อดีต ส.ส. ประชาธิปัตย์ เหน็บ “อลงกรณ์” ลิ้นไก่สีเขียว นึกว่าสภาเป็นของเขาคนเดียว ยันระเบียบให้ อดีตสมาชิกแถลงได้ ถามใครทำให้กลายเป็นคางคกขึ้นวอ มัวเมาอำนาจจอมปลอม ปิดกั้นพูดความเดือดร้อนของชาวบ้าน จวกคำสั่งเผด็จการประหลาด ลั่นไม่ยอมรับ จ่อยื่น “พรเพชร” เตรียมไปแถลงอีกแน่ ปูดคงไปตั้งพรรคใหม่รับใช้ทหาร และ “สุดารัตน์” ด้านรองประธาน สปท. ปัดห้ามคนนอกแถลง แค่ให้ปฏิบัติตามระเบียบ หากจะพูดต้องแจงเลขาฯ ไม่ถือสาถูกเพื่อนพรรคเก่าด่า ย้อนควรเช็กให้ถี่ถ้วน ไม่ใช่คิดป้ายสีตามอำเภอใจ ไม่ควรใช้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่น
วันนี้ (27 ต.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ คนที่ 1 มีดำริห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกซึ่งหมายถึงอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตสมาชิกวุฒิสภา ไปแถลงข่าวที่สภา โดยอ้างว่าไม่อยากให้เป็นเวทีทะเลาะเบาะแว้ง ว่า อนิจจาคนเราไม่น่าจะเปลี่ยนสีแปรธาตุไปได้ถึงขนาดนี้ แค่ผู้มีอำนาจยกก้นให้รอง สปท. คนที่ 1 ไม่ทันไร นักปฏิรูปพรรคการเมืองอย่างนายอลงกรณ์ ก็เปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ เพียงแค่อ้างปากก็เห็นลิ้นไก่สีเขียวๆเต็มไปหมดเอาคำว่าทะเลาะเบาะแว้งมาอ้าง เพียงแค่ทนไม่ได้กับความเห็นแตกต่างที่ได้ยินใต้สภา นึกว่าสภาเป็นของเขาคนเดียว ช่างน่าอดสูใจยิ่งนัก อุดมการณ์การปฏิรูปประเทศของนายอลงกรณ์ ที่แท้คือวิ่งเข้าหาศูนย์อำนาจโดยอ้างคำว่าปฏิรูปบังหน้า วันก่อนก็ยกยอปอปั้นข้าราชการประจำว่าเป็นสปท.ได้เพราะมีมุมมองที่หลากหลายเป็นประโยชน์ประเทศ ด่าคุณปู่คุณตาว่าครอบงำพรรคประชาธิปัตย์ มาวันนี้เอาอกเอาใจคนมีอำนาจด้วยการเรียกข้าราชการไปพบอ้างว่าเป็นดำริของตนเอง ห้ามไม่ให้ อดีต ส.ส. ไปแถลงข่าวในสภา ทั้ง ๆ ที่ระเบียบที่เคยมีสามารถกระทำได้ ไม่ผิดรัฐธรรมนูญ
“ถามว่า นายอลงกรณ์ ใคร ทำไมกลายเป็นคางคกขึ้นวอได้ถึงขนาดนี้ สปท. ไม่ใช่เจ้าของรัฐสภา เป็นเพียงติ่งอำนาจของ คสช. เปรียบเสมือนกับสภาที่งอกเขางอกเงยขึ้นมาเอาไว้ปลอบใจพรรคพวกเท่านั้น อำนาจตามกฎหมายที่แท้จริงในสภาอยู่ที่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเท่านั้น นายอลงกรณ์ อาจได้รับใบสั่งหรือไฟเขียวให้แสดงอำนาจเช่นนี้ เท่ากับหลงมัวเมาในอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน ซึ่งเป็นอำนาจจอมปลอมชั่วครั้งชั่วคราว แต่ก็แสดงธาตุแท้อย่างเต็มที่ที่จะปิดกั้นเสรีภาพของ อดีต ส.ส. และ ส.ว. ทุกคนไม่ให้แถลงเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่รัฐสภาอีกต่อไป” นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ กล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีสภาผู้แทนราษฎรที่มีคำสั่งเผด็จการประหลาด ๆ เช่นนี้ ตนไม่ยอมรับคำสั่งขี้ข้าของนายอลงกรณ์ และจะยื่นหนังสือถึงนายพรเพชร ให้ยึดระเบียบเดิมและพร้อมที่จะไปแถลงข่าวที่รัฐสภาโดยไม่เกรงกลัวนายอลงกรณ์ ท้ายที่สุดแนวทางของนายอลงกรณ์ คงไปดำเนินการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่รับใช้กลุ่มมีอำนาจร่วมกับนักการเมืองสายทหารอีกหลายคนรวมถึง คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กาลเวลาก็จะพิสูจน์ว่าใครเป็นนักปฏิรูปที่แท้จริงหรือใครเป็นนักประชาธิปไตยจอมปลอม นายอลงกรณ์ ควรกลับไปส่องกระจกและถามชาวเมืองเพชรดูว่า การห้ามอดีต ส.ส. เพชรบุรี คนอื่น ๆ ไปแถลงข่าวที่รัฐสภานั้นเป็นการปฏิรูปประชาธิปไตยและการปรองดองจริงหรือ
ด้าน นายอลงกรณ์ กล่าวถึงกรณีคำสั่งการแถลงข่าวในรัฐสภา ว่า ตนไม่ได้ห้ามบุคคลภายนอกในการแถลงข่าวแต่ขอให้ปฏิบัติตามระเบียบของสภา เพื่อให้เกิดความเสมอภาคกับทุกคนทุกฝ่าย เนื่องจากสภาเป็นสถานที่ราชการ และเพื่อป้องกันการให้ข่าวที่อาจกระทบบุคคลอื่น จึงมีข้อกำหนดเป็นระเบียบปฏิบัติให้สมาชิกหรืออดีตสมาชิกต้องแจ้งให้สำนักประชาสัมพันธ์ทราบหากเป็นบุคคลภายนอกต้องแจ้งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาซึ่งอดีตสมาชิกรัฐสภาควรต้องทราบถึงระเบียบปฏิบัติของสภา.และขอความร่วมมือถือปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว
ส่วนกรณีที่ นายวัชระ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องดังกล่าวนั้น นายอลงกรณ์ กล่าวว่า นายวัชระ กำลังเข้าใจผิดก็ไม่ได้ถือสา แต่เมื่อนายวัชระ ทราบข้อเท็จจริงแล้วก็กรุณาปฏิบัติเหมือนเช่นบุคคลอื่น ๆ
“ก่อนที่จะกล่าวหาใครควรตรวจสอบให้ถี่ถ้วน มิใช่คิดจะใส่ร้ายป้ายสีใครก็ทำตามอำเภอใจ และคุณวัชระ ก็ไม่ควรใช้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่น โดยไม่ยอมปฏิบัติตามระเบียบของสภา” นายอลงกรณ์ กล่าว