แกนนำ ชทพ.เผยไม่ติดใจประธาน สนช.ไม่ให้เพิ่มพยานบันทึกถ้อยคำผู้บริหารในกระทรวงศึกษาธิการ เหตุมองเป็นอดีตลูกน้อง เชื่อไม่มีผลคดี ยังสู้ต่อได้ที่ศาลฎีกา พรรคยังไม่ได้ถกส่งชื่อนั่ง สปท.
วันนี้ (17 ก.ย.) นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาเพิ่มพยานหลักฐานตามสำนวนชี้มูลความผิดกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหาว่ามีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ เนื่องจากไม่ยื่นรายการทรัพย์สินเป็นบ้านในอำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง มูลค่า 16 ล้านบาทว่า การที่ สนช.ไม่เห็นชอบให้เพิ่มเติมพยานหลักฐานที่ตนร้องขอต่อที่ประชุมซึ่งเป็นบันทึกถ้อยคำของผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการฝ่ายข้าราชการนั้น ตนไม่ติดใจที่ทางประธาน สนช.มองว่าเป็นผู้ใต้บังคับของตน ในความเห็นตนคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน แต่เมื่อ สนช.ลงมติไม่ให้เพิ่มพยานหลักฐานในส่วนดังกล่าว คิดว่าไม่น่าจะมีผลต่อกระบวนการพิจารณาของ สนช. ทั้งนี้ ในรายละเอียดของพยานหลักฐานต่างๆ ยังมีกระบวนการต่อสู่คดีที่อยู่ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย โดยในส่วนของ สนช.เป็นเรื่องของถอดถอนเท่านั้น
นายสมศักดิ์กล่าวถึงการเลือกสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะมีสัดส่วนของพรรคการเมืองว่า ประเด็นดังกล่าวทางพรรคชาติไทยพัฒนายังไม่ได้นัดประชุมเพื่อหารือถึงเรื่องนี้ ดังนั้น พรรคจึงยังไม่มีมติใดๆ ออกมา ส่วนจะส่งรายชื่อหรือไม่นั้น เบื้องต้นต้องได้รับการติดต่อจากรัฐบาลก่อน เพราะพรรคจะไปเสนอชื่อโดยไม่ได้มีการติดต่อมาก่อนไม่ได้