บีบีซี เปิดหน้าข่าวภาษาไทยบนเฟซบุ๊ก เมื่อ วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 หลังจากยุติการออกอากาศ ทางสถานีวิทยุบีบีซี ภาษาไทย ไปตั้งแต่ พ.ศ. 2549
การรื้อฟื้นการรายงานข่าวภาษาไทยขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้เพียงเดือนกว่า และมีการควบคุมสื่อสารมวลชนในประเทศอย่างเข้มงวด ทำให้การเปิดตัวของบีบีซีไทยถูกตั้งคำถามว่าต้องการทำหน้าที่สื่อที่รายงานข่าวอย่างตรงไปตรงมาหรือมีวาระซ่อนเร้นอื่นแอบแฝงอยู่หรือไม่
ใช้เวลาไม่นาน การรายงานข่าวของบีบีซีไทย ซึ่งมีทั้งข่าวต่างประเทศที่แปลมาจากบีบีซี ภาคภาษาอังกฤษและข่าวที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ในส่วนข่าวในประเทศไทย โดยเฉพาะข่าวการเมือง ก็แสดงตัวชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ให้กับผู้ต่อต้าน คสช. ได้แสดงออกซึ่งความเห็นที่แตกต่าง
บีบีซี ไทย ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านรัฐประหารอย่างออกหน้าออกตา และบ่อยครั้งก็เลือกจับประเด็นข่าวที่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของรัฐบาลในทางลบมานำเสนอ ตัวอย่างเช่น กรณีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่าที่พยายามชักนำให้เข้าใจว่าเป็นการจับแพะ กรณีโรฮิงญา - อุยกูร์ที่วาดภาพรัฐบาลไทยว่าไร้มนุยธรรม ละเมิดกติกาสากล ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม การนำเสนอข่าวในมุมมองที่แตกต่างหรือจากจุดยืนที่อยู่ตรงกันข้ามกับรัฐบาลเป็นเรื่องธรรมดาของสื่อในสงครามข้อมูลข่าวสาร คำว่าความเป็นกลางเป็นเพียงคำพูดเท่านั้น การรายงานข่าวของบีบีซี ไทย อาจจะมีทั้งผู้ที่ชอบและผู้ที่ไม่เห็นด้วย ขึ้นอยู่กับฝักฝ่ายในทางการเมืองของแต่ละคน ตราบใดที่ การรายงานข่าวนั้น อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง
แต่บทความเรื่อง “การประชุมยูเอ็นเริ่มจากในบ้าน” โดย Outside contributor ของบีบีซี ไทย เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2558 เป็นเรื่อง “แต่ง” ที่บีบีซีไทย ยินยอมให้เผยแพร่ภายใต้ชื่อบีบีซี โดยไม่แม้แต่จะใช้วิจารณญาณขั้นพื้นฐานไตร่ตรองดูว่าเนื้อหาในบทความนั้นที่กล่าวหาว่าเจ้าหน้าทีไทยจัดฉากให้นายบารัก โอบามา มาจับมือกับพลอเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในระหว่างการประชุมขององค์การสหประชาชาติ โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามไม่ให้ถ่ายรูป รูปที่ออกมานั้นเป็นรูปถ่ายจากมือถือ โดยผู้ติดตามนายกรัฐมนตรี ในชีวิตจริงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้หรือไม่
บีบีซีไทย แก้ตัวว่าก่อนเผยแพร่ได้ตรวจสอบกับผู้เขียนแล้วว่า ข้อมูลดังกล่าวได้ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง และเป็นข้อมูลที่ควรค่าแก่การนำเสนอต่อสังคมไทย ถ้าเป็นเช่นนั้นก็แสดงว่าผู้ตัดสินใจว่า ให้เผยแพร่ข่าวนี้ได้มีปัญหาในเรื่อง การใช้ดุลพินิจเบื้องต้นว่า ข่าวไหนจริง ข่าวไหนเท็จ
