม่ทันใจ นายวิษณุเคยอยู่กับรัฐบาลมาเกือบทุกรัฐบาล และนักการเมืองหรือรัฐบาลก่อนๆก็ใช่ว่าจะไม่มีการดำเนินการผิดพลาด มีหลายเรื่องที่รัฐบาลที่ผ่านมาดำเนินการผิดพลาด และหลายเรื่องที่ส่อไปในทางทุจริตทำให้เกิดการเสียหาย บางเรื่องหมดอายุความเพราะช่วยกัน บางเรื่องยังมีคดีความอยู่ แต่นายวิษณุ ไม่เคยคิดจะทำ
“ที่ผมติงวันนี้ก็เพราะอยากเห็นความรักความสามัคคีของคนในชาติ คุณวิษณุครับปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมว่ากันไปตามความเป็นธรรมเถอะครับ ท่านอย่ากระเหี้ยนกระหือรือจนเสียหลักการเลยครับ วันนี้แม้ประเทศไทยจะอยู่ห่างไกลกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิส หากภัยมาถึงเรา เราต้องสามัคคีกัน รักกันไวัก่อน ท่านอย่าทำให้ไทยแตกก่อนกลุ่มไอซิสเลยครับ” นายชินวัฒน์ระบุ
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวในคดีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวว่า เป็นไปตามคาด หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาบิดเบือนสังคม แม้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะแถลงชี้ให้เห็นถึงแนวทางการต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมโดยอาศัยศาลปกครองเป็นที่พึ่ง ตามเจตนาที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยต้องการ แต่ก็ยังดาหน้าออกมาใช้ทฤษฎีจัดปลูกฝังชุดความคิด โดยตีซ้ำๆ เพื่อเปลี่ยนความคิดของผู้คน ล่าสุดนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ก็ออกมาบิดเบือน โดยชี้ให้เห็นตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มีคู่กรณีสามฝ่ายคือ เจ้าหน้าที่ของรัฐทำความเสียหายให้กับบุคคลภายนอก หน่วยงานของรัฐชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลภายนอก และรัฐใช้คำสั่งทางปกครองเรียกให้เจ้าหน้าที่ของรัฐชดใช้เงินที่เสียหายคืน หากปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำไปโดยจงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงตามมาตรา 8 ของกฎหมายดังกล่าว แต่กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ถูกดำเนินคดีจากการกำกับนโยบาย แค่ประเด็นสำคัญที่นายวัฒนายกตัวอย่าง ก็รับรู้แล้วว่านายวัฒนาอ่านกฎหมายไม่ครบทุกมาตราแล้วนำมาบิดเบือนสังคมซ้ำๆ เพื่อให้รู้สึกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้รับความเป็นธรรม
กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น ตามภาษาชาวบ้านเข้าใจง่ายๆ คือ เป็นกรณีเจ้าหน้าที่ทำให้รัฐเสียหาย และเป็นการปฏิบัติหน้าที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงถูกดำเนินคดีตามมาตรา 10 และนำมาตรา 8 มาบังคับโดยอนุโลม ขนาดข้อเท็จจริงในตัวบทกฎหมายที่ตรวจสอบได้ เขายังกล้าบิดเบือน แม้รัฐบาลจะยอมตามข้อเรียกร้อง แต่เขาก็จะหาข้อเรียกร้องใหม่ๆ เพื่อให้สังคมเข้าใจว่าตนเองถูกกลั่นแกล้งไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้น รัฐบาลอย่าเบื่อที่จะชี้แจงความจริงที่ถูกต้อง เพราะจะเป็นแนวทางเอาชนะทฤษฎีของเขา แต่ถ้ารัฐบาลนี้อาจชะล่าใจ เขาจะเปลี่ยนความรู้สึกชาวบ้านต่อรัฐบาล จากโจทก์อาจตกเป็นจำเลยด้วยทฤษฎีนี้ได้ทันที ที่สำคัญรัฐบาลต้องย้ำว่าความเสียหายครั้งนี้เกิดจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปล่อยให้มีการโกงโดยคนใกล้ชิด ซึ่งสังคมไทยเข้าใจเรื่องนี้ได้