รองนายกฯ เผยคดี “ฟิลลิป มอร์ริส” เรื่องอยู่ที่ อสส. รัฐบาลไม่เคยสั่งให้ถอนออก ย้ำรักษาประโยชน์ชาติ พณ.รายงานผลศาลโลกมาส่วนหนึ่ง มีคำตัดสินออกมาจะไม่สนใจก็ไม่ได้ มองข้อเสนอ “วันชัย” ห้ามญาติผู้โกงเลือกตั้งยุ่งการเมือง ยังไม่ตกผลึกอย่าเพิ่งวิจารณ์ แย้ม กรธ.ส่งสัญญาณไม่เลือกนายกฯ โดยตรง ต้องเป็นคนที่ยอมรับไม่ใช่ขี่ม้าขาวมาจากไหน
วันนี้ (11 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคดีของบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส กรณีหลบเลี่ยงภาษีบุหรี่มากกว่า 68,000 ล้านบาท เมื่อปี 2546-2550 ว่า ขณะนี้เรื่องยังอยู่ที่อัยการสูงสุด เรื่องนี้รัฐบาลไม่เคยบอกให้หยุดหรือถอนออก ไม่เคยไปสั่งอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ว่ารัฐบาลพยายามรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม ไม่มีใครได้หรือเสีย แม้แต่ฝ่ายที่ออกมาเร่งเร้าให้ดำเนินการฟ้องร้อง ตนเชื่อว่าเจตนาสุจริตทุกประการ ทางนายกฯ เพียงแต่ตั้งต้นเท่านั้น ทั้งนี้ จุดยืนมองจากเมื่อผู้กระทำถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร จะมีระบุโทษจำคุก และปรับอยู่แล้วก็นำมาใช้ ส่วนในแง่ของประเทศไทยที่เป็นสังคมรัฐประชาชาติ มันมีปัจจัยอื่นมาเป็นตัวแปร ซึ่งฝ่ายที่ยืนอยู่ในจุดนี้อาจจะไม่รู้ หรือรู้แต่ไม่สนใจ
“ทางกระทรวงพาณิชย์รายงานผลจากศาลโลกที่ตัดสินมาแล้วส่วนหนึ่ง ยังมีอย่างอื่นที่ต้องรายงาน เพราะบางอย่างต้องมีความชัดเจนจากผู้เชี่ยวชาญ เราก็ไม่ได้เชื่อทางกระทรวงพาณิชย์ทั้งหมด แต่ปัญหาคือเมื่อคดีนี้ไปพัวพันกับคดีที่ขึ้นศาลโลก แล้วมีคำตัดสินออกมา เราจะไม่สนใจ ไม่นำพามันก็ไม่ได้ ต้องนำมาประกอบกัน แล้วชั่งน้ำหนัก ต้องดูว่าสุดท้ายจะถูกตอบโต้รุนแรงขนาดไหน จะคุ้มหรือไม่ วันนี้รัฐบาลต้องดูปัญหาให้รอบด้าน เพราะคดีความมีอายุถึง 10 กว่าปี อาจเกิดการเห็นแก่พวกพ้อง ยืมมืออีกฝ่ายเพื่อแกล้งอีกฝ่าย ดังนั้นเราต้องดูเพื่อตอบคำถามให้ได้ทั้งหมด แล้วค่อยตัดสินออกมาในทันที” นายวิษณุกล่าว
นายวิษณุกล่าวถึงข้อเสนอของนายวันชัย สอนศิริ สปท.เสนอให้ กรธ.บัญญัติห้ามครอบครัวของผู้ทุจริตเลือกตั้งเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า ข้อเสนอของนายวันชัยยังไม่ตกผลึก บางเรื่องเป็นข้อเสนอจากคนอื่น บางเรื่องนายวันชัยเองเป็นคนเสนอ คนที่ไม่รู้เรื่องอาจคิดว่าเป็นเรื่องจริง ดังนั้นถ้ายังไม่ตกผลึกก็อย่าเพิ่งวิพากษ์วิจารณ์ บางเรื่องมีอะไรต้องทำต่อ ถ้าทึกทักขยายผลจะทำให้เป็นปัญหา เช่น เรื่องรัฐธรรมนูญที่พูดกัน ไม่ควรไปทึกทักขยายผล ใครรู้เรื่องอยากพูดก็พูดไป แต่ถ้าใครไม่รู้เรื่องอย่าไปพูด ทุกอย่างประชาชนจะมีความเข้าใจว่าที่พูดแปลว่าเสร็จแล้ว
เมื่อถามถึงกรณี กรธ.จะให้มีนายกฯ คนนอก นายวิษณุกล่าวว่า เป็นอีกเรื่องที่โฆษกแถลงออกมา ก็ทราบว่ามอบให้นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานอนุกรรมการศึกษาโครงสร้างฝ่ายบริหารไปศึกษาและมีข้อเสนอกลับมาว่า 1. ให้มีนายกฯ ในระบบรัฐสภา 2. ให้สภาเป็นผู้เลือก 3. จะเป็น ส.ส.หรือไม่เป็นก็ได้ 4. ต้องได้รับการยอมรับจากสภา ซึ่งการได้รับการยอมรับจากสภาเป็นเรื่องสำคัญที่เขายังไม่ได้ขยายความ ต้องรอให้ขยายความก่อน เพราะเท่าที่เสนอมาไม่มีแตกต่างจาก 2475 และสมัยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าจะมีอะไรแตกต่างจะอยู่ที่ไฮไลต์ที่เขายังไม่พูด อาจยังคิดไม่ออก ฉะนั้นข้อ 1 คือ เขาต้องการส่งสัญญาณว่าไม่มีการเลือกนายกฯ โดยตรง และนายกฯ ต้องเลือกจากสภา จะเอาคณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) มาเลือกไม่ได้ นายกฯ จะเป็นคนในหรือคนนอกก็ได้ อันนี้คือสิ่งที่ตกค้างมาตั้งแต่สมัยนายบวรศักดิ์ แม้กระนั้นก็ต้องเป็นคนที่ได้รับการยอมรับ ไม่ใช่ขี่ม้าขาวมาจากไหนแล้วมาให้สภาโหวตเลือก แสดงว่ามีอะไรอุบเอาไว้ยังไม่ได้พูด
