นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการร่างรัฐธรรมนูญ ของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้ยึดรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 เป็นตัวตั้งในการร่างรัฐธรรมนูญ โดยดูจากการไล่เลขมาตราที่ไม่ได้ยึดจากร่างเดิมของ นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แต่อย่างใด จึงเชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากรัฐธรรมนูญ ปี 2550 เว้นแต่ เรื่องการเลือกตั้ง และ กลไกที่จะออกฎหมายลูก ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง ตนมองว่า กรธ. เดินมาถูกทางแล้ว เพราะการยึดรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 และ 2550 เป็นตัวตั้ง ถือเป็นเรื่องดี แต่ยังไม่เห็นความชัดเจนมากนักเพราะเพิ่งเริ่มต้น และยังพิจารณาไม่ถึงมาตราที่มีปัญหา
นายอรรถวิชช์ กล่าวอีกว่า นักกฎหมายจะทราบดีว่าทุกถ้อยคำในกฎหมายเดิมปี 40 และ 50 จะมีคำพิพากษาที่ศาลตัดสินไว้แล้ว เพื่อใช้เป็นตัวตีความกรณีต่างๆ ซึ่งอาจารย์มีชัยนำของเดิมมา ซึ่งมีคำพิพากษาในอดีตเป็นตัวช่วยตีความ ดูการเรียงร้อยมาตราของอาจารย์มีชัยแล้ว ผมถือว่าไปได้ดี และเชื่อในฝีมือ แต่ต้องดูกันต่อไป เพราะระเบิดลูกสำคัญยังไม่ได้หยิบมาหารือกัน
เมื่อถามถึงข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญเดิมว่าเป็นเรื่องใด นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ครั้งที่แล้วจุดที่ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน คือ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) ที่มีอำนาจคล้ายมาตรา 44 เพียงแต่ไม่มีอำนาจเหนืออย่างเดียวคือ อำนาจศาล แต่มีอำนาจเหนือทั้ง ครม.และ รัฐสภา ซึ่งแบบนี้ถือว่าน่ากลัวเพราะไม่ใช่หลักประชาธิปไตย และไม่เป็นที่ยอมรับของสากล เพราะครึ่งหนึ่งของ คปป. เป็นของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทุกอย่างถูกเปลี่ยนแปลงได้โดยรัฐบาล ซึ่งหากถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดก็จะเป็นอันตรายได้ เพราะไม่มีกลไกจะตรวจสอบรัฐบาลได้เลย
นายอรรถวิชช์ กล่าวอีกว่า นักกฎหมายจะทราบดีว่าทุกถ้อยคำในกฎหมายเดิมปี 40 และ 50 จะมีคำพิพากษาที่ศาลตัดสินไว้แล้ว เพื่อใช้เป็นตัวตีความกรณีต่างๆ ซึ่งอาจารย์มีชัยนำของเดิมมา ซึ่งมีคำพิพากษาในอดีตเป็นตัวช่วยตีความ ดูการเรียงร้อยมาตราของอาจารย์มีชัยแล้ว ผมถือว่าไปได้ดี และเชื่อในฝีมือ แต่ต้องดูกันต่อไป เพราะระเบิดลูกสำคัญยังไม่ได้หยิบมาหารือกัน
เมื่อถามถึงข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญเดิมว่าเป็นเรื่องใด นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ครั้งที่แล้วจุดที่ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน คือ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) ที่มีอำนาจคล้ายมาตรา 44 เพียงแต่ไม่มีอำนาจเหนืออย่างเดียวคือ อำนาจศาล แต่มีอำนาจเหนือทั้ง ครม.และ รัฐสภา ซึ่งแบบนี้ถือว่าน่ากลัวเพราะไม่ใช่หลักประชาธิปไตย และไม่เป็นที่ยอมรับของสากล เพราะครึ่งหนึ่งของ คปป. เป็นของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทุกอย่างถูกเปลี่ยนแปลงได้โดยรัฐบาล ซึ่งหากถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดก็จะเป็นอันตรายได้ เพราะไม่มีกลไกจะตรวจสอบรัฐบาลได้เลย
