xs
xsm
sm
md
lg

"มาร์ค"จวกแผนยุบพรรคจดทะเบียนใหม่ทำการเมืองล้าหลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแนวคิดของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่จะให้ทุกพรรคการเมืองต้องไปจดทะเบียนใหม่ ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร และไม่เข้าใจว่า ความหมาย คือ การยุบทุกพรรคใช่หรือไม่ โดยตนเห็นว่าสิ่งที่ คสช.ควรคิดคือ การปฏิรูประบบ และโครงสร้างพรรคการเมือง เพื่อให้เป็นของประชาชน และเป็นสถาบัน เป็นการสร้างมาตรฐาน และปฏิรูปพรรคการเมือง แต่ถ้าบอกเพียงว่า จะยุบพรรคให้มาจดทะเบียนใหม่ แล้วเลือกตั้งภายใน 3 เดือน 6 เดือน จะทำให้ประเทศถอยหลังไปสู่การเป็นพรรคการเมืองเฉพาะกิจ เพื่อการเลือกตั้ง และสร้างปัญหาอื่นตามมา
ดังนั้น หากเห็นว่าพรรคการเมืองทำไม่ถูกต้อง ก็จัดการ กำหนดมาตฐาน ถ้าอยากให้พรรคการเมืองใหม่เข้ามา ก็เปิดโอกาสให้จดทะเบียนเลย แต่อย่าทำให้พัฒนาการในอดีตที่ผานมา ต้องย้อนกลับไปเริ่มต้นใหม่ เพราะประเทศไทยไม่ได้ยุบพรรคการเมืองมาตั้งแต่ปี 2519 โดยการรัฐประหารหลายครั้ง ก็ไม่ได้ยุบพรรคการเมือง เพียงแต่ให้ปรับปรุงให้ได้มาตรฐาน เป็นของประชาชนอย่างไร กระจายอำนาจอย่างไร เป็นเรื่องที่ตนสนับสนุนเต็มที่
ส่วนกรณีที่นายวิษณุ อ้างเรื่องความเสมอภาคนั้น นายอภิสิทธิ์ ย้อนถามกลับว่า ทำไมไม่เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองจดทะเบียนในขณะนี้ เพราะหากคิดว่าพรรคการเมืองมีไว้เพื่อรวมตัวเลือกตั้ง เป็นการไม่พัฒนาประชาธิปไตยและประเทศ เพราะพรรคการเมือง มีหน้าที่ทำงานต่อเนื่อง ไม่ใช่เฉพาะการเลือกตั้ง แต่เป็นการรวมตัวด้วยอุมดมการณ์ของคนที่มีความคิดเดียวกัน แต่ถ้าคิดง่ายๆ ว่าจะเลือกตั้งใหม่ แล้วให้จดทะเบียบนพรรคใหม่หมดเป็นเรื่องที่อันตราย
เมื่อถามว่า คิดว่ามีเป้าหมายอย่างอื่นซ่อนเร้นหรือไม่ เพราะหากจดทะเบียนใหม่ ก็เท่ากับต้องมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารพรรคใหม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบต้องถามคนที่คิดเรื่องนี้ ขอให้จับตาดูความเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะหากจะให้เสมอภาค ก็ต้องเอาให้ชัดว่า คนที่มีความเกี่ยวข้องกับอำนาจรัฐในขณะนี้ ต้องไม่ยุ่งกับการเมือง
"ผมได้ยินว่า มีบางคนอยากให้เกิดพรรคเล็กๆ แล้วไปรวมเป็นรัฐบาลแห่งชาติ ความจริงควรหลุดพ้นจากความคิดนี้ได้แล้ว เพราะเราต้องการนักการเมือง และพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ และคนใหม่ แต่ต้องไม่ทำให้พรรคการเมืองที่ดี หรือพยายามทำดี ถูกมองว่าเหมือนกับนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชัน ไม่เช่นนั้น การเมืองก็ไม่เดินหน้า จึงไม่อยากให้มุ่งไปที่เป้าหมายการเมือง ขอชวนให้ทุกพรรคช่วยกันบอกว่า จะปฏิรูปพรรคการเมืองอย่างไร"
ส่วนกรณี นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า เป็นแผนที่จะจัดการนายอภิสิทธิ์ ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพราะขัดขวางเรื่องการ ตั้งรัฐบาลแห่งชาติระหว่าง 2 พรรคใหญ่ ที่เป็นโรดแมปของคสช. นั้น นายอภิสิทธิ์ ปฏิเสธที่จะตอบเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องของตัวเอง แต่ถ้าคิดว่า ในตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นอุปสรรคของใครหรือไม่ ก็ต้องบอกว่า เป็นอุปสรรคต่อแนวความคิดนิรโทษกรรม โดยไม่ให้กระบวนการทางกฎหมายจัดการก่อน ตนเป็นอุปสรรคกับความคิดที่ว่า นักการเมืองมีไว้ฮั้วกัน แบ่งอำนาจทางการเมือง แล้วทุกคนจะมีความสุข ซึ่งหากความคิดนี้ไปขัดใจใคร ก็ต้องต่อสู้กันตามระบบกฎหมาย และการเมือง