ทำไมผู้นำมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกจะต้องมายอมจับมือกับผู้นำไทยที่มาจากการรัฐประหาร โดยไม่ยินยอมพร้อมใจ และในเมื่อมีข้อตกลงว่า ห้ามถ่ายรูป ทำไมผู้ติดตามโอบามา ซึ่งเข้มงวด เคร่งครัดมาก จึงปล่อยให้ผู้ติดตามพลเอกประยุทธ์ ยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูป
เพียงสองเรื่องนี้ คนทั่ว ๆ ไปก็ใช้สามัญสำนึกไตร่ตรองได้ว่าข้อมูลดังกล่าวได้มาด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง เป็นการนั่งเทียนเขียนข่าวหรือที่ภาษานักข่าวเรียกว่า “เต้าข่าว” นั่นเอง และน่าสงสัยว่าการใช้ชื่อผู้เขียนว่า “Outside contributor” เป็นเจตนาที่จะอำพรางตัว “Inside contributor” หรือไม่
มติชนออนไลน์ซึ่ง “งับ” ข่าวชิ้นนี้ของบีบีซีไทยไปเผยแพร่ต่อทันทีหลังจากรับทราบข้อมูลจาก พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองนายกรัฐมนตรีว่า นายโอบามาเดินมาจับมือกับพลเอกประยุทธ์เอง ไม่ใช่การจัดฉาก และไม่ได้ห้ามถ่ายรูป ต้องลงข่าว “ ขอชี้แจงและขออภัยในความผดพลาดที่เกิดขึ้น” และถอดข่าวที่ลอกมาจากบีบีซีไทย ออกจากเว็บไซต์ทันที
บีบีซีไทย ยังคงข่าวนี้ไว้ แต่ตัดเนื้อความในส่วนที่นั่งเทียนเขียนเอาเองว่ามีการจัดฉากทิ้ง แต่บีบีซีไทย ไม่กล้าพอที่จะยอมรับว่านำข่าวที่เป็นเรื่องแต่งมาใส่ร้ายนายกรัฐมนตรีไทย กลับบิดเบือนประเด็น อ้างถึงความจำเป็นที่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อผู้เขียนได้
การปกปิดชื่อผู้เขียน เป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้และมีการปฏิบัติกันอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าในกรณีของบีบีซีอาจจะเป็นครั้งแรกที่ยอมให้ “คนนอก” (Outside Contributor) ซึ่งมีความเป็นได้สูงว่าคือ “คนใน” นำข้อมูลที่เห็นได้ชัดว่าเป็นเท็จ เผยแพร่ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ของตนแต่บีบีซี ไทยไม่ยอมพูดถึง การนำเสนอข่าวที่พิสูจน์ได้แล้วว่าบิดเบือนและจงใจใส่ร้ายผู้นำไทย และไม่ยอมรับผิดแต่อย่างใด
ลิเลียน แลนเดอร์ หัวหน้าฝ่ายภาษาต่างประเทศของบีบีซี เวิลด์ แถลงผ่านหน้าเพจบีบีซีไทย ในวันแรกที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการว่า บีบีซีจะนำเสนอข่าว ด้วยหลักการพื้นฐาน อย่างถูกต้อง และเป็นกลางเพื่อนำเสนอข่าวสารที่เชื่อถือได้ให้กับคนที่อยู่ภายในประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในสังคมดิจิตอลมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งการดำเนินการผ่านช่องทางนี้มีความรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ตลอดระยะเวลา หนึ่งปีเศษ ที่บีบีซีไทย เปิดหน้าข่าวขึ้นมา จนถึงวันที่ถูกจับได้คาหนังคาเขาว่า นั่งเทียนเขียนข่าว การนำเสนอข่าวของบีบีซีตรงกันข้ามกับคำพูดสวยๆ ของหัวหน้าฝ่ายต่างประเทศของบีบีซีเวิลด์ กล่าวคือเป็นการเสนอข่าวที่อยู่บนพื้นฐานของการเลือกข้าง มีอคติและบิดเบือน