“จอมแฉจำนำข้าว” เย้ยแก๊งเพื่อไทย ขยันโต้จำนำข้าวแต่ไร้ข้อเท็จจริง หยันอดีต ส.ว.ตาก รู้ไม่จริง แต่ใช้วาทกรรม 2 มาตรฐาน ถามประกันรายได้ทุจริตตอนไหน แถมสมัยเป็นรัฐบาลก็ไม่เห็นฝ่ายค้านจะอภิปรายว่าใครโกง ไล่ไปอ่านหนังสือจะได้ไม่เสียผู้ใหญ่
วันนี้ (8 ก.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สังเกตว่าช่วงนี้คนพรรคเพื่อไทยหลายคนออกมาวิจารณ์การทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. ไม่ว่า นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ทีมทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. แต่ นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีต ส.ว.ตาก ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ แทนที่จะเอาข้อเท็จจริงและใช้เหตุผล แต่กลับใช้ลีลาเดียวกับคนเหล่านี้ ตนจึงจำเป็นต้องชี้แจง ที่ นายพนัส โจมตี ป.ป.ช. โดยพยายามโยงคดีประกันรายได้ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า แช่ไว้จนคนเห็น 2 มาตรฐาน ยิ่งสะท้อนมาตฐานการคิดว่า นายพนัส รู้ไม่จริงเรื่องข้าว แต่ใช้วาทกรรมเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ถ้าแน่จริงต้องแจงออกมาให้ได้ว่า ปัญหาของประกันรายได้คืออะไร ฝ่ายการเมืองทุจริตตอนไหน อย่างไร
นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า ตนทราบว่า พรรคเพื่อไทยส่งคนไปร้อง ป.ป.ช. แบบไม่มีข้อมูล แต่ก็ร้องไว้ก่อน เพราะช่วงก่อนมี คสช. มีชาวบ้านที่อีสานแจ้งให้ตนทราบว่า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่เป็นอธิบดีดีเอสไอ ลงไปนัดชาวบ้านเพื่อจะไปเก็บข้อมูลประกันรายได้ย้อนหลัง สุดท้ายก็ล้มเหลว ที่น่าสังเกตคือ ในช่วงรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯก็ไม่เคยเห็นพรรคเพื่อไทยเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจโครงการประกันรายได้ว่านักการเมืองคนไหนทุจริต แต่กลับมาจุดประเด็นนี้ในช่วงที่โครงการรับจำนำล่มสลาย เพื่อเบี่ยงเบนว่า โครงการรับจำนำทุจริตแต่โครงการประกันรายได้ก็ทุจริตเหมือนกัน จึงขอให้ นายพนัส ไปศึกษาเรื่องประกันรายได้ในหนังสือ “มหากาพย์โกงข้าว” บทที่ 11 จะได้รู้ว่าฝ่ายการเมืองและเจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิ์ไปแตะเงินสักบาทเดียว รัฐไม่ได้ซื้อข้าวเก็บไว้เหมือนโครงการจำนำข้าวของพรรคเพื่อไทย จึงไม่มีข้าวอยู่ในมือ รัฐมีหน้าที่ช่วยชาวนาโดยตรง การซื้อขายข้าวให้เป็นไปตามกลไกตลาด นายพนัส จะได้ไม่เสียชื่อเหมือนคนอื่นๆ ที่กล่าวหาโครงการประกันรายได้แบบเลื่อนลอย ที่สำคัญจะเสียผู้ใหญ่