“คนไทยพีบีเอส” กลุ่มหนึ่งฮึดสู้แทน “สมชัย สุวรรณบรรณ” อดีตผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ยื่นจดหมายถึง “ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ” ประธานบอร์ดฯ ขอให้ชี้แจงมติเลิกจ้างผู้อำนวยการ ด้าน “ณรงค์” ระบุสั้นๆ เป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องกันมา 30 ปี ไม่มีอะไรเป็นเรื่องส่วนตัว ด้าน “สมชัย” ยังไม่ไปศาลปกครองขอความเป็นธรรม เข้าแจงกรรมการสอบสวนปมจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์โครงข่าวทีวีดิจิตอลมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท ปูดบอร์ดใหญ่เริ่มกระบวนการสรรหา ผอ.คนใหม่แทนแล้ว ทิ้งบอมบ์ “คนมาใหม่อาจทำงานตามมาตรฐานบางอย่างที่น่ากังวลใจ” น้ำตาคลอตื้นตันพนักงานไทยพีบีเอสมอบดอกไม้ให้กำลังใจ ด้านบอร์ดใหญ่ออกแถลงการณ์ยันปราศจากการแทรกแซงจากภายนอก
วันนี้ (12 ต.ค.) มีรายงานว่า เว็บไซต์ thaipbs เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 13.00 น. พนักงานองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) กลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกันยื่นจดหมายถึงนายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ ประธานคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.เพื่อเรียกร้องในชี้แจงกรณีการเลิกจ้างผู้อำนวยการ ส.ส.ท.และคณะกรรมการบริหาร ตามมติเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2558 เนื่องจากพนักงานเห็นว่ามติดังกล่าวทำให้เกิดความสับสนในองค์กรและกระทบต่อภาพลักษณ์ของ ส.ส.ท.ในการทำหน้าที่สื่อสาธารณะ
ข้อความในจดหมายระบุว่า “ตามที่กรรมการนโยบายมีมติเลิกจ้างผู้อำนวยการ ส.ส.ท.และกรรมการบริหาร เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2558 ก่อนครบวาระ ทำให้เกิดความสับสนและความไม่มั่นใจในการทำงานของพนักงาน อีกทั้งยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ของ ส.ส.ท.ต่อการทำหน้าที่สื่อสาธารณะในสังคมไทย จึงขอให้ประธานกรรมการนโยบายและกรรมการนโยบายทุกท่าน มาชี้แจงเหตุผลและตอบคำถามกับพนักงานเกี่ยวกับกรณีการเลิกจ้างผู้อำนวยการ ส.ส.ท.และคณะภายในวันนี้ (12 ต.ค.)”
หลังจากรับจดหมายจากพนักงานแล้ว นายณรงค์ได้กล่าวกับพนักงานเพียงสั้นๆ ว่า “ผมกับ ผอ. (สมชัย) เป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องกันมา 30 ปี ไม่มีอะไรเป็นเรื่องส่วนตัว” จากนั้นนายณรงค์ได้หยุดพูดและเดินกลับเข้าห้องประชุมทันที
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.มีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2558 ให้เลิกสัญญาจ้างนายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. โดยชี้แจงว่า ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.ได้กระทำผิดสัญญาจ้างเรื่องการปฏิบัติงานตามแผนงานที่ได้รับความเห็นชอบให้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนด และการจัดทำรายงานแสดงผลการปฏิบัติงานเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายทุกสามเดือน
“นอกจากนั้นยังไม่ปฏิบัติตามระเบียบของ ส.ส.ท. และมติของคณะกรรมการนโยบาย ทั้งยังไม่สามารถกำกับ ดูแล และติดตามให้ฝ่ายบริหารปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ขององค์การอย่างมีสัมฤทธิผล เพื่อพร้อมรับการแข่งขันและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
อนึ่ง การเลิกจ้างผู้อำนวยการ ส.ส.ท.ครั้งนี้ มีผลให้ผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ ส.ส.ท.พ้นจากตำแหน่งตามวาระของผู้อำนวยการด้วย ส่วนคณะกรรมการบริหารทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งทันที ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายได้แต่งตั้ง นางพวงรัตน์ สองเมือง ผู้อำนวยการสำนักรายการ ให้รักษาการผู้อำนวยการ ส.ส.ท. จนกว่าการดำเนินการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท.คนใหม่จะแล้วเสร็จ” คณะกรรมการนโยบายระบุในเอกสาร
