“ประยุทธ์” ย้อน แก้ปัญหาหวยทำได้ แค่ใช้เวลาหน่อย บ่นเลิกโควตาก็หาว่าหนุนพนัน เผย ประสาน อสส. ตั้งแผนกคดีค้ามนุษย์แล้ว แต่คนยังไม่พอ ยันเร่งอยู่ รับแก้ไอยูยู แนวโน้มดี แจง หลักปกติทูตมะกัน พบ รมต. ก่อนนัดพบนายกฯ ไม่ได้จำพบกันพฤหัสนี้ บ่นแคร์ไรนักหนา เป็นเมืองขึ้นหรือ ไม่ห่วงสถานการณ์ทะเลจีนใต้ อย่าดึงไทยเอี่ยว ย้อนปีก่อนประสานถึงไม่ขัดแย้ง ชี้ จะเอาอะไรไปช่วยเรือรบก็ไม่มี
วันนี้ (27 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ถึงความคืบหน้าในเรื่องของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่า ในตอนแรกมีแต่คนมองว่า คสช. ไม่เอาจริงเอาจัง ความจริงแล้วทำได้ เพียงแต่ต้องให้เวลาหน่อยเท่านั้น ตนก็มีแผนไปทีละขั้น จนมาถึงทุกวันนี้ที่มีการยกเลิกโควตา แล้วก็ออกมาบอกว่าตนส่งเสริมคนเล่นการพนัน แล้วมันจะเลิกได้หรือไม่เล่า ถ้าจะเลิกล้มก็ให้เสนอเข้ามา แต่ถ้าเสนอกันเข้ามาแค่สิบคน ตนเลิกให้ไม่ได้ หากมีเงินน้อยก็อย่าซื้อมาก อย่าหวังรวย
ตนเป็นห่วงเรื่องการจองซื้อ ถ้าจองแล้วหมดเร็ว ตนก็สั่งการให้ไปหาโควต้ามาให้จองเป็นรายย่อยบ้าง ค่อยๆ แก้ไขไป การปฏิรูปประเทศก็ต้องเป็นเช่นนี้ ทีละขั้น ๆ แต่ละขั้นจะมีปัญหาเข้ามา ก็ต้องแก้ไป แล้วเดินหน้าไปขั้นต่อไปอย่างนี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงคดีความที่รัฐบาลเป็นโจทก์และจำเลยในขณะนี้ ทั้งคดีค้ามนุษย์ การหลบหนีเข้าเมือง ที่คั่งค้าง ว่า ตนได้ประสานกับทางสำนักงานอัยการสูงสุดไปแล้ว ให้ช่วยดูแลในเรื่องนี้ โดยทางอัยการสูงสุดจะสร้างแผนกเฉพาะขึ้นมาเพื่อทำให้คดีเหล่านี้เดินหน้าไปได้เร็วขึ้น เพราะเรื่องดังกล่าวมีผลต่อเรื่อง รายงานการค้ามนุษย์ ข้าราชการทุจริต ต้องตัดสินให้ได้โดยเร็วเพราะตอนนี้มันไปคั่งค้างปนอยู่กับคดีอื่น ๆ ด้วย ตอนนี้ก็จัดตั้งขึ้นมาแล้ว เพียงแต่คนไม่เพียงพอ
“เดี๋ยวผมจะรีบทำให้เร็วขึ้น คดีเหล่านี้จะได้ไม่เป็นภาระของรัฐบาลในการเอาคนเหล่านี้ไปอยู่ในที่ควบคุม เสียเวลา หลบหนีเข้าเมืองเยอะแยะไปหมด เพราะเรามีกฎหมายหลบหนีเข้าเมืองสำหรับคนต่างด้าว ต่างประเทศ ที่เข้ามาโดยผอดกฎหมาย มีกฎหมายเดียว ไม่มีฉบับอื่น ก็ต้องดำเนินคดีตามนั้นโดยเร็ว ทำอย่างไรเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำอย่างไรให้ตัดสินโดยเร็ว เป็นภาระมาก ๆ ไม่ได้”
