นายกฯ ระบุใช้กฎหมายปกติดำเนินคดี “เก่ง การุณ” ข้อหาก่อให้เกิดความไม่สงบต่อบ้านเมือง เตือน “พิชัย” ที่ผ่านมาให้อภัยมา 7 ครั้ง ครั้งนี้อาจไม่ให้อภัยแล้ว ยกตัวอย่าง “เบ้งเฮ็ก” ในสามก๊กเปรียบเทียบ สวนกลับพวกเคยทำให้ชาติเสียหายมาในอดีตไม่ต้องมาแนะ พล่ามอยู่ได้ไม่มาจากประชาธิปไตย ตนเข้ามาเพราะมันล่มจมอยู่แล้ว
วันนี้ (11 ก.ย.) เวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการเชิญตัวนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพื่อปรับทัศนคติว่า “ก็เขาพูดอะไรออกมาหรือเปล่า มันจบแล้ว” เมื่อถามว่า แสดงว่าหากมีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลในทางตรงกันข้ามก็จะถูกเรียกตัวไปใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ต้องดูว่าวิพากษ์เชิงไหน สร้างสรรค์หรือเปล่า ถ้าสร้างสรรค์ ผมรับอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่สร้างสรรค์ ผมก็ไม่ค่อยรับ มีแนวโน้มที่จะสร้างความไม่เข้าใจ และสร้างความเข้าใจผิดหรือเปล่า เรื่องนี้มันมีกฎหมายอยู่หรือไม่ กฎหมายปกติเองก็มีในเรื่องที่นำไปสู่สถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย ทำไมจะต้องให้เตือน ให้พูดกันบ่อยครั้ง ที่ผ่านมาปัญหาเกิดขึ้น เพราะคนไม่เคารพกฎหมาย จึงกล้าแสดงออกในทุกๆ เรื่อง และรัฐบาลก็ไม่ได้ยุติในสิ่งเหล่านี้ ผมไม่ได้อยากใช้กฎหมายกับคนที่ตรงข้ามผม แต่ใช้กฎหมายกับคนที่ทำความผิด ใครผิดก็เอาทั้งนั้นนั่นแหละ ไม่ว่าจะใครทั้งนั้น”
เมื่อถามว่า กรณีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน ถูกเรียกตัวไปแล้วถึง 7 ครั้งจะมีการดำเนินการอะไรที่เด็ดขาดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ให้อภัยมา 6-7 ครั้งแล้วไง ครั้งที่ 7 นี้อาจจะไม่ให้ก็ได้ ขณะนี้เขากำลังพิจารณากันอยู่ ถ้ามันพูดกันไม่รู้เรื่อง คราวหน้าก็ต้องดำเนินคดี เพราะมันผิดกฎหมายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่ามาว่า ว่าวันข้างหน้าจะต้องขึ้นศาลหรือได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ เพราะให้โอกาสมาแล้วหลายครั้ง”
เมื่อถามว่า แสดงว่ากรณีที่มีการวิจารณ์ซ้ำซากก็จะมีการตั้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ใช่ตั้งข้อกล่าวหา มันมีข้อหาอยู่แล้ว แต่มีการให้อภัย ด้วยความเมตตา “ไปอ่านสามก๊กดู เขาให้อภัยกันมา 7 ครั้งแล้ว ครั้งที่ 7 เขาก็ยอมปฏิบัติตาม ไม่งั้นเบ้งเฮ็กก็ถูกตัดคอไปแล้ว กลับไปอ่านกันบ้าง”
เมื่อถามว่ายังมีในข่ายเช่นนี้อีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รู้กันอยู่แล้ว ก็ทุกคนนั่นแหละที่ออกมาพูดให้เกิดความแตกแยก และให้ร้ายรัฐบาลให้สิ่งที่รัฐบาลไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เราต้องการพัฒนาประเทศ อย่ามาติติงในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำมา แล้วมาสอนตน ถ้าทำแล้วไม่ได้ผลอย่ามาสอน อย่ามาแนะนำ ไม่ต้องมาแนะนำ กลับไปดูบ้างที่ทำกันมานั้นเป็นอย่างไร และตนก็ต้องเข้ามาแก้ แล้วสื่อจะปล่อยให้คนเหล่านี้มาพูดติติงตนอย่างนั้นหรือ สังคม ประชาชนก็จะฟังตามแล้วก็เชื่อเข้าสักวันว่าไอ้คนนี้มันเก่ง เศรษฐกิจวันนี้มันแย่ เพราะไม่ทำอย่างที่คนคนนั้นพูด ทั้งๆ ที่ปัญหาเศรษฐกิจวันนี้มันเกิดจากอดีตแล้วไม่ได้รับการดูแล อย่าลืมว่าวันนี้วิธีการทำและจุดมุ่งหมายเป็นคนละเรื่อง
