xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” พลังศรัทธาพุ่งปรี๊ด แต่ระวังสะดุดขาล้มคว่ำ!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
การเมือง 360 องศา

ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือมีการจงใจจากบางกลุ่มหรือไม่ แต่ทำให้เห็นว่าเวลานี้ดูเหมือนปัญหาหลายเรื่องเริ่มประดังเข้ามาพร้อมๆกันอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ละเรื่องล้วนเป็นเรื่องใหญ่และ “อ่อนไหว” ทั้งสิ้น หากไม่รีบเคลียร์กันแบบให้สังคมได้เข้าใจแบบทันท่วงทีมันก็น่าเป็นห่วงเหมือนกัน

แม้ว่าในตอนนี้หากวัดจากปฏิกิริยาจากสังคม หรือวัดจากผลสำรวจทุกสำนักต่างออกมาตรงกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยัง “ไร้เทียมทาน” นั่นคือยังได้รับความนิยมสูงลิ่ว ประเภทที่เรียกว่ายิ่งมาก็ยิ่งสูงก็แล้วกัน ซึ่งจะว่าไปแล้วในบรรดาผู้นำประเทศที่ส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดหากอยู่ในตำแหน่งยิ่งนานคสามนิยมก็จะยิ่งลดลงเรื่อยๆ แต่สำหรับเขากลับตรงกันข้าม เพราะหากนับตั้งแต่เริ่มเข้ามาในนามของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา จนถึงวันนี้ก็สองปีเศษแล้ว ในนามรัฐบาลก็ปีกว่า การรักษาความนิยมศรัทธาได้คงเส้นคงวาแบบนี้ได้ถือว่าไม่ธรรมดา ส่วนสำคัญอาจเป็นเพราะว่าเขามีบุคลิกเด็ดขาดพูดจาโผงผางตรงไปตรงมา

และที่สำคัญที่สุดไปกว่านั้นก็คือเขาประกาศ “ไม่โกง” และไม่ยอมให้ใครโกง ขณะเดียวกันก็ประกาศว่าไม่ใช้อำนาจข่มเหงรังแกใครแม้ว่าจะมีอำนาจเต็มมือก็ตาม แบบนี้ถือว่าได้ใจเต็มๆ

อย่างไรก็ดี แม้ว่าหากวัดจากความนิยมศรัทธาของสังคมที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องบอกว่าน่าชื่นใจ แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่ตัองจับตากันก็คือหากพิจารณาจากคนรอบตัว หรือมือไม้ที่คอยเป็นฐานค้ำยันเอาไว้ให้ ตรงจุดนี้ต้องบอกว่า “น่าเป็นห่วง” ความเชื่อมั่นศรัทธากำลังอยู่ภาวะที่เริ่มลดลงเรื่อยๆ

หลายเรื่องหลายกรณีอย่างที่ระบุเอาไว้ตั้งแต่ตอนต้นล้วนประดังเข้ามาในเวลานี้ และแต่ละเรื่องล้วนเป็นเรื่องอ่อนไหว อธิบายยาก แต่ขณะเดียวกันยิ่งปล่อยให้เกิดความสงสัย ก็ยิ่งมีการพูดจากันลับหลัง โดยเฉพาะในโลกโซเชียลฯที่ลุกลามไปเร็วยิ่งน่าเป็นห่วง

ดังนั้น หากพิจารณากันตามรูปการณ์ก็ต้องบอกว่าเป็นไปได้ทั้งสองทาง ทางแรกเป็นเรื่องบังเอิญที่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามปกติไปตามเส้นทาง แต่อีกทางหนึ่งเป็นเรื่องที่ “จงใจ” มีการผสมโรงเข้ามาให้ “เป็นเรื่อง” โดย “เจาะยาง” เข้ามาจากวงในเข้ามาก่อน เหมือนกับการ “โค่นเสาค้ำยัน” นั่นแหละถ้าทำสำเร็จมันก็ทำให้พังครืนลงมาได้ไม่ยาก ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากความเป็นจริงแล้ว เสาที่นำมาค้ำยันนั้นข้างในก็ไม่ได้แข็งแรง มีจุดอ่อน ที่ผ่านมาเหมือนกับการ “สร้างภาพเกินขนาด” เมื่อเกิดแรงกระทบเข้ามาจึงเริ่มเห็นอาการ