ส่วนในเรื่องการประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) นั้น ตนได้รับรายงานความก้าวหน้าว่ามีแนวโน้มที่ดี เพียงแต่ตอนนี้มันถูกโยงไปกับปัญหาการค้ามนุษย์ด้วย การจะยกเลิกใบเหลืองใบแดง จะถูกโยงไปในผลลัพธ์ของการค้ามนุษย์ด้วย ไม่ใช่เพียงแค่ไอยูยูอย่างเดียวแล้ว ตอนนี้ทางนั้นก็เห็นใจในความตั้งใจของเรา แต่เราก็ต้องแก้ไขต่อไป ต้องทำตามกฎระเบียบ เพราะเราต้องค้าขายกับคนทั้งโลก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อถึงการเข้าเยี่ยมคารวะของนายเกล็น ทาว์นเซนต์ เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่วันเดียวกันนี้ นายเดวีส์ ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่า เขาก็ต้องเข้าพบรองนายกรัฐมนตรีทุกคน รัฐมนตรีอีกหลายคน เป็นหลักปฏิบัติปกติ เขาต้องไปพบคนอื่นก่อน ค่อยนัดเข้าพบนายกรัฐมนตรี ไม่อยากพบก็อย่าพบ ก่อนหน้านี้ นายเดวีส์ ก็ขอเข้าพบ เพียงแต่เวลาว่างไม่ตรงกัน จึงไปเข้าพบรองนายกรัฐมนตรีก่อน ก็ถือว่าดี จะได้ช่วยกันอธิบาย ตนพูดคนเดียวอาจจะไม่ฟังก็ได้ ทูตเขามาก็เป็นตัวแทนของประเทศเขา ก็ให้เกียรติกัน
“ทำไมหรือ จะพบไม่พบ มันจะสำคัญอะไรนักหนา ทำไม เป็นเมืองขึ้นเขาหรืออย่างไร ปัดโธ่ ให้ความสำคัญทุกประเทศ ทำไมต้องไปแคร์นักหนา ทำไมคุณไม่ให้เกียรติผมบ้างละ เวลาคนเขามาค้าขายกับผมตั้งกี่ประเทศ ไม่เห็นพูดเลย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว
เมื่อถามว่า เห็นในหมายงานว่า เป็นวันที่ 29 ตุลาคม ในช่วงบ่าย ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ไม่รู้ละ ผมไม่เคยจำ วันหนึ่งผมยังไม่รู้เลยทำอะไรบ้าง ต้องคอยถามวันนี้มีอะไรบ้าง จำไม่ได้ จะจำทำไม ไม่อย่างนั้นจะตั้งคนมาทำไมเยอะแยะ เลขาก็มี ทส. ก็มี รปภ. ก็มี ส่วนใหญ่ถามไปตอบไม่ได้กันอยู่แล้ว”
เมื่อถามว่า กังวลสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ตอนนี้หรือไม่ เนื่องจากสหรัฐฯได้ส่งเรือรบเข้าประชิดเกาะทีมของจีนในทะเลจีนใต้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ห่วง ประเทศไทยไม่อยู่ในความขัดแย้งตรงนั้น เราต้องวางตัวให้ถูก เราไม่ใช่ศัตรูใครทั้งสิ้น อย่าเอาเราเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องที่เราไม่ได้ไปขัดแย้งกับเขา แต่เราต้องสนับสนุนเขา ที่ผ่านมารัฐบาลก็มีหน้าที่ในการผลักดันเรื่องผู้ประสานงานทะเลจีนใต้ก็ทำออกมาจนมันผ่านมานับปีแล้ว วันนี้ส่งให้สิงคโปร์ไปทำอยู่ ทำอย่างไรก็ได้ให้ไม่เกิดความขัดแย้ง เกิดความร่วมมือในทะเลจีนใต้ จึงไม่เกิดความรุนแรง นี่แหละผลงานที่เราทำปีที่แล้ว ปีนี้สิงคโปร์ก็รับไปต่อว่ามีความก้าวหน้าหรือไหม จะไปยุ่งอะไรกับเขาเล่า จะเอาเรือรบไปช่วยเขาหรืออย่างไร เรือเราก็ไม่มี เขามีทั้งเรือดำน้ำ เรือบรรทุกเครื่องบิน