xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กต๊อก” ให้ดูพฤติกรรมวงรอบกลุ่มพูดหยาม คสช.-สมาคมสื่อหวั่นกระทบภาพลักษณ์ประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
“บิ๊กต๊อก” ให้ไปดูพฤติกรรมวงรอบ “นักการเมือง-นักข่าวเนชั่น” พูดเหยียดหยาม คสช. เหตุถูกเรียกปรับทัศนคติ ยันไม่เชิญมาจะไม่มีพื้นที่ในการพูดคุย เกรงเป็นข้ออ้างไปพูดผ่านสื่อ ย้ำไม่ปิดกั้น ด้านอุปนายกสมาคมนักข่าวฯ เรียกร้องรัฐบาล-คสช.ทำความชัดเจนคุมตัวผู้สื่อข่าวอาวุโส เดอะเนชั่น ชี้ไม่เพียงกระทบสิทธิเสรีภาพสื่อ-คนไทย แต่ส่งผลต่อภาพลักษณ์โดยรวมประเทศ

วันนี้ (14 ก.ย.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ คสช.เชิญตัวนักการเมืองและผู้สื่อข่าวมาปรับทัศนคติอย่างต่อเนื่องว่า เป็นการเรียกเพื่อไปทำความเข้าใจ ไม่เช่นนั้นการปฏิรูปก็จะไม่สามารถเดินหน้าได้ ต้องดูพฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวว่าได้แสดงความคิดเห็นหรือให้ข้อมูลผ่านสื่อจนส่งผลกระทบหรือไม่ ทั้งนี้อยากให้คิดในแง่บวกว่าการที่ คสช.ใช้มาตรการเชิญตัวไปปรับทัศนคติเป็นมาตรการที่ดีกว่าใช้มาตรการอื่น

“เพราะถ้าไม่เชิญมาจะไม่มีพื้นที่ในการพูดคุยและอาจเป็นข้ออ้างที่จะพูดผ่านสื่อต่อไป ผมขอให้กลับไปดูถึงพฤติกรรมบุคคลที่ถูกเรียกมาปรับทัศนคติด้วยว่าได้แสดงความเห็นดีหรือไม่ดีอย่างไร คสช.ไม่ได้ห้ามการแสดงความคิดเห็น แต่การพูดส่อเสียด พูดเหน็บแนม เหยียดหยาม ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง จะเห็นว่าพฤติกรรมเช่นนี้มาเป็นวงรอบ เริ่มขึ้นตั้งแต่การคว่ำรัฐธรรมนูญ”

ส่วนกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย อ้างถูกเจ้าหน้าที่ทหารทำร้ายร่างกายว่า นายวัฒนามีสิทธิตามกฎหมาย หากเห็นว่าถูกละเมิดสิทธิก็ควรใช้สิทธิในการดำเนินการตามขั้นตอน แต่ไม่รู้ว่าทหารคนดังกล่าวและนายวัฒนามีเรื่องอะไรระหว่างกันมาก่อนหน้านี้หรือไม่

วันเดียวกัน มีรายงานว่า นายมานพ ทิพย์โอสถ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ และโฆษกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่ทหารกองทัพภาคที่ 1 ควบคุมตัวนายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโส เดอะเนชั่น ว่า สมาคมนักข่าวฯ ขอเรียกร้องให้กองทัพภาคที่ 1 ได้ชี้แจงเหตุผลในการควบคุมตัวนายประวิตรไปโดยยังไม่ทราบสถานที่ควบคุมตัว และนายประวิตรไม่ได้รับอนุญาตให้นำโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย ทำให้ไม่สามารถทราบความเคลื่อนไหวและความเป็นอยู่ของนายประวิตรได้นับตั้งแต่คุมตัวไปเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา

การดำเนินการของฝ่ายความมั่นคงที่กระทำต่อสื่อมวลชน พึงกระทำด้วยความระมัดระวังแม้ จะมีอำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ ที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกประกาศไว้ก็ตาม แต่บทบาทของนายประวิตร ที่มีฐานะเป็นสื่อมวลชนย่อมจะต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลเป็นปกติ การควบคุมตัวนายประวิตรโดยไม่แจ้งสาเหตุหรือมีการแจ้งความดำเนินคดีใดๆ ย่อมไม่ส่งผลดีต่อประเด็นสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนไทย และสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนชาวไทยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) มาตรา 4 ได้ให้การรับรองไว้

นอกจากนี้ การดำเนินการในลักษณะดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศที่ตกต่ำลงในด้านสิทธิเสรีภาพของประชาชน ทั้งนี้ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยขอสนับสนุนแถลงการณ์ของเครือเดอะเนชั่น ที่ขอให้รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติปล่อยตัวนายประวิตรในทันที และให้ทำความกระจ่างเรื่องการควบคุมตัวนายประวิตรต่อสาธารณชน รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินการในประเด็นที่อ่อนไหวต่อสังคม เพราะการใช้อำนาจของฝ่ายความมั่นคงต่อผู้ที่เห็นต่าง โดยเฉพาะสื่อมวลชนเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศ

สมาคมนักข่าวฯ ขอเรียกร้องให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนได้ตระหนักและยึดมั่นในจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพอย่างเคร่งครัด การแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นสาธารณะพึงคำนึงถึงความครบถ้วน รอบด้าน และเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในสังคม


ข่าวจากเวปไซค์สมาคมนักข่าวฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น