อย่างไรก็ดี นั่นเป็นเรื่องภายในที่ต้องจับตาดูกันอย่างใกล้ชิดว่าจะสามารถคลี่คลายลงไปได้ในระดับไหนและใช้เวลายืดยาวหรือไม่ หากยาวก็ยิ่งสุ่มเสี่ยง

แต่ขณะเดียวกันยังมีเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังแก้ไม่ตก แม้ว่าจะพอเห็นแนวโน้มในทางบวกเข้ามาบ้างแล้วก็ตาม นั่นคือเรื่องปัญหาปากท้อง หรือเรื่องเศรษฐกิจ ที่บอกตรงๆ ว่ายังน่าเป็นห่วง ยิ่งในอนาคตอันไกล้นี้กำลังเจอกับปัญหาภัยแล้งแบบแสนสาหัสที่รออยู่ ปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ยังตกต่ำ เช่น ข้าว ยางพารา ยังราคาไม่ฟื้น ขณะที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคกลับสวนทางทุกอย่างแพงขึ้นทุกรายการ เรื่องแบบนี้แหละที่น่าห่วงกว่า

อีกทั้งเมื่อฟังจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เปิดเผยออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า กำลังมีการเคลื่อนไหวของบางกลุ่มยุยงชาวนาให้ปลูกข้าวกันต่อไปโดยบอกว่า “อีกไม่นานพวกเขาจะไปแล้ว” เมื่อมีการเลือกตั้งราคาข้าวก็จะกลับมาดีอีกครั้ง อะไรประมาณนี้ ซึ่งความหมายก็คือยุให้ป่วน เพราะการปลูกข้าวย่อมต้องใช้น้ำ แต่ก็รู้กันอยู่ว่าปีนี้น้ำน้อยทำให้อาจมีปัญหา “แย่งน้ำ” ตามมาและที่น่าสนใจก็คือเป็นการบีบให้รัฐจ่ายค่าชดเชยความเสียหาย ซึ่งมีโอกาสวุ่นวายทั้งนั้น

ประกอบกับในช่วงเวลาสำคัญที่หลายคดีโดยเฉพาะคดีจากโครงการรับจำนำข้าวกำลังเดินหน้าตามกระบวนการทั้งคดีอาญาที่จะเริ่มไต่สวนกันแล้ว และคนที่อ่วมในตอนนี้ก็คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะเพิ่งมีคำแถลงจากโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ว่าภายในเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีการดำเนินคดีทางแพ่งในโครงการดังกล่าว ยังไม่นับคดีอื่นๆ เช่น คดีเงินกู้ธนาคารกรุงไทยที่ล้วนเกี่ยวข้องกับคนในครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร อีกด้วย หรือแม้กระทั่งการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีแนวโน้มชัดเจนจะตัดสิทธิคนที่เคยถูกตัดสิทธิการเมือง เคยต้องคดีทุจริตอาจถูกห้ามลงสนามตลอดชีวิต

ทุกรายการดังกล่าวมันมีโอกาสทำให้ป่วนได้ทุกเวลา โดยเฉพาะหากมีการปลุกระดมชาวนาในเรื่องราคาข้าว ราคาสินค้าเกษตรที่ยังตกต่ำ ที่สำคัญในช่วงหน้าแล้งตามปกติในทุกรัฐบาลที่ผ่านมานี่คือ “ฤดูม็อบ” ดังนั้นต้องประกบทุกฝีก้าว แต่ปัญหาก็คือเวลานี้เริ่มมีปัญหาเกิดคำถามตามมามากขึ้นกับคนรอบตัวซึ่งเสี่ยงต่อการฉุดความศรัทธาให้ลดลง

แม้ว่าหากวัดกันเฉพาะตัวก็ต้องยอมรับว่าความศรัทธาต่อตัวผู้นำคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังสูงอยู่ แต่เมื่อมีร่องรอยบางอย่างให้เห็นถึงความน่าสงสัยก็ต้องรีบเคลียร์โดยเร็วที่สุด เพราะโอกาสที่จะสะดุดขาตัวเองล้มคว่ำได้เหมือนกัน!
กำลังโหลดความคิดเห็น