เว็บไซต์ thaipbs ระบุด้วยว่า นายสมชัยได้เดินทางมาที่ไทยพีบีเอสวันนี้เพื่อเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการอนุมัติโครงการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์โครงข่าวทีวีดิจิตอลที่มีมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท ซึ่งนายสมชัยระบุว่าเป็นประเด็นหนึ่งที่คณะกรรมการนโยบายใช้เป็นเหตุผลในการเลิกจ้าง
ขณะที่มีรายงานว่า นายสมชัยไม่ได้เดินทางไปยื่นขอความเป็นธรรมที่ศาลปกครองกลาง หลังจากที่สัปดาห์ที่ผ่านมาระบุว่าจะเดินทางไปยื่น
นายสมชัยกล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ตั้งโดยคณะกรรมการนโยบายมาประมาณ 1 เดือนกว่าแล้ว และได้ส่งหนังสือให้ตนมาชี้แจงในวันนี้ (12 ต.ค.) นอกจากนี้ อดีต ผอ.ไทยพีบีเอสยังได้กล่าวถึงกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท.คนใหม่ว่า ผู้ที่จะลงสมัครเข้ารับการสรรหาอาจจะไม่แน่ใจว่าจะมาทำงานในบรรยากาศแบบนี้ได้หรือเปล่า “เพราะกรณีนี้เป็นการวางมาตรฐานบางอย่างที่น่ากังวลใจ”
ก่อนหน้านี้นายณรงค์เปิดเผยว่าได้เริ่มกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการคนใหม่แทนนายสมชัยแล้ว
เว็บไซต์ thaipbs ระบุด้วยว่า ต่อมาเมื่อเวลา 14.14 น. คณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.ได้เผยแพร่เอกสารชี้แจงถึงพนักงานซึ่งเป็นฉบับที่ 2 ระบุว่า
“คณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.ขอชี้แจงว่าเป็นการกระทำตามอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายตามพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 โดยปราศจากการแทรกแซงจากภายนอก เหตุที่ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพราะวันที่ 9 ต.ค.2558 เป็นวันที่ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.ทำงานตามสัญญาจ้างครบ 3 ปี และจะต้องถูกประเมินซึ่งทางคณะกรรมการนโยบาย ได้ดำเนินกระบวนการประเมินอย่างละเอียดรอบคอบมาตั้งแต่เมื่อ 2 ต.ค. 2558 โดยมอบหมายให้ผู้แทนแจ้งผลการประเมินเบื้องต้นแก่ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ในเช้าของวันที่ 9 ต.ค. พร้อมทั้งเสนอทางเลือกในการตัดสินใจระหว่างการลาออกกับการประเมินไม่ผ่าน ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.แจ้งแก่ผู้แทนคณะกรรมการนโยบายว่าเลือกไม่ลาออก อย่างไรก็ตาม นอกจากการประเมินไม่ผ่านแล้ว ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.ยังได้กระทำผิดสัญญาจ้างอีกด้วย
กระบวนการประเมินผู้อำนวยการ ส.ส.ท.เป็นการประเมินตามสัญญาจ้างและเอกสารแนบท้ายสัญญาซึ่งเป็นการตกลงร่วมกันระหว่าง ส.ส.ท. ในฐานะผู้จ้างกับผู้อำนวยการ ส.ส.ท.ในฐานะผู้รับจ้าง โดยมุ่งประเมินความสามารถด้านการบริหารจัดการ (Management Competency) รวม 6 หัวข้อสำคัญ ได้แก่ การบริหารงานเชิงกลยุทธ์ การแก้ปัญหาและการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ความสามารถในการสื่อสาร ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การบริหารความเปลี่ยนแปลง คุณธรรม จริยธรรมแลธรรมาภิบาล โดยมีเป้าหมายการประเมินที่ระดับดีถึงดีเด่น ซึ่งปรากฏว่าคณะกรรมการนโยบายมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าผู้อำนวยการ ส.ส.ท.มีผลการปฏิบัติต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
อนึ่ง การดำเนินการทั้งหมดนี้ คณะกรรมการนโยบายมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาองค์กรแห่งนี้ให้ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า โปร่งใสและมีธรรมาภิบาล ตามเจตนารมณ์ของสื่อสาธารณะอย่างแท้จริง และกำลังอยู่ในกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท.คนใหม่ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติฯ ต่อไป”
เวลา 17.30 น. มีรายงานว่า นายสมชัยได้เดินทางกลับ หลังไม่ได้ชี้แจงคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงประเด็นการจัดซื้อทีวีดิจิตอล 50 ล้านบาท เนื่องจากเหตุผลองค์ประชุมคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงมาไม่ครบ