เมื่อเวลา 14.30 น.วานนี้ (27ต.ค.) ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเกล็น ทาว์นเซนต์ เดวี่ส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง โดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงในการหารือ
จากนั้น นายเกล็น เดวีส์ ให้สัมภาษณ์ว่าได้พูดคุยกับนายวิษณุ หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความต้องการในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ความร่วมมือในหลายมิติ ทั้งเรื่องสาธารณสุข การบังคับใช้กฎหมาย ธุรกิจของสหรัฐฯ ในประเทศไทย รวมถึงคนอเมริกันที่อยู่ในประเทศไทย ความร่วมมือในการต่อต้านการค้ามนุษย์ การต่อต้านยาเสพติด ตลอดจนพัฒนาการของประเทศไทยที่กำลังจะกลับคืนสู่ประชาธิปไตย นอกจากนี้ ยังมีการปรึกษาหารือถึงเรื่องโรดแมปด้วย
ด้านนายวิษณุ กล่าวว่า บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี ซึ่งตนได้อธิบาย โรดแมป 6 –4,6-4 รวมแล้ว 20 เดือน หรือประมาณ พ.ค.60 จะมีการเลือกตั้ง ให้ท่านฟังเหมือนกับทูตทุกๆ ประเทศ ซึ่งท่านก็ถามว่า ตัวเลขดังกล่าวมาจากไหน จึงอธิบายให้ฟัง ซึ่งก็เข้าใจ และไม่ได้ถามว่าโรดแมป สั้นกว่านี้ได้หรือไม่ แต่ตนแจ้งไปก่อนว่า อย่างไรไม่เกิน 20 เดือน จะสั้นกว่านี้ได้ ขึ้นอยู่กับงานแต่ละช่วงที่ทำได้เสร็จเร็ว โดยเฉพาะงานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ทั้งการร่างรัฐธรรมนูญ การทำประชามติ และการทำกฎหมายลูก
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลังการประชุมครม. ถึงกรณี นายเกล็น เดวี่ส์ เข้าเยี่ยมคารวะ นายวิษณุ ว่า เขาก็ต้องเข้าพบ รองนายกรัฐมนตรีทุกคน รัฐมนตรีอีกหลายคน เป็นหลักปฏิบัติปกติ เขาต้องไปพบคนอื่นก่อน ค่อยนัดเข้าพบนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าไม่อยากพบ ก็อย่าพบ ก่อนหน้านี้นายเดวี่ส์ ก็ขอเข้าพบตน เพียงแต่เวลาว่างไม่ตรงกัน จึงไปเข้าพบรองนายกฯ ก่อน ก็ถือว่าดีจะได้ช่วยกันอธิบาย ตนพูดคนเดียวอาจจะไม่ฟังก็ได้ ทูตเขามาก็เป็นตัวแทนของประเทศเขา ก็ให้เกียรติกัน
"ทำไมหรือ จะพบ ไม่พบ มันจะสำคัญอะไรนักหนา ทำไม เป็นเมืองขึ้นเขาหรืออย่างไร ปัดโธ่ ให้ความสำคัญทุกประเทศ ทำไมต้องไปแคร์นักหนา ทำไมคุณไม่ให้เกียรติผมบ้างล่ะ เวลาคนเขามาค้าขายกับผม ตั้งกี่ประเทศ ไม่เห็นพูดเลย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว กับผู้สื่อข่าว
เมื่อถามว่า เห็นในหมายงานว่า เป็นวันที่ 29 ต.ค. ช่วงบ่าย ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ไม่รู้ละ ผมไม่เคยจำ วันหนึ่งผมยังไม่รู้เลยทำอะไรบ้าง ต้องคอยถามวันนี้มีอะไรบ้าง จำไม่ได้ จะจำทำไม ไม่อย่างนั้นจะตั้งคนมาทำไมเยอะแยะ เลขาก็มี ทส.ก็มี รปภ.ก็มี ส่วนใหญ่ถามไป ตอบไม่ได้กันอยู่แล้ว"
เมื่อถามว่า กังวลในสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ตอนนี้หรือไม่ เนื่องจากสหรัฐฯ ได้ส่งเรือรบเข้าประชิดเกาะทีมของจีนในทะเลจีนใต้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ห่วง ประเทศไทยไม่อยู่ในความขัดแย้งตรงนั้น เราต้องวางตัวให้ถูก เราไม่ใช่ศัตรูใครทั้งสิ้น อย่าเอาเราเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องที่เราไม่ได้ไปขัดแย้งกับเขา แต่เราต้องสนับสนุนเขา ที่ผ่านมา รัฐบาลก็มีหน้าที่ในการผลักดันเรื่องผู้ประสานงานทะเลจีนใต้ ก็ทำออกมาจนมันผ่านมานับปีแล้ว วันนี้ส่งให้สิงคโปร์ไปทำอยู่ ทำอย่างไรก็ได้ให้ไม่เกิดความขัดแย้ง เกิดความร่วมมือในทะเลจีนใต้ จึงไม่เกิดความรุนแรง นี่แหละผลงานที่เราทำปีที่แล้ว ปีนี้สิงคโปร์ก็รับไปต่อ ว่ามีความก้าวหน้าหรือไม่ จะไปยุ่งอะไรกับเขาเล่า จะเอาเรือรบไปช่วยเขาหรืออย่างไร เรือเราก็ไม่มี เขามีทั้งเรือดำน้ำ เรือบรรทุกเครื่องบิน
