ผบ.ทร.ประชุม ศปมผ.แก้ปัญหาทำประมงผิดกฎหมาย มีมติลบข้อมูลเรือประมง 13,346 ลำที่ไม่มาแสดงตน กำหนดให้เปลี่ยนอวนลากตามคำสั่ง 90 วัน สิ้นสุด 6 พ.ย. ก่อนใช้กฎหมายเข้ม พร้อมยึดถือการคำนวณค่าจับสัตว์น้ำ สั่งประชาสัมพันธ์รื้อถอนโพงพางเครื่องที่ใกล้เคียง
วันนี้ (7 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการประชุมศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ครั้งที่ 14 ที่มี พล.ร.อ ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะ ผบ.ศปมผ.เป็นประธานในการประชุมเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาตามข้อสังเกตในการตรวจเยี่ยมของคณะสหภาพยุโรป (อียู) โดยมีผู้แทนส่วนราชการใน ศปมผ. รวมถึงผู้แทนจากสมาคมประมงต่างๆ เช่น สมาคมประมงแห่งประเทศไทย สมาคมประมงนอกน่านน้ำไทย สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย สมาคมรักษ์ทะเลไทย กลุ่มอนุรักษ์ประมงพื้นบ้านอ่าวไทยตอนบน กลุ่มประมงพื้นบ้านเข้าร่วมการประชุมนั้น ที่ประชุมมีมติให้กรมเจ้าท่าลบข้อมูลจำนวนเรือประมง จำนวน 13,346 ลำที่ไม่ได้มาแสดงตนที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก (PIPO) ตามที่ได้มีการประกาศแจ้งเตือนไปแล้วออกจากฐานข้อมูลทะเบียนเรือ รวมถึงการขยายขนาดตาอวนของเครื่องมืออวนลากให้มีช่องตาอวนก้นถุงมากกว่า 5 ซม. ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 24/2558 เรื่องการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุมเพิ่มเติม ลงวันที่ 5 ส.ค. 58 ข้อ 2 (5) นั้น กำหนดระยะเวลาให้เรือประมงต่างๆ ดำเนินการปรับเปลี่ยนอวนลากให้เป็นไปตามคำสั่งให้เสร็จสิ้นภายใน 90 วัน คือวันที่ 6 พ.ย. 58 หลังจากนั้นจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งให้ยึดถือผลการคำนวณค่าจับสัตว์น้ำสูงสุดอย่างยั่งยืน (MSY) ตามมติที่ประชุม โดยกำหนดแนวทางลดแรงประมง ดังนี้
1. ยกเลิกเครื่องมืออวนลากและอวนรุน ที่ไม่มีอาชญาบัตร หรือมีอาชญาบัตรไม่ถูกต้องทั้งหมด รวมถึงยกเลิกเครื่องมือการประมงอื่นที่มีอาชญาบัตร หรือใบอนุญาตใช้เครื่องมือทำประมงไม่ถูกต้องทั้งหมด 2. เรืออวนรุนที่มีอาชญาบัตรถูกต้องอยู่เดิม จำนวนตามสำรวจ 320 ลำ ขณะนี้มีคำสั่งห้ามใช้แล้ว สามารถเปลี่ยนมาเป็นอวนรุนเคย หรืออวนลากเดี่ยวแผ่นตะเฆ่ได้ 3. ให้ลดจำนวนวันทำการประมงของเรืออวนลาก 5 วันต่อเดือน 4. ให้ลดจำนวนวันทำการประมงของเรืออวนล้อม ด้านอ่าวไทย 8 วันต่อเดือน และด้านอันดามัน 5 วันต่อเดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ศปมผ.ยังสั่งการให้กรมประมงร่วมกับศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เขต 1-3 ในการประชาสัมพันธ์ให้ชาวประมงในพื้นที่เป็นเจ้าของ หรือทำประมงโดยใช้โพงพาง และเครื่องมืออื่นที่มีลักษณะ และวิธีการคล้ายคลึงกัน ให้ทำการรื้อถอนโพงพางและเครื่องมือดังกล่าว
ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 24/2558 เรื่องการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม เพิ่มเติม ลง 5 สิงหาคม 2558 ข้อ 2 (2) โดยให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 13 ส.ค. 2558 หลังจากนั้นให้กรมประมงบูรณาการร่วมกับกรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการรื้อถอนโพงพาง และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยให้ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขตกำกับดูแลการปฏิบัติ และสนับสนุนการปฏิบัติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ทาง ผบ.ศปมผ.ได้เรื่องสั่งการให้กรมประมงร่วมหารือกับสมาคมการประมงต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับเขตทำการประมง ประเภทขนาด และจำนวนของเครื่องมือประมงที่เหมาะสมตามพื้นที่ต่างๆ โดยให้รายงานความก้าวหน้าในการประชุมครั้งต่อไป พร้อมทั้งให้กรมประมงคำนวณจำนวนวันทำการประมงที่เหมาะสมเพื่อลดแรงประมง กรณีเรือประมงอวนรุน ยกเว้นอวนรุนเคยที่มีอาชญาบัตรถูกต้อง และต้องปรับเปลี่ยนเครื่องมือเป็นอวนลากเดี่ยวแผ่นตะเฆ่ โดยชี้แจงในที่ประชุมครั้งต่อไป และให้ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลสรุปผลการตรวจเรือประมงในทะเลที่ผ่านมาให้ที่ประชุมได้รับทราบในการประชุมครั้งต่อไป