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเราหนักแน่นในอุดมการณ์ เพียงแต่แนวความคิดเกี่ยวกับเส้นทางในช่วงเปลี่ยนผ่าน ยังมีความหลากหลาย แต่พื้นฐานความคิดมต่างกัน เช่น บางคนที่สนับสนุน ก็คิดแค่ว่าเป็นการไปจดทะเบียนใหม่ แค่กระบวนการธุรการ ไม่ใช่การยุบพรรค แต่หากยุบพรรค เขาก็ไม่เห็นด้วย ดังนั้นนายวิษณุ ต้องพูดให้ชัดว่า ความหมายตรงนี้คืออะไร
" เราอยากได้พรรคการเมืองที่เป็นสถาบันของประชาชน ทำงานต่อเนื่อง เป็นได้ทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน การพัฒนาพรรคการเมืองต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งเรื่องการเงิน การกระจายบอำนาจ ระบบบริหารพรรค ที่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งไม่สามารถทำได้ภายใน 3-6 เดือน แต่ต้องอาศัยพัฒนาการ และกฎหมายเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าคิดว่า พรรคการเมืองมีไว้เพื่อเป็นคอกสำหรับผู้เล่นเวลาเลือกตั้งแล้วมาเจรจาต่อรองกัน บ้านเมืองก็ถอยหลัง สุดท้ายการเมืองกลับไปเรื่องผลประโยชน์ มีการทุจริต คอร์รัปชัน สิ่งที่คิดอยากทำในขณะนี้ ก็สูญเปล่า
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ยังไม่แน่ใจว่าแนวทางนี้คือวิธีคิดของผู้มีอำนาจหรือไม่ เพราะถ้าฟัง พล.องประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี ก็พูดชัดว่า อยากให้บ้านเมืองไม่ขัดแย้ง และไม่เอานิรโทษกรรม จนกว่าจะมีการจัดการทางกฎหมาย และไม่เคยได้ยินว่า จะบังคับให้ทุกคนเป็นรัฐบาล เพียงแต่บอกว่าคนที่เป็นรัฐบาล กับไม่เป็นรัฐบาล อย่าตีกัน แต่มีความคิดในแม่น้ำสายต่างๆ มีความคิดวนเวียนกับเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ คิดว่าพรรคใหญ่เป็นปัญหา หรือคนนั้น คนนี้ มีปัญหา ก็คิดกำจัดทางการเมือง หากพล.อ.ประยุทธ์ หลักแน่นในเป้าหมาย ก็คงไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่าผู้มีอำนาจจะสามาถยุบพรรคได้สำเร็จหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คนจะร่างรัฐธรรมนูญยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง แต่กลับมีการพูดล่วงหน้าโดยไม่ให้เกียรติคนที่จะเข้ามาทำงาน จึงขอย้ำว่า 21 คน ที่จะเข้ามา ท่านจะฟังใครก็แล้วแต่ แต่คนอนุมัติ คือ ประชาชน และตนบอกได้เลยว่า การจะยุบพรรคให้ไปจดทะเบียนใหม่ จะทำให้เกิดพรรคเฉพาะกิจ พรรคที่มีนายทุน และผู้มีอิทธิพลเป็นเจ้าของไม่เดือดร้อน เพราะยุบชื่อนี้ ก็ไปตั้งชื่อใหม่ รวมแก๊งเหมือนเดิม แต่พรรคที่ประชาชนมีส่วนร่วมสร้างมา ย่อมรู้สึก จึงต้องคิดว่าจะส่งเสริมพรรคการเมืองแบบไหน
เมื่อถามต่อว่า คิดว่าแนวทางนี้เป็นการทำลายพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าต้องรอฟังว่าจะให้จดทะเบียนแบบไหน อย่างไร ทั้งนี้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าคสช. ต้องกำหนดทิศทางให้ชัด ซึ่งตนก็เห็นว่า มีความตั้งใจ แต่ความคิดรอบตัว มีความหลากหลาย แต่ในที่สุดคนทำงานต้องรับผิดชอบ ใครจะคิดเขียนกฎหมายลูกก่อนตัวรัฐธรรมนูญ ก็แปลก เพราะต้องดูเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดก่อน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงคำเปรียบเทียบ ที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นใหม่ ระหว่าง "ประชานิยม" เป็น "ประชารัฐ" ว่า ที่ผ่านมามีการพูดคำว่าประชานิยม พร่ำเพรื่อเกินไป แต่คำว่า "ประชารัฐ" ไม่ขอวิจารณ์ แต่อยากบอกว่า นโยบายที่ช่วยเหลือประชาชน ไม่จำเป็นต้องเป็นประชานิยมเสมอไป เพราะบางเรื่องเป็นสวัสดิการ และจำเป็นที่ต้องช่วยเหลือ หรือแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ แต่ที่ต้องหนีให้พ้นคือ ประชานิยมเพื่อเอาใจคนให้ได้คะแนนเสียง โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายกับประเทศ เช่น จำนำข้าว รถคันแรก
กำลังโหลดความคิดเห็น