ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยปีหน้าวางแนวทางตอบสนองการร้องเรียนให้รวดเร็วกว่าเดิม พร้อมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมให้เด็กนักเรียน นักศึกษา นำร่อง 1 พันโรงเรียน เล็งฝาก “มีชัย” ผลักดัน และโครงร่างการปฏิรูปการศึกษา ย้ำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ อำนาจยังเหมือนเดิม
วันนี้ (30 ธ.ค.) นายศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงแนวทางการทำงานของผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าได้วางแนวทางไว้เกี่ยวกับการตอบสนองการร้องเรียนซึ่งกำลังปรับปรุงระบบการทำงาน คาดว่าปี 2559 ก็จะสามารถทำเรื่องร้องเรียนได้รวดเร็วกว่าเดิม คาดว่าเรื่องง่ายๆ 3 เดือนน่าจะเสร็จ ส่วนเรื่องที่ยากขึ้นไปก็ไม่น่าจะเกิน 6 เดือน ทั้งนี้ เรื่องร้องเรียนที่ค้างอยู่ก็กำลังดำเนินการให้เร็วที่สุด และเรากำลังจะดำเนินการอยู่ตอนนี้ คือ การส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะประเทศเราในขณะนี้ติดกับเกี่ยวกับการทุจริตจำนวนมาก หากเราไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ ประเทศเราก็จะย่ำแย่ตลอดไป
นายศรีราชากล่าวอีกว่า ตนมีโครงการที่หวังผลระยะยาว คือ โครงการที่จะทำให้เด็กนักเรียน นักศึกษามีคุณธรรม จริยธรรม โดยที่เราจะทำเป็นโครงการพิเศษ ซึ่งขณะนี้มีพียง 1,000 โรงเรียน จาก 30,000 กว่าโรงเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ ทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอไปยัง นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่าอยากจะประสานงานเรื่องนี้ต่อ หากเราไม่ได้ทำ หรือมีองค์กรอื่นเอาไปทำแล้วเขาไม่จริงจังก็จะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังตลอดไป อีกเรื่องที่จะทำ คือ เสนอโครงร่างการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งขณะนี้กำลังร่างอยู่คาดว่าจะเสร็จภายในเดือน ม.ค. 59 โดยจะเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี คณะขับเคลื่อนการปฏิรูปแห่งชาติ
นายศรีราชายังกล่าวว่า อีกเรื่องที่กำลังดำเนินการอยู่ คือเรื่องแผ่นดินไทย และขณะนี้ก็กำลังร่าง พ.ร.บ.แนวนโยบายผังเมืองและการใช้ประโยชน์ในที่ดินของประเทศ เนื่องจากเวลานี้แผ่นดินไทยโดนเอาไปทำแบบไร้ระเบียบและไร้ระบบ เราต้องการที่จะรักษาระบบนิเวศไว้ให้ได้ แล้วประชาชนอยู่ ต้องดูตั้งแต่ป่าต้นน้ำ และมีปัญหาที่ชาวต่างชาติเข้ามากวาดซื้อที่ดินในประเทศไทย เราไม่มีกฎหมายรับรองกฎหมายที่เขาเข้ามาซื้อที่ดินแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมันจะเป็นปัญหาทั้งนี้เราเคยเสนอให้เอาผิดกับตัวแทนที่เข้ามาซื้อ หรือนอมินีนั้น ขณะนี้ร่างดังกล่าวอยู่ในสภานิติบัญญัติไม่ทราบว่าจะออกมาตอนไหน
“สำหรับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ได้มีโอกาสได้คุยกับนายมีชัยและได้บอกว่าอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินก็ยังเหมือนเดิม ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 เป็นหลัก ส่วนอำนาจอื่นอาจจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะอยู่ในผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ แต่นายมีชัยก็บอกทิ้งท้ายไว้ว่า อยากให้องค์กรที่ตรวจสอบคุณธรรม จริยธรรมของอำนาจรัฐช่วยกันทำงาน แต่เราก็บอกไปว่าเป็นเรื่องดี แต่อยากให้ไว้วางใจองค์กรเรา เนื่องจากเราทำงานมามากแล้วในระดับหนึ่ง เราจึงอยากเป็นหัวหน้าทีม หรือตัวผู้ประสานงานหลักที่จะได้ทำเรื่องที่ค้างไว้ให้จบ ซึ่งหากหน่วยงานอื่นเข้ามาดำเนินการก็จะต้องเริ่มต้นใหม่ หากไม่ได้จริงๆ ก็ต้องแล้วแต่ทาง กรธ.” นายศรีราชากล่าว