“หมอวรงค์” ฉะ “วัฒนา” ตัดตอน ตีความกฎหมายเข้าข้างตัวเอง ตามแผนใช้ทฤษฎีปลูกฝังชุดความคิดซ้ำเพื่อให้สังคมเข้าใจว่ารัฐบาลกลั่นแกล้ง “ยิ่งลักษณ์” แนะรัฐบาลอย่าเบื่อชี้แจงโครงการทุจริตจำนำข้าว ไม่เช่นนั้นจากโจทก์จะกลายเป็นจำเลย ด้าน “วัชระ” เบรก “โอ๊ค” เลิกดรามาปั่นหัวประชาชนให้สงสาร “ปู” บี้ดีเอสไอจัดการฐานฟอกเงินคดีแบงก์กรุงไทย
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคดีจำนำข้าวว่า เป็นไปตามคาดหลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาบิดเบือนสังคม แม้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายจะแถลงชี้ให้เห็นถึงแนวทางการต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมโดยอาศัยศาลปกครองเป็นที่พึ่ง ตามเจตนาที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยต้องการ แต่ก็ยังดาหน้าออกมาใช้ทฤษฎีจัดปลูกฝังชุดความคิดตีซ้ำๆ เพื่อเปลี่ยน ล่าสุดนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ ก็ออกมาบิดเบือน โดยชี้ให้เห็นตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ มีคู่กรณีสามฝ่ายคือ (1) เจ้าหน้าที่ของรัฐทำความเสียหายให้แก่บุคคลภายนอก (2) หน่วยงานของรัฐชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลภายนอก และ (3) รัฐใช้คำสั่งทางปกครองเรียกให้เจ้าหน้าที่ของรัฐชดใช้เงินที่เสียหายคืนหากปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำไปโดยจงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง (ตามมาตรา 8) แต่กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ถูกดำเนินคดีจากการกำกับนโยบาย แค่ประเด็นสำคัญที่นายวัฒนา ยกตัวอย่างก็รับรู้แล้วว่านายวัฒนาอ่านกฎหมายไม่ครบทุกมาตรา แล้วนำมาบิดเบือนสังคมซ้ำๆ เพื่อให้รู้สึกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้รับความเป็นธรรม
นพ.วรงค์กล่าวว่า กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น ตามภาษาชาวบ้านเข้าใจง่ายๆ คือ เป็นกรณีเจ้าหน้าที่ทำให้รัฐเสียหาย และเป็นการปฏิบัติหน้าที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงถูกดำเนินคดีตามมาตรา 10 และนำมาตรา 8 มาบังคับโดยอนุโลม ขนาดข้อเท็จจริงในตัวบทกฎหมายที่ตรวจสอบได้เขายังกล้าบิดเบือน แม้รัฐบาลจะยอมตามข้อเรียกร้อง แต่เขาก็จะหาข้อเรียกร้องใหม่ๆ เพื่อให้สังคมเข้าใจว่าตนเองถูกกลั่นแกล้งไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้น รัฐบาลอย่าเบื่อที่จะชี้แจงความจริงที่ถูกต้อง เพราะจะเป็นแนวทางเอาชนะทฤษฎีของเขา แต่ถ้ารัฐบาลนี้อาจชะล่าใจ เขาจะเปลี่ยนความรู้สึกชาวบ้านต่อรัฐบาล จากโจทก์อาจตกเป็นจำเลยด้วยทฤษฎีนี้ได้ทันที ที่สำคัญรัฐบาลต้องย้ำว่าความเสียหายครั้งนี้เกิดจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ปล่อยให้มีการโกงโดยคนใกล้ชิดซึ่งสังคมไทยเข้าใจเรื่องนี้ได้
ด้านนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพื่อเรียกร้องความสนใจให้ประชาชนเมตตาสงสาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าถูกกระทำ ทั้งๆ ที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นฝ่ายกระทำว่า เป็นละครดรามาฉากใหญ่ของระบอบทักษิณที่ออกมาสร้างกระแสประชาชนให้เกิดความรู้สึกสงสาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ทุกวัน ตามแผนการของฝ่ายเสนาธิการทักษิณ
“นายพานทองแท้ได้ประโยชน์จากรัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์จำนวนมหาศาล ทั้งเงินค่าปากถุงจากกลุ่มกฤษดานคร และค่าประชาสัมพันธ์จากรัฐวิสาหกิจและส่วนราชการ นายพานทองแท้จึงมีอภิสิทธิ์มากกว่าใคร ผมขอเรียกร้องให้สำนักอัยการสูงสุดให้ความยุติธรรมอย่างเต็มที่ต่อการดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้องในการทุจริตโครงการจำนำข้าว อย่าให้ใครมากล่าวหาได้ว่าสองมาตรฐาน และขอเรียกร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งรัดการดำเนินคดีฟอกเงินกับนายพานทองแท้ กรณีรับเงินค่าปากถุงจากการที่รัฐบาลทักษิณ สั่งให้ธนาคารกรุงไทยปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มกฤษฎานคร 9,000 ล้านบาท ซึ่งนายพานทองแท้กับพวกก็ได้เงินค่าปากถุงหลายสิบล้าน แบบนี้เรียกว่าคอร์รัปชันหรือไม่ นายพานทองแท้ควรตอบคำถามนี้กับสังคมว่าได้เท่าไหร่ ชอบธรรมหรือไม่ นายวิโรจน์ นวลแข ประธานบอร์ดธนาคารกรุงไทยกับพวกติดคุกอยู่ในเวลานี้เพราะผลพวงการรับใช้ระบอบทักษิณ ขอถามว่านายพานทองแท้ไปเยี่ยมหรือยัง ดังนั้น ควรหยุดโอดโอยแสดงละคร เพราะความจริงคนเสื้อแดงติดคุก นายทักษิณ นายพานทองแท้ก็ไม่เคยไปเยี่ยมที่เรือนจำเลย ไม่ต้องพูดถึงว่าส่งเงินไปช่วยรายเดือนให้คนเสื้อแดงที่ตกระกำลำบากหรือไม่ เพราะเขาหลอกใช้เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองเท่านั้น”