xs
xsm
sm
md
lg

“สาธิต” ชงแม่น้ำ 3 สาย ตัดระบบอุปถัมภ์ ห้ามนักการเมืองแจก - ประชาชนเรียกรับสิ่งของมีค่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สาธิต ปิตุเตชะ (ภาพจากแฟ้ม)
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทำจดหมายเปิดผนึกทั้ง “มีชัย-พรเพชร-ทินพันธุ์” แนะสร้างกติกาใหม่ ห้ามนักการเมืองมีต้นทุนระบบอุปถัมภ์ เสนอห้ามให้สิ่งของประชาชน และห้ามประชาชนหรือกลุ่มคนเรียกรับ หรือรับสิ่งของจากนักการเมือง อ้างสร้างจิตสำนึกคนในชาติ ทำให้สังคมไม่ต้องพึ่งพิงระบบอุปถัมภ์ เปิดช่องทุจริตคอร์รัปชัน

วันนี้ (18 ต.ค.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.), นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.), และ ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) โดยมีใจความว่า ตนเข้าใจและเห็นใจทุกท่านที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาขึ้นในทุกด้าน ประชาชนมีความสุข กินดีอยู่ดี และมีงานทำมีรายได้ แต่ต้องยอมรับว่าประเทศมีปัญหาอยู่มาก ระยะเวลาที่เหลืออยู่ตามอายุรัฐบาล คงไม่อาจแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด จึงต้องจัดลำดับความสำคัญของปัญหา หากแก้ปัญหาใหญ่ได้ ปัญหาเล็กๆ ก็จะคลี่คลายตามไป

นายสาธิตกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องแก้ไขปัญหาเรื่องการเมืองก่อน พรรคการเมืองดี สังคมดี เศรษฐกิจก็จะดีตาม การแก้ไขปัญหาการเมืองที่สำคัญ คือ ต้องติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกเสียก่อน ต่อไปก็จะสามารถค่อยค่อยแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเมืองไม่ได้แก้โดยการด่านักการเมือง หรือโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ต้องชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมไหนผิด ชั่ว และไม่ควรอยู่ในแวดวงของตัวแทนประชาชน ตอนนี้นายกรัฐมนตรีเดินถูกทางแล้ว คือใครทำผิดว่าไปตามผิด ใครทำถูกต้องชมเชย และยึดกฎหมายเป็นหลัก ไม่เลือกปฏิบัติ นายมีชัยต้องรับบทหนัก คือ การสร้างกติกาถ้ากติกาดี ผู้คุมกติกาทำหน้าที่เข้มแข็ง ซื้อไม่ได้ กลไกลก็จะเดินต่ออย่างมีประสิทธิภาพ เพราะกติกามีส่วนสำคัญอย่างมากในการที่จะควบคุมให้กระดุมเม็ดแรกติดได้ถูกต้อง

“สิ่งที่ต้องกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ คือ นักการเมืองต้องไม่มีต้นทุนในระบบอุปถัมภ์ ซึ่งว่าเป็นของไม่ดี หรือไขมันของร่างกาย หากเปรียบร่างกายเป็นประชาธิปไตย และต้องกำหนดกฎหมายลูกห้ามมิให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น ส.ส., ส.ว. ให้หรือเสนอให้ซึ่งสิ่งของหรือทรัพย์สินใดอันมีค่ากับประชาชนกลุ่มหรือองค์กรใดๆ ทั้งสิ้น และห้ามมิให้ประชาชน บุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรใด เรียกรับ หรือรับสิ่งของ หรือทรัพย์สินอันมีค่าจากผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากผู้ใดฝ่าฝืน ต้องได้รับโทษรุนแรงตามสมควร และมีผลทำให้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ซึ่งจะทำให้สังคมหรือประชาชนไม่ต้องพึ่ง หรือคาดหวังผลประโยชน์ในระบบอุปถัมภ์จากนักการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป” นายสาธิตกล่าว

นายสาธิตกล่าวว่า อาจมีคนไม่เห็นด้วยในแง่ความสัมพันธ์ และประเพณีวัฒนธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกับประชาชน แต่จำเป็นต้องเลือกเส้นทางที่ต้องแก้ไขปัญหาทางการเมืองให้ได้ ไม่ให้เสียของ โดยต้องควบคู่กับการกำหนดโทษอย่างรุนแรง ของการทุจริตคอร์รัปชั่นของนักการเมือง และการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นและจริงจังก็จะเปิดโอกาสให้ผู้มีจิตอาสาจากภาคประชาชน เข้ามาตรวจสอบนักการเมือง และได้คนที่ไม่ต้องรวย ไม่ต้องเป็นทายาทนักการเมืองเดิมๆ เข้ามาสู่วงการการเมือง ทำให้ประชาชนได้มีตัวเลือกมากขึ้น และเกิดการแข่งขันภายในกติกาอย่างเป็นระบบ ภายใต้ระบบพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง รัฐก็มีหน้าที่สนับสนุนงบประมาณ พร้อมทั้งเงินบริจาคจากสมาชิกพรรคหรือประชาชนการเมืองก็จะเข้มแข็งพัฒนาเดินหน้าตามระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้

“หากจะปฏิรูปประเทศกันอย่างจริงจัง นายกรัฐมนตรี ประธาน กรธ. และประธานทั้งสองสภาก็ควรทำหน้าที่สร้างจิตสำนึกของคนในชาติให้เข้าใจเรื่องการเมืองที่ถูกต้อง ร่างกติกาให้เป็นธรรม และมีเป้าหมายชัดเจน พร้อมทั้งบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามที่ได้กำหนดไว้อย่างเด็ดขาด” นายสาธิตระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น