จากนั้น นายเกล็น เดวีส์ ให้สัมภาษณ์ว่าได้พูดคุยกับนายวิษณุ หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความต้องการในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ความร่วมมือในหลายมิติ ทั้งเรื่องสาธารณสุข การบังคับใช้กฎหมาย ธุรกิจของสหรัฐฯ ในประเทศไทย รวมถึงคนอเมริกันที่อยู่ในประเทศไทย ความร่วมมือในการต่อต้านการค้ามนุษย์ การต่อต้านยาเสพติด ตลอดจนพัฒนาการของประเทศไทยที่กำลังจะกลับคืนสู่ประชาธิปไตย นอกจากนี้ ยังมีการปรึกษาหารือถึงเรื่องโรดแมปด้วย
ด้านนายวิษณุ กล่าวว่า บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี ซึ่งตนได้อธิบาย โรดแมป 6 –4,6-4 รวมแล้ว 20 เดือน หรือประมาณ พ.ค.60 จะมีการเลือกตั้ง ให้ท่านฟังเหมือนกับทูตทุกๆ ประเทศ ซึ่งท่านก็ถามว่า ตัวเลขดังกล่าวมาจากไหน จึงอธิบายให้ฟัง ซึ่งก็เข้าใจ และไม่ได้ถามว่าโรดแมป สั้นกว่านี้ได้หรือไม่ แต่ตนแจ้งไปก่อนว่า อย่างไรไม่เกิน 20 เดือน จะสั้นกว่านี้ได้ ขึ้นอยู่กับงานแต่ละช่วงที่ทำได้เสร็จเร็ว โดยเฉพาะงานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ทั้งการร่างรัฐธรรมนูญ การทำประชามติ และการทำกฎหมายลูก
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลังการประชุมครม. ถึงกรณี นายเกล็น เดวี่ส์ เข้าเยี่ยมคารวะ นายวิษณุ ว่า เขาก็ต้องเข้าพบ รองนายกรัฐมนตรีทุกคน รัฐมนตรีอีกหลายคน เป็นหลักปฏิบัติปกติ เขาต้องไปพบคนอื่นก่อน ค่อยนัดเข้าพบนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าไม่อยากพบ ก็อย่าพบ ก่อนหน้านี้นายเดวี่ส์ ก็ขอเข้าพบตน เพียงแต่เวลาว่างไม่ตรงกัน จึงไปเข้าพบรองนายกฯ ก่อน ก็ถือว่าดีจะได้ช่วยกันอธิบาย ตนพูดคนเดียวอาจจะไม่ฟังก็ได้ ทูตเขามาก็เป็นตัวแทนของประเทศเขา ก็ให้เกียรติกัน
"ทำไมหรือ จะพบ ไม่พบ มันจะสำคัญอะไรนักหนา ทำไม เป็นเมืองขึ้นเขาหรืออย่างไร ปัดโธ่ ให้ความสำคัญทุกประเทศ ทำไมต้องไปแคร์นักหนา ทำไมคุณไม่ให้เกียรติผมบ้างล่ะ เวลาคนเขามาค้าขายกับผม ตั้งกี่ประเทศ ไม่เห็นพูดเลย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว กับผู้สื่อข่าว
เมื่อถามว่า เห็นในหมายงานว่า เป็นวันที่ 29 ต.ค. ช่วงบ่าย ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ไม่รู้ละ ผมไม่เคยจำ วันหนึ่งผมยังไม่รู้เลยทำอะไรบ้าง ต้องคอยถามวันนี้มีอะไรบ้าง จำไม่ได้ จะจำทำไม ไม่อย่างนั้นจะตั้งคนมาทำไมเยอะแยะ เลขาก็มี ทส.ก็มี รปภ.ก็มี ส่วนใหญ่ถามไป ตอบไม่ได้กันอยู่แล้ว"
เมื่อถามว่า กังวลในสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ตอนนี้หรือไม่ เนื่องจากสหรัฐฯ ได้ส่งเรือรบเข้าประชิดเกาะทีมของจีนในทะเลจีนใต้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ห่วง ประเทศไทยไม่อยู่ในความขัดแย้งตรงนั้น เราต้องวางตัวให้ถูก เราไม่ใช่ศัตรูใครทั้งสิ้น อย่าเอาเราเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องที่เราไม่ได้ไปขัดแย้งกับเขา แต่เราต้องสนับสนุนเขา ที่ผ่านมา รัฐบาลก็มีหน้าที่ในการผลักดันเรื่องผู้ประสานงานทะเลจีนใต้ ก็ทำออกมาจนมันผ่านมานับปีแล้ว วันนี้ส่งให้สิงคโปร์ไปทำอยู่ ทำอย่างไรก็ได้ให้ไม่เกิดความขัดแย้ง เกิดความร่วมมือในทะเลจีนใต้ จึงไม่เกิดความรุนแรง นี่แหละผลงานที่เราทำปีที่แล้ว ปีนี้สิงคโปร์ก็รับไปต่อ ว่ามีความก้าวหน้าหรือไม่ จะไปยุ่งอะไรกับเขาเล่า จะเอาเรือรบไปช่วยเขาหรืออย่างไร เรือเราก็ไม่มี เขามีทั้งเรือดำน้ำ เรือบรรทุกเครื่องบิน