“ไกรสร” ประชุม ศปมผ.ครั้้งสุดท้ายก่อนส่งต่อ ผบ.ทร.ใหม่ รับงานเกือบถึงปลายทางและจะเรียบร้อย เผยติดตามภาพรวมผู้แทนไทยไปพบ EU พร้อมปรับแก้ตามคำแนะเพื่อรอ EU เดินทางมาไทยเดือนหน้า เตรียมเปลี่ยนบุคลากร ศปมผ.เกินครึ่ง เชื่องานไม่ชะงัก แก้กฎหมายเพิ่มโทษเรือต่างประเทศลอบทำประมง เตรียบงบฯ 59 รับรายงาน ศรชล.ผลตรวจเรือประมง
วันนี้ (24 ก.ย.) พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย หรือ ศปมผ. เป็นประธานการประชุม ศปมผ. ครั้งที่ 17 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน ศปมผ.เข้าร่วมประชุม เป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีงบประมาณ 2558 และ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ เตรียมส่งมอบภารกิจ ผบ.ศปมผ.แก่พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ เสนาธิการทหารเรือ ว่าที่ผู้บัญชาการทหารเรือ เนื่องจาก ผบ.ศปมผ.เป็นการแต่งตั้งโดยตำแหน่ง
พล.ร.อ.ไกรสรระบุว่า การประชุมวันนี้จะเป็นการติดตามภาพรวมภายหลังคณะผู้แทนไทยได้เดินทางไปพบหารือกับเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป หรืออียู ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และติดตามความคืบหน้างาน ศปผม.ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในฐานะ ผบ.ศปมผ.และ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ เสนาธิการทหาร จะรับหน้าที่ ผบ.ศปมผ.คนต่อไปตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี โดยเชื่อว่าทุกส่วนราชการจะให้ความร่วมมือเช่นที่ผ่านมา เพราะการทำงานขณะนี้เกือบมาถึงปลายทางแล้ว และดำเนินการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย โดยหลังจากนี้จะเป็นการปรับแก้ในเรื่องต่างๆ ตามคำแนะนำของทางเจ้าหน้าที่อียู เพื่อรอการเดินทางมาไทยของคณะอียูในช่วงวันที่ 12-23 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะเป็นหารือถึงการแก้ปัญหาต่างๆ ของไทยว่าได้ตอบโจทย์และเป็นที่พอใจของทางอียูหรือไม่ รวมถึงการพิจารณาเกี่ยวกับใบเหลืองของไทย
โดยหลังวันที่ 1 ตุลาคมนี้จะเป็นการปรับเปลี่ยนบุคลากรบางส่วนใน ศปมผ.ซึ่งกองทัพเรือยังปฏิบัติหน้าที่อยู่เกินครึ่ง ขณะที่ส่วนราชการอื่นๆ มีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงเพียงบางคนเท่านั้น และผู้ที่ขึ้นมารับตำแหน่งใหม่ก็เกาะติดการทำงานอยู่ใน ศปมผ.อยู่แล้ว จึงเชื่อมั่นว่าการทำงานจะต่อเนื่องและไม่น่ามีปัญหาที่จะทำให้งานชะงัก
ทั้งนี้ นอกจากการเตรียมรับคณะอียูแล้ว การประชุม ศปมผ.ครั้งที่ 17 ยังเป็นการติดตามความก้าวหน้าแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายจากการประชุมที่ผ่านมา โดยให้คณะทำงานกฎหมาย ศปมผ.ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มเติมบทลงโทษกรณีเรือประมงต่างชาติลักลอบเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย และรายงานความก้าวหน้าการจัดทำกฎหมายการประมงฉบับใหม่
นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมการด้านงบประมาณ และกำลังพลรองรับแผนปฏิบัติการของปีงบประมาณ 2559 พร้อมทั้งให้ฝ่ายกำลังพล สำนักงานเลขานุการ ศปมผ. ประสานคณะกรรมการพัฒนาการฝึกอาชีพทหารก่อนปลดเป็นกองหนุน เพื่อประกาศรับสมัครพลทหารที่จะปลดประจำการ ทำงานในเรือประมง โดยกำหนดค่าตอบแทนขั้นต่ำ 15,000 บาท
ที่ประชุมยังให้ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล.รายงานผลการตรวจเรือประมงในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะการปฏิบัติงานของศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้าออกเรือประมง หรือ PIPO ในการตรวจเรือที่ท่า รวมไปถึงการตรวจเรือในทะเลของหน่วยเรือ เกี่ยวกับจำนวนเรือที่ตรวจพบการกระทำความผิด และการลงโทษผู้กระทำความผิด