xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ตรวจฯ แจงผลงานปี 58 ตำรวจ อปท.แชมป์ร้องเรียน เตรียมถก กรธ.ชงเพิ่มอำนาจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศรีราชา วงศารยางกูร (แฟ้มภาพ)
“ผู้ตรวจฯ” แถลงผลงานปี 58 เผย “ตำรวจ-อปท.” ครองแชมป์ร้องเรียน ขณะเดียวกันเเตรียมพบ กรธ.ชงขอเพิ่มอำนาจ ตรวจสอบหน่วยงานรัฐ-จัดสรรงบ 1% ให้องค์กรตรวจสอบทั้งหมดเพื่อความเป็นอิสระ เชื่อชุดใหม่รับฟังมากกว่าชุดที่แล้ว

ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน วันนี้ (12 ต.ค.) นายศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย พล.อ.วิทวัส รชตะนันท์ และนายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมกันแถลงผลงานประจำปี 2558 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2557 ถึงวันที่ 31 ก.ย. 2558 ภายใต้การเสวนา เรื่อง “ผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อประชาชน” โดยในปี 2558 ผู้ตรวจการแผ่นดินมีเรื่องร้องเรียนทั้งหมด 2,906 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 1,256 เรื่อง อยู่ระหว่างการดำเนินการ 1,650 เรื่อง โดยสถิติประเด็นที่มีการร้องเรียนสูงสุดคือประเด็นเกี่ยวกับตำรวจ ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รองลงมาคือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งการดำเนินการล่าช้าของหน่วยงานรัฐต่างๆ โด

นายศรีราชากล่าวว่า ภารกิจของผู้ตรวจการแผ่นดินนั้นนอกจากจะแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้ว ผู้ตรวจการแผ่นดินยังดำเนินการเกี่ยวกับจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงการส่งเสริมและกระตุ้นคุณธรรม จริยธรรมในทุกภาคส่วน โดยติดตามประเมินผลและจัดทำข้อเสนอในการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ โดยที่ผ่านมามีการดำเนินการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนหลายเรื่อง และยังมีเรื่องที่สำคัญที่กำลังตรวจสอบ คือ กรณีการคืนท่อก๊าซของ ปตท. ที่ผู้ตรวจการเห็นว่า ปตท.ยังคืนไม่หมด จึงจะขอให้ศาลปกครองเพิกถอนคำสั่งในคดีดังกล่าว เพราะเห็นว่าหาก ปตท.คืนท่อก๊าชทั้งหมดรวมทั้งค่าเช่าท่อก๊าซก็จะทำให้ประเทศมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นประมาณแสนล้านบาท

นอกจากนั้น ขณะนี้ทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินยังได้เสนอกรอบนโยบายการปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ และร่างกฎหมายประกอบอีก 14 ฉบับ เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้พิจารณาในเร็วๆ นี้ และจะเสนอโมเดลการจัดการบุคลากรทางการศึกษาแบบเกาหลีใต้ เพื่อให้เกิดการปฏิรูปการศึกษาอย่างจริงจัง รวมถึงจะผลักดันกฎหมายให้ประชาชนที่มาแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองและระบบที่ดิน

ภายหลังการแถลงข่าว นายศรีราชา พล.อ.วิทวัส และนายบูรณ์ ร่วมกันเปิดตัวรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยรถดังกล่าวจะเข้าไปรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่และให้กับคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยผู้ตรวจการแผ่นดินมีการกำหนดนำรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่เข้าร่วมโครงการพระราชทานความช่วยเหลือร่วมกับสำนักงานราชเลขาธิการในวันที่ 14 ต.ค.นี้ ที่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม และวันที่ 15 ต.ค.นี้ ที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม มีนายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรีเป็นประธานในพิธี

ด้านนายศรีราชาให้สัมกาษณ์เพิ่มเติมว่า ได้รับคำเชิญจากนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินไปหารือในวันที่ 15 ต.ค.เวลา 16.00 น. ซึ่งคงได้มีการพูดคุยกันถึงปัญหาอุปสรรคในการทำงานขององค์กร โดยผู้ตรวจก็จะได้ยืนยันว่าไม่ขอควบรวมกับองค์กรอื่น รวมทั้งให้คงอำนาจเดิมตามรัฐธรรมนูญปี 50 ไว้ เฉพาะอย่างยิ่งอำนาจตามมาตรา 13 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน 2552 ที่ให้ผู้ตรวจฯ สามารถหยิบยกเรื่องขึ้นพิจารณาได้เองโดยไม่ต้องมีผู้ร้องถ้ากรณีดังกล่าวมีผลกระทบต่อประชาชน และให้คงอำนาจในการเรียกเอกสารหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ในกรณีมีการสอบสวนตามที่มีการร้องเรียน หากหน่วยงานไม่ดำเนินการก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ตามมาตรา 15 ประกอบมาตรา 45 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน 2552 รวมถึงในเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม ที่ผู้ตรวจได้ดำเนินการมาตลอดควรได้สานงานต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอำนาจหน้าที่ที่อยากขอให้กรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาเพิ่มให้กับผู้ตรวจการแผ่นดินคือในกรณีผู้ตรวจฯ มีข้อเสนอให้หน่วยงานแล้ว ไม่มีการดำเนินการภายใน 90 วันโดยไม่แจ้งเหตุผล ให้ถือว่าหน่วยงานนั้นมีความผิดวินัยร้ายแรง รวมทั้งให้ผู้ตรวจมีอำนาจในการฟ้องคดีแพ่งแทนประชาชน และเป็นหน่วยงานรับปรึกษาปัญหาข้อกฎหมายให้แก่ประชาชน นอกจากนี้จะหารือถึงความเป็นไปได้ในการให้รัฐจัดสรรงบประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณแผ่นดินทั้งหมดให้แก่องค์กรอิสระ รวมทั้งศาลที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารงานของรัฐ เพื่อให้เกิดความเป็นอิสระในการตรวจสอบอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมาการจัดสรรงบประมาณอยู่ภายใต้สำนักงบประมาณซึ่งเป็นหน่วยงานที่ผู้ตรวจฯ สามารถตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ทำให้ย่อมไม่อยากพิจารณางบประมาณให้เราเติบโต

“ผมเชื่อในความสามารถของท่านมีชัย เพราะเป็นผู้มีประสบการณ์ มีความคิดลุ่มลึก รอบคอบ มีประสบการณ์ในเรื่องการยกร่างฯ มามาก คิดว่าไม่มีปัญหา การที่ท่านเชิญเราไปชี้แจงก่อนแสดงว่าอยากรับฟังเราไม่เหมือนกับชุดที่แล้วที่ยังมีการเสนอให้ควบรวม เป็นความคิดที่ไม่มีเหตุผล ถือว่าเจตนาไม่ดีต่อองค์กรเรา จึงเชื่อว่ากรรมการยกร่างฯ ชุดนี้จะรับฟังมากกว่าชุดที่แล้ว”


กำลังโหลดความคิดเห็น