สนช.ประชุมถอดถอน “สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล” หลังถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดร่ำรวยผิดปกติจากการแสดงทรัพย์สินบ้านย่านวิเศษชัยชาญ ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาฯ เจ้าตัวขอเพิ่มพยานแผนที่ทหาร และคำให้การสถาปนิกสร้างบ้าน ขณะที่ สนช.ยอมให้เพิ่้มพยานหลักฐาน กำหนดวันเปิดคดี 29 ต.ค.
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (17 ก.ย.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม ได้พิจารณากระบวนการถอดถอนนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ออกจากตำแหน่ง ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งสำนวนชี้มูลความผิดมายัง สนช.กรณีร่ำรวยผิดปกติ จากการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน บ้านเลขที่ 5/5 ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ตั้งแต่ปี 2541 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อีกทั้งยังมีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องโดยปลูกสร้างแล้วเสร็จ 2554 ซึ่งมีมูลค่า 16 ล้านบาทเศษ ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 ซึ่งเป็นการกำหนดวันแถลงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้กล่าวหา และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และพิจารณาคำขอเพิ่มเติมพยานหลักฐานของผู้ถูกกล่าวหา
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตนขอเสนอพยานหลักฐานเพิ่มเติมจำนวน 7 ประเด็น ประกอบด้วย พยานชิ้นที่ 1 ภาพถ่ายทางอากาศ และพยานชิ้นที่ 2 รายงานการสำรวจภูมิประเทศ ของกรมแผนที่ทหาร เหตุที่ตนไม่ได้นำเสนอต่อ ป.ป.ช. เพราะไม่ทราบว่ามีภาพดังกล่าวเนื่องจากเป็นเอกสารราชการ แต่หลังจากอ่านสำนวนแล้วได้หารือกับผู้รู้ แนะนำว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในการเสนอเพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจ บ้านตนได้มาขณะดำรงตำแหน่ง ทำให้ได้มาหรือไม่อย่างไร จึงได้ร้องขอไปยังกรมแผนที่ทหาร เพื่อขอภาพถ่ายและคำอ่านรายละเอียดทั้งหมด
นายสมศักดิ์กล่าวว่า พยานชิ้นที่ 3-4-5-6 ประกอบด้วยพยานเอกสาร บันทึกคำให้การของนายพนม พงษ์ไพบูลย์ อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายกว้าง รอบคอบ อดีตอธิบดีกรมสามัญศึกษา นางกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ และนายจรูญ ชูลาภ อดีตอธิบดีกรมอาชีวศึกษา ซึ่งบุคคลเหล่านี้ดำรงตำแหน่งในขณะที่ตนเป็น รมว.ศึกษาธิการ เพราะ ป.ป.ช.ไม่ได้มีการสอบปากคำข้าราชการระดับผู้บริหาร และมองว่า 3 กรมนี้เป็นเป้าใหญ่ถูกมองว่ามีงบประมาณมากน่าจะอาศัยตำแหน่งหาผลประโยชน์ได้ จึงต้องการยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่างของตนในตำแหน่งรัฐมนตรีต้องเป็นไปตามข้อปฏิบัติ ระเบียบข้าราชการทั้งสิ้น และพยานชิ้นที่ 7 เป็นพยานให้ปากคำของ พ.ต.ท.ก้องกานต์ ฉันทปรีดา สถาปนิกก่อสร้างบ้าน ซึ่งสำนวนของ ป.ป.ช.ชี้มูล ขาดรายละเอียดไม่ชัดเจนว่าบ้านเลขที่ 5/5 ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อไหร่ โดยคำให้การจะบอกกำหนดระยะเวลาก่อสร้างเป็นอย่างชัดเจน เพื่อให้สมาชิกพิจารณาว่าขั้นตอนก่อสร้างจนเสร็จ ตนได้มาก่อนดำรงตำแหน่ง รมว. หรือได้ภายหลัง
ด้านนายณรงค์ รัฐอมฤต ตัวแทนฝ่ายกรรมการ ป.ป.ช.ชี้แจงว่า นายสมศักดิ์ไม่ได้ยื่นเรื่องแผนที่ภาพภ่ายทางอากาศ และรายงานการสำรวจภูมิประเทศต่อ ป.ป.ช.ตั้งแต่ต้น โดยในการไต่สวนของ ป.ป.ช.นั้นได้ให้โอกาสผู้ถูกร้องชี้แจงเกี่ยวกับพยานหลักฐานถึง 17 ครั้ง ดังนั้นเอกสารทั้ง 2 รายการอยู่นอกสำนวนของ ป.ป.ช ส่วนเอกสารคำให้การของสถาปนิก ทาง ป.ป.ช.ไม่ขัดข้องที่จะให้ใช้เป็นพยายานเพิ่มเติม
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้ทำหนังสือมาหาตนเพียง 3 ครั้ง ไม่ใช่ 17 ครั้ง และไม่ทราบจริงๆ ว่ามีภาพถ่ายทางอากาศที่สามารถจะบอกความเป็นไปของบ้านหลังดังกล่าวได้ เพราะเป็นเอกสารราชการ หลังจาก ป.ป.ช.ชี้มูลและได้อ่านรายละเอียด มีพรรคพวกเพื่อนฝูงที่รู้ได้แนะนำว่าน่าจะนำมาเสนอทั้งต่อศาลและ ป.ป.ช.เพื่อใช้ประกอบการพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มีมติไม่อนุญาตให้เพิ่มรายการพยานหลักฐานชิ้นที่ 3-4-5-6 บันทึกคำให้การอดีตผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ แต่อนุญาตให้เพิ่มพยานหลักฐานชิ้นที่ 1 และ 2 คือ ภาพถ่ายแผนที่ และชิ้นที่ 7 บันทึกคำให้การของสถาปนิกที่ก่อสร้างบ้านหลังดังกล่าวเท่านั้น และยังได้กำหนดวันเปิดสำนวนวันที่ 29 ต.ค. และส่งญัตติซักถามภายในวันนี้ถึงวันที่ 30 ต.ค.