“หลายๆ เรื่อง มันไม่ใช่เรื่องที่คนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาจะออกมาแนะนำอะไรผมได้ คิดถึงหัวอกผมบ้าง ถ้าใครที่เกี่ยวข้องกับความผิดพลาดเสียหายที่ผ่านมา ไม่ควรจะพูดอะไร ควรจะสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพราะยังติดเรื่องของกระบวนการประชาธิปไตย วันนี้ผมจะทำงานให้ แล้วมาติผมทำไม จะรังเกียจผมได้อย่างไร ผมมาเกือบจะ 2 ปีแล้ว วันนี้ควรไปดูประชาชนบ้าง สายตาและความต้องการของเขาคืออะไร ไปดูกันบ้าง ผมมองทุกอย่างและดูทุกคน ไม่ว่าจะสีอะไรก็มองและดูให้ทั้งหมด วันนี้ขอร้องว่าอย่ามาต่อต้านหรืออะไรกับผมมากนัก ผมทำทุกอย่างก็เพื่อพวกท่านทั้งสิ้น ผมไม่เคยฝืนกระบวนการประชาธิปไตยในอนาคตเลย กำลังเตรียมทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็งให้ประชาชนมีการเรียนรู้ในช่วงเวลาที่เปลี่ยนผ่าน ถ้าไม่ทำเช่นนี้มันก็จะกลับไปแบบเดิมจนล่มสลายไปด้วยตัวของมันเอง ผมไม่ได้บอกว่าผมทำทุกอย่างดีเลิศประเสริฐศรี แต่ผมเข้ามาทำหน้าที่ในช่วงเวลาที่มันล่มอยู่แล้ว มันเดินหน้าไม่ได้ แล้วมันจะทำอย่างไร ถ้าผมไม่มา ถ้ามันเดินได้ก็เลือกตั้งกันไป ผมก็ไม่ต้องมายืนตรงนี้ แต่มันเดินต่อกันไม่ได้สักอย่าง สื่อต้องช่วยอธิบายด้วย ไม่ใช่มามองแต่วันนี้ว่าผมไม่ได้มาจากประชาธิปไตย พูดกันอยู่เรื่องเดียว อยากจะถามว่าแล้วที่ผ่านมามันมาจากการเลือกตั้งกันหรือเปล่า แล้วที่มันติดกับใครกันที่ทำ ผมก็ไม่ใช่คนทำ แล้วมันจะอะไรกันนักหนาก็ขอร้องเถอะ นักการเมือง พรรคการเมืองเยอะแยะที่ดีๆ แต่คนไม่ดีบางพรรคมันก็มีอยู่ อนาคตประชาชนก็ต้องดู”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในช่วงท้ายถึงกรณีการควบคุมนายการุณอีกครั้งว่าจะมีการควบคุมตัวตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด มีกฎหมายที่บัญญัติไว้อยู่แล้ว เบื้องต้นเริ่มแรกให้ 7 วัน หลังจากนั้นตำรวจก็จะเป็นผู้พิจารณาข้อกล่าวหาซึ่งข้อหามีอยู่ชัดเจนอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าแล้วจะตั้งข้อหาอะไรต่อนายการุณ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ข้อหาทำให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง มีกฎหมายปกติใช้บังคับและดำเนินการอยู่แล้ว ตำรวจเป็นผู้ดูแลอยู่แล้ว ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าได้ใช้กำลังทหารไปเชิญตัวมานั้นก็เป็นเพียงแค่การให้ทหารเป็นผู้เชิญตัวมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นคนดูในกระบวนการต่างๆ โดยการดำเนินคดีก็จะใช้กฎหมายปกติ เนื่องจากพิจารณาแล้วคำพูด คำจาของนายการุณนั้นผิด “ผมอยากขอให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการบ้าง ลองคิดดูว่าช่วงที่ผ่านมาเขาทำประโยชน์อะไรกันมาบ้าง”