xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลพลิ้ว!ไม่ทิ้งเรือดำน้ำ บิ๊กป้อมยันซื้อต่อ ทร.อ้างดูแลผลประโยชน์24ล้านล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน- “บิ๊กป้อม” ยันยังไม่เลิกโครงการซื้อเรือดำน้ำ แค่ให้กองทัพเรือไปทำความเข้าใจประชาชนและสื่อ ผบ.ทร. ระบุจำเป็นต้องมี เพื่อรักษาผลประโยชน์ทางทะเลที่มีมูลค่ามหาศาล 24 ล้านล้านบาทต่อปี แต่เรือดำน้ำราคาแค่ 3.6 หมื่นล้านเท่านั้น เตรียมชี้แจงความจำเป็นต่อสาธารณะถึงภารกิจทหารเรือที่ต้องรบทั้ง 3 มิติ บนอากาศ ผิวน้ำ ใต้น้ำ วอนคนไทยต้องเชื่อใจกัน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงการชะลอเสนอโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ผ่านมา ได้เสนอมาตลอดระยะเวลา10ปี แต่ถูกระงับหรือชะลอกลับไป ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกองทัพเรือได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา17คน พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว แต่คงต้องไปสร้างการรับรู้และชี้แจงให้กลุ่มที่มีความสงสัยมีความเข้าใจ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และยืนยันว่ากองทัพเรือยังไม่ได้ยกเลิกโครงการ ยังเป็นไปตามแผนการพัฒนาศักยภาพของกองทัพเรือ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นอาถรรพ์หรือไม่ที่โครงการดังกล่าวมักถูกกระแสต้านทุกยุคสมัย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้าประชาชนเข้าใจ ก็สามารถดำเนินการได้ การใช้งบประมาณในโครงนี้ เป็นการใช้งบผูกพันจ่ายเป็นระยะได้ เพราะไม่ได้ใช้งบประมาณก้อนใหญ่ในครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือต้องพยายามทำความเข้าใจต่อไป

** ยันลงทุน3.6หมื่นล้านได้คืนมากกว่า

พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวว่า เบื้องต้นจะสั่งให้ พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง ผู้ช่วย ผบ.ทร. ในฐานะประธานคณะกรรมการโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ทำเอกสารชี้แจงต่อสาธารณะชน และสื่อมวลชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงความจำเป็นและความคุ้มค่าในการจัดซื้อเรือดำน้ำ

ส่วนที่มีการระบุในข่าวว่าผลประโยชน์ของชาติทางทะเลมีมูลค่า 2 ล้านล้านบาทต่อปีนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะจากข้อมูลในการศึกษาของกองทัพเรือ พบว่า ผลประโยชน์มีมูลค่ามากถึง 24 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งถือว่ามีมูลค่ามหาศาล เมื่อเทียบกับเรือดำน้ำที่จะซื้อจำนวน 3 ลำ มูลค่า แค่ 3.6 หมื่นล้านบาท และสามารถใช้งานได้ถึง 30 ปี

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วถือว่าคุ้มค่ามากที่สุด เหมือนเป็นการสร้างบ้านที่จำเป็นต้องมีรั้วรอบขอบชิดในการป้องกันรักษาบ้าน และที่วิจารณ์กันว่าอ่าวไทยมีความตื้น ไม่สามารถที่จะปกปิดร่องรอยของเรือดำน้ำได้นั้น ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะกองทัพเรือได้ศึกษาด้านภูมิศาสตร์มาเป็นอย่างดีแล้ว ส่วนเรื่องงบประมาณนั้นยืนยันว่าไม่กระทบต่องบประมาณกลางของรัฐบาลแต่อย่างใด เนื่องจากกองทัพเรือได้งบประมาณประจำปี 4 หมื่นล้านบาท หากซื้อเรือดำน้ำจริง ก็จะเจียดงบประมาณบางส่วนมาจัดซื้อโดยผ่อนชำระเป็นรายปีได้

"เราต้องเชื่อใจกัน และเคารพในการทำหน้าที่ของใครของมัน เพราะเรือดำน้ำเป็นผลประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับมากกว่า เพราะเป็นอาวุธที่มีศักยภาพสูงในการป้องกันทางทะเล ทั้งอ่าวไทย และอันดามัน โดยเฉพาะพื้นที่อ่าวไทยที่มีพื้นที่กว่า 3 แสนตารางไมล์ กองทัพเรือจะทำสิ่งที่อยู่ในความรับผิดชอบ ถ้าไม่ให้จัดซื้อ ก็ไม่เป็นไร กองทัพเรือเราถือว่าเราได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว" พล.ร.อ.ไกรสร กล่าว

** กองทัพเรือหวังประชาชนเข้าใจ

แหล่งข่าวจากกองทัพเรือ กล่าวว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำยังเป็นไปตามแผนเดิม ที่จะพิจารณาจัดหาจากประเทศจีน จำนวน 3 ลำ วงเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท ไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพราะกองทัพเรือมีความจำเป็นที่จะต้องมีเรือดำน้ำเข้าประจำการ เนื่องจากเป็นยุทโธปกรณ์ที่สำคัญจริงๆ ในการป้องกันและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

ส่วนที่มีข้อติติงว่า กองทัพเรือ มีเรือรบผิวน้ำจำนวนมากแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องจัดหาเรือดำน้ำ ก็ต้องชี้แจงให้เข้าใจว่า การรบต้องประกอบกำลัง 3 มิติทั้งบนอากาศ ผิวน้ำ และใต้น้ำ ซึ่งบางอย่างไม่สามารถที่จะทำการแทนกันได้ ถ้าขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วถือว่าไม่สมบูรณ์ เรือดำน้ำเป็นปัจจัยสำคัญในยุคอนาคต และจะเป็นกำลังหลักในการรบทางทะเล เพื่อสร้างให้กองทัพมีความเข้มแข็ง เพราะหากกองทัพเรือไทยไม่มีเรือดำน้ำ ไม่ใช่ว่าคนไทยจะดีใจที่ไม่ได้จัดซื้อ แต่เพื่อนบ้านที่มีผลประโยชน์ทางทะเล จะกลับเป็นฝ่ายดีใจมากกว่า

ดังนั้น คนไทยต้องช่วยกันผลักดัน และเข้าใจถึงภารกิจของกองทัพเรือในครั้งนี้ เพราะการจัดซื้อไม่ใช่นำเงินก้อนเดียวไปจัดซื้อ แต่เป็นการผ่อนจ่ายเป็นรายปี 7-10 ปี ก็แล้วแต่ ครม. จะเห็นชอบอีกครั้ง ซึ่งงบประมาณจัดซื้อ เป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีของกองทัพเรือ ไม่ได้ใช้งบประมาณกลางของรัฐบาล อย่างที่มีการเข้าใจกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น