“วรงค์” จี้สอบต่อปมนั่งร้านในกองข้าว แนะนายกฯ ผ่าตัดต้นน้ำกระบวนการยุติธรรม

มือปราบโกงจำนำข้าวขอบคุณ กมธ.กระบวนการยุติธรรมฯ ถอด “เสี่ยอ้วน” พ้นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สะกิดสอบต่อคดีข้าวหายมีนั่งร้านซุกกองข้าว ที่อัยการไม่สั่งฟ้อง ให้สังคมหายคาใจ แนะ “ประยุทธ์” ผ่าตัดกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น

วันนี้ (7 ส.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีประธานกรรมาธิการกฎหมายกระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่งตั้งและถอดนายธีระศักดิ์ แสนวรางกรู (เสี่ยอ้วน) เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ประจำคณะกรรมาธิการ ทั้งที่มีหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ขโมยข้าวที่ฝากในโกดังมาหมุนเวียนในโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กว่า 98 ล้านว่า ต้องขอขอบคุณคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ (กมธ.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีมติถอดเสี่ยอ้วน ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ อย่างน้อยก็แคร์ความรู้สึกของประชาชน และเป็นการสร้างบรรทัดฐาน ในการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ประวัติมีมลทิน แต่มีสิ่งที่น่าคิดว่าที่ กมธ.ชุดนี้ควรต้องศึกษาต่อ คือ จากข่าวอ้างว่าคดีของเสี่ยอ้วนนั้น อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนั้น ตนคิดว่าการที่ กมธ.มีมติถอดเสี่ยอ้วนออกจากตำแหน่งนั้นคงไม่พอเสียแล้ว แต่ควรต้องเรียกตรวจสอบรายละเอียดคดีนี้มาศึกษาว่าเกิดอะไรขึ้นในขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม เพราะการที่ข้าวของรัฐหายจากโกดังรัฐ และมีนั่งร้านซุกอยู่ในกองข้าว เจ้าหน้าที่รัฐแจ้งความอย่างไร ตำรวจดำเนินคดีอย่างไร อัยการจึงสั่งไม่ฟ้อง แล้วใครควรต้องรับผิดชอบ มันสอดคล้องกับข้อมูลที่ตนเคยได้รับว่า คดีเหล่านี้ถึงศาลน้อยมาก เพราะอย่างนี้เอง พวกทุจริตจึงไม่เกรงกลัว

“สงสัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.คงต้องใช้อำนาจที่มี ผ่าตัดกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น ทั้งเจ้าหน้าที่ผู้แจ้งความ ตำรวจ อัยการ หากเรื่องนั่งร้านในกองข้าว ถ้ายังหาคนรับผิดชอบไม่ได้ ผมเชื่อว่าสังคมยังไม่เคลียร์” นพ.วรงค์กล่าว