มือปราบโกงจำนำข้าวมองรัฐบาลเดินถูกทางให้ “วิษณุ-ไก่อู” แจง ม.44 คดีจำนำข้าว ทำให้สังคมเข้าใจ แนะ รมว.พณ.ร่วมด้วย เตือนรู้ทันการเมืองที่จ้องบิดเบือน ควรแจงแบบเปิดใจ ให้ชนะทั้งข้อกฎหมาย-การเมือง สวนเด็ก พท.มามุกเดิมบิดเบือนจนคิดว่าเป็นเรื่องจริง ย้อนเตือนแล้วไม่ฟังจนเกิดความเสียหายต้องรับผิดชอบ ช่วยชาวนาไม่ว่าแต่โกงเขาไม่ยอม
วันนี้ (4 พ.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงรายละเอียดการใช้มาตรา 44 ในคดีรับจำนำข้าวนั้น ตนคิดว่ารัฐบาลเดินถูกทางและสนับสนุนแนวคิดนี้อย่างเต็มที่ เพราะถ้าไม่ชี้แจงจะถูกคนของพรรคเพื่อไทยออกมาบิดเบือนทำให้สังคมเข้าใจผิดได้
นพ.วรงค์กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะมีเจตนาต่อการคุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวกับการบริหารจัดการข้าว และการเรียกค่าเสียหายในคดีดังกล่าว ตนเชื่อมือนายวิษณุในการชี้แจงข้อกฎหมายต่างๆ ว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่การบริหารจัดการข้าวยังมีสิ่งที่ประชาชนต้องการรายละเอียด
“ทางที่ดีควรเชิญรัฐมนตรีพาณิชย์ออกมาแถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวเรื่องข้าวทั้งหมด ทั้งปริมาณ คุณภาพข้าวที่เหลือ ปัญหาอุปสรรคต่างๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นชนิดเปิดหน้าตักอธิบาย เพราะรัฐบาลต้องรู้เท่าทันเกมการเมืองต่างๆ ที่ผู้ไม่หวังดี พร้อมจะบิดเบือนไปขยายทำลายรัฐบาล และการป้องกันที่ดีที่สุด อธิบายประชาชนแบบเปิดใจ ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส เชิญสื่อมวลชนเข้าไปร่วมรับทราบ ผมรับรองเลยว่าสิ่งเรานี้จะช่วยปกป้องรัฐบาล และจะทำให้รัฐบาลชนะทั้งข้อกฎหมายและการเมือง” นพ.วรงค์กล่าว
นพ.วรงค์กล่าวว่า วันนี้ก็เป็นคิวของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่ออกมาแก้ตัวให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในโครงการจำนำข้าว เนื้อหาสาระก็วนเวียนเหมือนเดิมโดยเน้นไปที่ถูกกลั่นแกล้ง และบิดเบือนข้อเท็จจริง เป็นไปตามยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยที่เคยใช้ในอดีต นั่นคือสร้างข้อมูลใหม่ บิดเบือนและพูดซ้ำๆ จนรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ และสุดท้ายแม้แต่ตัวเองก็ยังคิดว่าเรื่องที่ตนเองพูดเป็นเรื่องจริง
นพ.วรงค์กล่าวว่า ตนขอแจงสิ่งที่นายก่อแก้วพูดสั้นๆ ดังนี้ 1. กล่าวว่าโครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการช่วยเหลือชาวนา เหมือนโครงการอื่นๆ และอ้างว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้เอาเงินเข้ากระเป๋าตนเอง ทำไมต้องมารับผิดชดใช้ค่าเสียหาย สิ่งที่นายก่อแก้วควรรับรู้ คือ การช่วยเหลือคนจนนั้นทุกรัฐบาลทำได้ไม่มีใครว่า แต่เขาไม่อนุญาตให้โกง ที่สำคัญเขาเตือนกันแล้วก็ไม่ฟัง กลับไม่สนใจปล่อยให้คนโกงได้ใจ แม้ไม่ได้นำเงินเข้ากระเป๋า แต่การสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงก็ต้องรับผิดชอบตาม พ.ร.บ.รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ
นพ.วรงค์กล่าวว่า 2. พยายามให้ไปฟ้องศาลแพ่ง เรื่องนี้ก็ซ้ำซาก แนะนำให้นายก่อแก้วไปอ่าน พ.ร.บ.รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ จะได้เข้าใจ 3. พยายามถามว่าตัวเลขความเสียหายคำนวณอย่างไร และพยายามอ้างว่ามีข้าวบางส่วนมาจากรัฐบาลก่อนหน้า ทำให้มีการเอาความเสียหายมารวมกับสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์นั้น ตนขอแนะนำให้ไปอ่านรายงานของคณะกรรมการปิดบัญชี โดยหลักการจะมีการปิดบัญชีเป็นระยะ และคณะกรรมการก็จะแยกให้เห็นด้วยว่า การรับจำนำข้าวในแต่ละปี แต่ละรัฐบาล มีค่าใช้จ่ายหรือสูญเสียเท่าไหร่ เขาไม่ได้เอาข้าวแต่ละรัฐบาลมารวมกัน มั่วตัวเลขตามที่เข้าใจ ดังนั้น การอ้างถึงตัวเลขความเสียหายต้องมีฐานมาจากรายงานของกรรมการชุดนี้ มีแต่รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ที่ไม่เชื่อรายงานของกรรมการที่ตนเองแต่งตั้ง 4. การใช้อำนาจตามมาตรา 44 คุ้มครองเจ้าหน้าที่ ตนทราบข่าวว่ารัฐบาลจะแถลง จึงแนะนำให้นายวิษณุ และทีมงานข้าวของกระทรวงพาณิชย์มาร่วมชี้แจงแบบเปิดอกพูดไปเลย อย่าปล่อยให้คนมาใส่ร้ายบิดเบือน
นพ.วรงค์กล่าวว่า ส่วนเรื่องข้าวเน่า ข้าวเสื่อม นายก่อแก้วพยายามสื่อว่าสภาพจริงอาจไม่เป็นตามนั้น ตนไม่รู้ว่าตอนเขาตรวจโกดังข้าว ข่าวดังทั้งประเทศมัวไปอยู่ที่ไหน คิดว่าสิ่งที่นายก่อแก้วต้องตอบสังคม คือ โครงการจำนำข้าวโกงหรือไม่ รวมทั้งปล่อยปละละเลยให้คนโกงหรือไม่ การช่วยชาวนาไม่มีใครว่า แต่โกงนั้นเขาไม่ยอม ทำผิดรู้จักยอมรับบ้าง